ปัจจุบันการหาอาหารญี่ปุ่นรับประทาน ถือเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นร้านระดับพรีเมียม หรืออาหารญี่ปุ่นที่จัดสรรเป็นคำ เพื่อง่ายต่อการรับประทาน ซึ่งรสชาติก็ต้องมีการปรับให้คุ้ยเคยกับคนไทย ดังนั้นการที่จะหาอาหารญี่ปุ่นรับประทานแบบฉบับของคนญี่ปุ่นโดยแท้ คงจะเป็นเรื่องที่ยาก แต่ใครจะเชื่อว่าในร้านเล็กๆ ที่ตั้งเป็นเพิงอยู่ในซอยลาดพร้าว 71 จะยกเมนูอาหารจากประเทศญี่ปุ่นไว้ให้คนไทยได้ลิ้มลอง
มาลัย นานใหม่ ภรรยาเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น “ซาโตอิจิ” เล่าว่า แนวคิดในการเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นไอเดียของผู้เป็นสามี (นายทาคาฮาชิ เคอีอิชิ) ชาวญี่ปุ่น ที่ชื่นชอบการทำอาหาร แต่เมื่อผู้เป็นภรรยามาเช่าที่ริมทางในซอยลาดพร้าว 71 เปิดขายอาหารตามสั่ง ส้มตำ ไก่ย่าง ทำให้นายทาคาฮาชิ ไม่มีงานทำ จึงเริ่มลองทำอาหารญี่ปุ่น ในลักษณะของทานเล่น เช่น โคโรเกะ (มันฝรั่งบด + หมูสับ) และโชยุราเมน (บะหมี่ในน้ำซอสญี่ปุ่น+หมูแดงญี่ปุ่น) เป็นเมนูเสริมในร้าน ซึ่งลูกค้าก็ชื่นชอบ จึงเริ่มเพิ่มเมนูอาหารญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง อย่าง ข้าวราดแกงกะหรี่ ซึ่งทุกเมนูอาหารญี่ปุ่นที่เสริมเข้ามานั้นได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก จนทำให้ครัวที่มีขนาดเล็กอยู่แล้วเริ่มคับแคบ 2 สามีภรรยา จึงตัดสินใจเปิดเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเต็มรูปแบบเมื่อต้นปี 2550 ที่ผ่านมา
“ร้านซาโตอิจิ ของเราเปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2550 โดยในช่วงแรกผู้คนที่ผ่านไปผ่านมายังไม่มั่นใจในรสชาติ เพราะส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการรับประทานอาหารญี่ปุ่นตามห้างสรรพสินค้า แต่เมื่อลูกค้าได้ลิ้มลองก็จะติดใจในรสชาติที่เป็นเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ซึ่งเราเชื่อได้ว่ารสชาติเช่นนี้หารับประทานในไทยได้ยาก โดยทางร้านเน้นรสชาติที่เข้มข้น รวมถึงการเน้นความสะอาดของอาหารและสภาพภายในร้านมาเป็นอันดับหนึ่ง รวมถึงไม่มีการใช้ผงชูรสกับทุกๆ เมนู อีกด้วย”
สำหรับเมนูยอดนิยมแบ่งออกเป็นของอาหารทานเล่น ได้แก่ โคโรเกะ (มันฝรั่ง+หมูสับ ชิ้นละ 15 บาท), คุชิคะสึ (หอมใหญ่+หมูเสียบไม้ ราคา 15 บาท) และเกี๊ยวซ่า (5 ชิ้น 30 บาท) ซึ่งของทานเล่นเหล่านี้ลูกค้าสั่งจองกันเยอะ ส่งผลให้บางครั้งทำจำหน่ายไม่ทัน ส่วนเมนูหลักยอดนิยม ได้แก่ คัตสึกะหรี่ (แกงกะหรี่ราดข้าว+หมูชุบแป้งทอด ราคา 75 บาท) ที่เป็นสูตรแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแบบโบราณ เน้นเครื่องเทศหอมกรุ่น, โชยุราเมน (ราคา 35 บาท) เป็นต้น ซึ่งวัตถุดิบส่วนใหญ่ประมาณ 80% โดยเฉพาะซอสปรุงรสต่างๆ จะนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่เนื้อหมู และผักจะใช้ของที่ผลิตในไทย
นอกจากทางร้านจะมีชาวญี่ปุ่นอย่างนายทาคาฮาชิ เจ้าของร้าน เป็นโลโก้ที่บ่งบอกถึงความเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น และรสชาติดั้งเดิมตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ แล้ว ยังมีนายอิเคดะซัง เพื่อนสนิทของนายทาคาฮาชิ ที่ชื่นชอบการทำอาหารเช่นกัน มาช่วยทำอาหารให้บางเมนู ในช่วงที่นายทาคาฮิ ต้องเดินทางไปต่างประเทศ และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่นายทาคาฮาชิได้แสดงฝีมือในการทำโคโรเกะ ซึ่งฝีมือก็ไม่แพ้นายทาคาฮาชิ ลูกค้าก็สั่งจองเมนูโคโรเกะจนทำไม่ทันเช่นเดิม
ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นซาโตอิจิ ถือเป็นธุรกิจที่ทำกันในครอบครัว ไม่มีการจ้างลูกจ้าง ส่งผลให้มีการบริการลูกค้าด้วยใจ และเต็มที่ แต่สุดท้ายแล้ว มาลัย ก็ยังไม่พอใจในธุรกิจนี้มากเท่าที่ควร โดยเฉพาะในเรื่องการบริการลูกค้า ที่หากเมื่อไรที่ลูกค้าต้องยืนรออาหารบริเวณหน้าร้านนาน ต้องยืนตากแดด ถึงขั้นเป็นลม มาลัยจะเสียใจทุกครั้ง แต่ด้วยสภาพของร้านที่อยู่ริมถนน คับแคบ ไม่สามารถขยายร้านได้ ทำให้เป็นอุปสรรคในเรื่องการบริการลูกค้าอยู่ในขณะนี้
สำหรับร้านซาโตอิจิ ตั้งอยู่ริมทางภายในซอยลาดพร้าว 71 เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร ตั้งแต่เวลา 10.30 น. ส่วนเวลาปิดขึ้นอยู่กับปริมาณอาหาร หากหมดก็ปิดร้าน ประมาณ 15.00 น. แต่ทางที่ดีควรจะโทรไปสอบถามก่อนที่เบอร์ 087-973-3583, 084-713-9356