ศึกษากลยุทธ์ทำตลาด 70 ปี กับมุมมอง “ยาอมตะขาบ 5 ตัว”

เป็นที่ทราบกันว่ายาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ได้อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน แม้ว่าจะเป็นแบรนด์ไทย แต่ก็ถือว่ามีศักยภาพทั้งในเรื่องประสิทธิภาพของตัวยา ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแพคเกจก็ได้พัฒนาให้มีคุณสมบัติเก็บรักษาคุณภาพของตัวยาให้คงสภาพเดิมมากที่สุด และนี่เองคงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาธุรกิจของตนเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป และนึกถึงผู้บริโภคมาเป็นอันดับหนึ่ง

นายสุเทพ สิมะวรา ประธานกรรมการ บริษัท 5 ตะขาบ (ซิมเทียมฮ้อ) จำกัด เล่าว่า ตนเองเป็นทายาทธุรกิจรุ่นที่ 2 ที่ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่เอาใจใส่เป็นพิเศษเลือกวัสดุอย่างดี เพื่อเก็บรักษาคุณภาพของตัวยาให้ได้มากที่สุดในแบรนด์ “ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว” ที่ได้มีการผสมสมุนไพรไทยและจีนเข้าไว้ด้วยกัน และได้รับการยอมรับในเรื่องประสิทธิภาพในกลุ่มคนไทยทั้งในและต่างประเทศมาอย่างยาวนาน

กลยุทธ์คุณภาพสินค้าขายตัวเองได้

แม้ว่าที่ผ่านมาทางบริษัทฯ จะไม่ได้ทำการตลาดอย่างจริงจังมากนัก แต่สินค้ากลับมีจำหน่ายและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เนื่องจากคนไทยได้หิ้วเพื่อไปจำหน่ายต่อกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในย่านที่ชาวเอเชียอาศัยอยู่มากจะรู้จักกันดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอีกอย่างหนึ่ง ที่ผู้ผลิตไม่ต้องลงทุน เพียงแต่รักษาคุณภาพสินค้าให้คงที่ ก็จะทำให้คนคนที่รู้ซึ้งถึงประสิทธิภาพ และมองเห็นช่องทางการตลาด จะช่วยสร้างแบรนด์ และทำตลาดให้ ซึ่งถือกลยุทธ์หนึ่งที่ผู้ประกอบการรายอื่นสามารถนำไปปรับใช้ได้ โดยต้องเริ่มจากผลิตสินค้าให้มีคุณภาพก่อน

ปรับรสชาติอมง่ายขึ้นเจาะกลุ่มวัยรุ่น

จากสูตรยาอมแก้ไอที่เป็นสูตรดั้งเดิมสมัยรุ่นปู่ ที่เน้นชูรสชาติสมุนไพรจีนมาเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้บางครั้งรสชาติไม่ถูกปากวัยรุ่น ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับเปลี่ยนรสชาติ และรูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์ของสินค้าให้ดูทันสมัยมากขึ้น ซึ่งรสชาติก็ได้การนเม็ดอมไปเคลือบน้ำตาลผสมสมุนไพรไทย 3 รสชาติ คือ มิ้นต์ ตะไคร้ และส้ม รวมถึงยังได้นำรสชาติดั้งเดิม ใส่ลงในบรรจุภัณฑ์ใหม่ด้วย เพื่อความสะดวกในการพกพาและรับประทาน ซึ่งในอนาคตจะเพิ่มรสชาติใหม่ขึ้น ได้แก่ สตรอเบอรี่ ขิงลิ้นจี่ องุ่น และแอปเปิ้ล เป็นต้น คาดจะช่วยเพิ่มยอดขายในเติบโตเพิ่มมากขึ้น

เล็งส่งเองนำร่องประเทศจีน

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ยาอมแก้ไอแบรนด์ไทยๆ ที่มีอายุมายาวนานกว่า 70 ปี ต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วย โยเฉพาะในเรื่องมาตรฐานการผลิตที่ต้องเป็นระบบที่ได้รับการรับรองจากนานาประเทศ เพื่อรองรับการทำตลาดส่งออกในอนาคต ซึ่งทางยาอมตะขาบ 5 ตัว ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามปรับเปลี่ยนขั้นตอนการผลิตให้เป็นสากลมากขึ้น โดยเมื่อปีพ.ศ.2544 ที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ได้รับทราบข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข ที่ต่อไปการผลิตยาจะต้องมีมาตรฐาน GMP ซึ่งทางบริษัทฯ ก็ได้ศึกษาขั้นตอนอย่างต่อเนื่องใช้เวลาประมาณ 3 ปี จนกระทั่งปรับปรุงกระบวนการผลิต สภาพโรงงาน จนได้รับมาตรฐาน GMP ในที่สุด โดยได้รับคำปรึกษาจากโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย ภายใต้ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำตลาดส่งออกไปยังประเทศจีน จากเดิมที่เป็นเพียงให้ตัวแทนจำหน่ายในฮ่องกง และมาเก๊า กระจายสินค้าให้เท่านั้น

“การที่เราจะเริ่มเจาะตลาดส่งออกเอง จะเริ่มในประเทศจีนก่อน เพราะเป็นตลาดใหญ่ หากเราเจาะตลาดจีนได้ก็ถือว่าได้เปรียบ และเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยกระจายสินค้าและแบรนด์ให้รู้จักได้อย่างรวดเร็ว โดยขณะนี้เรามีทายาทธุรกิจรุ่นที่ 3 ที่มีความรู้ด้านการตลาด และภาษาจีนกลางเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจคือนายไพบูลย์ ที่เป็นทายาทรุ่นใหม่ เข้ามาดูแลด้านการทำตลาดในประเทศจีนอย่างเต็มตัว ส่งผลให้การเปิดตลาดในจีนไม่ใช่เรื่องยากนัก”