“ชาลี” ตุ๊กตาขายไอเดีย บทพิสูจน์สร้างแบรนด์จากผลิตภัณฑ์

"ชาลี" ตุ๊กตาหัวกลม ตาโต ปากกว้าง ความน่ากลัวที่แฝงไปด้วยความน่ารัก สามารถเรียกรอยยิ้มให้กับผู้พบเห็นที่ต้องแวะเวียนเข้ามาเพื่อขอดูหน้าเจ้าชาลีอย่างใกล้ชิด และอดไม่ได้ที่จะยอมควักกระเป๋าเพื่อได้เจ้าชาลีมาไว้ครอบครองเป็นเจ้าของ และเจ้าของตุ๊กตาหัวกลม ตาโต ปากกว้าง ที่ชื่อชาลี นี้เป็นของ "ธีรภัทร์ ศรีชูกุล" ภายใต้ชื่อกิจการ SCARY FACTORY

ธีรภัทร์ เล่าถึงที่มาของ SCARY FACTORY ว่า เกิดขึ้นมาจากตนเองอยู่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยสินค้าที่ออกแนวงานศิลปะและมีความแปลกใหม่จะเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศ ดังนั้น ด้วยความที่ครอบครัวทำธุรกิจด้านทัวร์ท่องเที่ยวอยู่แล้ว เห็นลู่ทางว่าน่าจะทำอะไรขายนักท่องเที่ยวได้บ้าง จึงได้สำรวจตลาดว่าสินค้าประเภทไหนที่สามารถขายนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งพบว่า สินค้าที่ออกในแนวของงานศิลปะแปลกใหม่เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยว

หลังจากนั้น ก็กลับมาคิดออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความแตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ในท้องตลาด เพื่อให้ได้รูปแบบและดีไซน์ที่ซ้ำกับใคร และต้องการให้สินค้ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นโลโก้ของสินค้าต่อไปในอนาคตด้วย จึงได้ออกมาเป็นตัวตุ๊กตาที่ชื่อ “ชาลี” โดยนำมาเป็นแบบสำหรับสกรีนและเพนท์ ซึ่งรูปแบบและสัญลักษณ์ของชาลีนั้น เป็นตุ๊กตาที่ออกแนวผีน่ารักๆ หัวกลม ตาโต ปากกว้าง ซึ่งถ้าเป็นวัยรุ่น วัยทำงานจะชื่นชอบเพราะดูน่าสนใจ แต่ถ้าเป็นเด็กๆ มากก็อาจจะกลัวไม่กล้าซื้อไปเล่น

จุดเด่นของชาลีนอกจากรูปร่างหน้าตาที่แปลกไม่เหมือนใครแล้ว ความน่าสนใจยังอยู่ที่สีสันที่สดใส ที่จะมาช่วยเบรกหน้าของชาลีที่ออกแนวน่ากลัวให้ดูน่ารักสดใสมากขึ้น ธีระภัทร์ บอกว่า ในครั้งแรกที่ออกแบบเจ้าชาลีจะออกแนวสยองมากกว่านี้มาก ไม่ว่าจะเป็นไส้หรือ ตาที่ทะลักออกมา เพราะต้องการสร้างจุดสนใจให้ผู้พบเห็นเมื่อเห็นตุ๊กตาชาลีต้องหันกลับมาดูใกล้ๆ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเพราะลูกค้าให้ความสนใจ แต่ได้ลูกค้าในกลุ่มที่ไม่กว้าง เพราะน่ากลัวเกินไป ระยะหลังจึงได้ปรับสไตล์งานออกแบบให้ดูน่ากลัวน้อยลง ออกสไตล์น่ารัก เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของเรา

หลังจากมีการปรับรูปแบบให้ชาลีออกแนวน่ารัก ได้มีการออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น จากเดิมอาจจะเป็นแค่เพียงตุ๊กตาตั้งโชว์เท่านั้น ต่อมามีการตัดเย็บเป็นกระเป๋าสะพายสำหรับผู้หญิงรูปตุ๊กตาชาลี และ มีการนำรูปชาลีไปสกรีนบนเสื้อยืด กระเป๋า หรือ รองเท้าที่สวมใส่ภายในบ้าน นอกเหนือจากตุ๊กตา โดยได้ว่าจ้างแรงงานกลุ่มแม่บ้านในอำเภอแม่แจ่ม ช่วยเรื่องของงานตัดเย็บ และงานเขียนลาย แต่ในระยะหลังยอดการสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น จึงเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรเข้ามาช่วยแทนการใช้แรงงานคน

ปัจจุบันมีวางขายอยู่บนถนนคนเดิน ที่วัวลาย ตลาดวโรรส และลานแพ ซึ่งจะเป็นลักษณะของการตั้งโต๊ะขายกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเปิดขายมานานกว่า 2 ปี ผลตอบรับค่อนข้างดี ลูกค้าเกือบ 100% เป็นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงใหม่ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ และจากการได้ขายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทำให้ได้ลูกค้าชาวต่างชาติสนใจมารับสินค้าไปจำหน่ายที่ประเทศของเขาด้วย

สำหรับยอดการสั่งซื้อจากต่างประเทศประมาณ 60% ขายในประเทศประมาณ 40% ประเทศที่ส่งออกไปจำหน่าย ได้แก่ ไต้หวัน มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ฯ โดยกระจายสินค้าผ่านซัพพลายเออร์ รวมรายได้ต่อเดือนประมาณ 30,000 บาท ถึง 40,000 บาทเป็นยอดที่ยังไม่หักค่าใช้จ่าย โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงเกือบ 80% ทำให้ในระยะหลังสินค้าที่ออกใหม่จะดีไซน์ออกไปในแนวของใช้ของผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มหลักที่ชื่นชอบเจ้าชาลี

แผนในอนาคตตั้งใจจะส่งออกให้ได้มากขึ้น เพราะจากการได้ทดลองทำตลาดมาได้ระยะหนึ่งพบว่าลูกค้าต่างประเทศชื่นชอบและพอใจในรูปแบบ ส่วนตลาดเมืองไทยคงจะยังไม่แผนขยายตลาดในช่วงนี้

ธีระภัทร์ เล่าว่า ต้องการจะขยายตลาดให้กว้างขึ้น จึงได้มาเข้าร่วมโครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ (NEC) นอกเหนือจากแนวทางการตลาดทำให้รู้ถึงวิธีการ ขั้นตอนและแนวทางในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งบางเรื่องเป็นสิ่งที่ไม่รู้มาก่อน อย่างไรก็ตามในส่วนการลอกเลียนไม่ได้กลัว เพราะที่เชียงใหม่มีเด็กเก่งที่จบด้านงานศิลปะออกมามาก ซึ่งการลอกเลียนแบบคงจะเป็นลักษณะแนวคิดมากกว่า ส่วนสไตล์และรูปแบบของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป

โทร.086-912-0738