เปิดกลยุทธ์ ‘Mr.SUSHI’ ทำอย่างไรให้ขาย “ซูชิ” คุณภาพภัตตาคารได้ในราคา 10 บาท พร้อมสำรวจเส้นทางธุรกิจ จากเริ่มเช่าบูทในห้างสรรพสินค้าสู่การบุกหาลูกค้าพนักงานออฟฟิศ จนสามารถพัฒนาตลาดให้มีช่องทางครบวงจรได้สำเร็จ
จุดไอเดียซูซิราคาถูก
จอมแพง ปะวะเสนะ เจ้าของธุรกิจ Mr.SUSHI เผยว่า ที่มาของซูชิ ทุกหน้า 10 บาทนั้น เกิดจากตัวเอง และสามี เคยทำงานอยู่ฝ่ายอาหารญี่ปุ่นของโรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งหนึ่ง โดยสามีทำหน้าที่เป็นพ่อครัวอาหารญี่ปุ่น และมีความเห็นตรงกันว่า อาหารญี่ปุ่นคุณภาพดีจะหากินได้เฉพาะตามโรงแรมหรูๆ หรือภัตตาคารเท่านั้น ซึ่งราคาแพงมาก ทว่า จากประสบการณ์ตรงที่อยู่ในวงการรู้ดีว่า ความเป็นจริง ราคาไม่จำเป็นต้องขายแพงขนาดนั้นก็ได้ จึงเป็นไอเดียจะทำซูซิที่อร่อย คนไทยกลุ่มใหญ่ คือ ระดับชั้นกลางสามารถหากินได้ง่ายๆ ขายในราคาเดียวกันหมด ทุกหน้าชิ้นละ 10 บาท
“เคล็ดลับที่ทำให้สามารถขายซูชิได้ในราคา 10 บาท และคุณภาพเท่ากับภัตตาคาร อยู่ที่การบริหารต้นทุน กำไรต่อหน่วยน้อย แต่ขายในปริมาณมากๆ และขยายฐานลูกค้าออกไป ขณะเดียวกัน ต้องมีแหล่งวัตถุดิบคุณภาพดี ที่สามารถส่งวัตถุดิบสดใหม่ได้ทุกวัน” จอมแพง เผย
ดาวกระจายขยายตลาด
เธอ เล่าต่อว่า ใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 400,000 บาท อาทิ ค่าอุปกรณ์ วัตถุดิบ ค่าสถานที่ เป็นต้น โดยเริ่มเปิดร้านแรกที่ห้างเสรี เซ็นเตอร์ เมื่อปี 2548 อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกมีข้อจำกัดที่จุดขายมีเพียงแห่งเดียว ยอดขายต่อวันประมาณ 4,000 -5,000 บาท คำนวณแล้ว ต้นทุนซูชิของ Mr.SUSHI สูงกว่า 60-70% เมื่อบวกค่าพนักงาน ค่าขนส่ง และค่าเช่าสถานที่แล้ว แทบไม่เหลือกำไรเลย
ทางออกของปัญหาดังกล่าว ใช้วิธีกระจายจุดขายให้มากขึ้น โดยตระเวนเปิดบูทตามใต้อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะย่านสีสม วิทยุ ราชประสงค์ รัชดา ฯลฯ ถือเป็นเจ้าแรกที่เอาจริงกับตลาดกลุ่มนี้ ผลปรากฏว่าได้การตอบรับอย่างสูง ยอดขายเพิ่มมากขึ้นมากกว่า 3 เท่าตัว ต้นทุนต่อชิ้นลดลง เหลือประมาณ 50% ทำให้สามารถคืนเงินลงทุนได้ภายในระยะเวลา 4 เดือนเท่านั้น
และผลพลอยได้จากการตระเวนออกบูทตามใต้อาคารต่างๆ ซึ่งจะแจกแผ่นพับแนะนำร้านควบคู่ไป ทำให้ได้กลุ่มลูกค้าองค์กรต่างๆ ที่จะสั่ง Mr.SUSHI ไปบริการในงานจัดเลี้ยงนอกสถานที่ หรืองานปาร์ตี้ต่างๆ เช่น งานเลี้ยงพนักงาน งานปีใหม่ งานแต่งงาน เป็นต้น โดยคิดค่าบริการ 5,000 บาทขึ้นไป
อีกทั้ง ได้ขยายหน้าร้านตัวเองตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ รวมแล้ว มีทั้งหมด 5 สาขา ได้แก่ เสรีเซ็นเตอร์ , ซีคอนสแควร์ , อิมพีเรียล สำโรง, โลตัส สะพานใหม่ และอาคารเอสซีบี ปาร์ค นอกจากนั้น เสริมบริการ Delivery ส่งตรงถึงบ้านอีกด้วย
จากช่องทางตลาดที่หลากหลายดังกล่าว ทำให้ปัจจุบัน Mr.SUSHI มียอดขายรวมกว่าวันละประมาณ 3,500 ชิ้น คิดเป็นข้าวที่ใช้ต่อวันกว่า 100 กิโลกรัม สร้างรายได้กว่า 300,000 บาทต่อเดือนทีเดียว
ปั้นสดๆ โชว์เรียกลูกค้า
จอมแพง ระบุว่า จุดเด่นของ Mr.SUSHI คือ คัดสรรวัตถุดิบเกรด A กว่า 80% เป็นชนิดเดียวกับที่ภัตตาคารชื่อดังเลือกใช้ อีกทั้ง มีความหลากหลาย รวมแล้วมีกว่า 25 หน้า เช่น ข้าวปั้นหน้ากุ้ง , ข้าวปั้นหน้าปลาโอ , ข้าวปั้นหน้ายำสาหร่าย ฯลฯ
นอกจากนั้น เวลาขายหน้าร้าน ออกบูท และบริการนอกสถานที่ จะให้พนักงานแต่งกายด้วยชุดญี่ปุ่นเพิ่มสีสันน่าสนใจ อีกทั้ง จะปั้นกันสดๆ โชว์ให้เห็นขั้นตอน และความสะอาดในการทำ ขณะที่รสชาติ อาศัยข้อได้เปรียบที่กำลังผลิตต่อวันสูง วัตถุดิบที่นำมาใช้จึงสดใหม่เสมอ ช่วยให้รสชาติชูซิอร่อยถูกปากลูกค้า
ตั้งเป้าขยายรวม 10 สาขา
แผนการขยายธุรกิจนั้น จอมแพง เล่าให้ฟังว่า เคยพยายามจะขายแฟรนไชส์ แต่หลังจากทดลองตลาด พบปัญหา คนที่มาร่วมธุรกิจไม่สามารถรักษาคุณภาพได้ ดังนั้น จึงตัดสินใจจะไม่ขยายในรูปแบบแฟรนไชส์อีกต่อไป หันมาเพิ่มสาขาด้วยตัวเองอย่างเดียว ตั้งเป้าว่า ปีหน้า (2551) จะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา และจะหยุดเมื่อขยายได้ทั้งหมด 10 สาขา เพื่อให้การบริหารสามารถดูแลได้ทั่วถึง
เจ้าของธุรกิจ Mr.SUSHI เผยว่า ทุกวันนี้ การแข่งขันธุรกิจซูชิ 10 บาท ดุเดือดอย่างมาก แทบทุกอาคารสำนักงาน และย่านธุรกิจในกรุงเทพฯ จะมีซูชิราคาถูกไปวางขายหมดแล้ว ไม่เท่านั้น ผู้ผลิตบางรายยังขายตัดราคาที่ชิ้นละ 7-8 บาทด้วยซ้ำ
ดังนั้น เพื่อจะหนีการแข่งขันดังกล่าว พยายามเจาะกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนขึ้น เน้นคนระดับกลางจริงๆ ที่ไม่ต้องการกินอาหารญี่ปุ่นที่ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อถือ และไม่อยากกินแพงจนเกินไป รวมถึง ใช้แบรนด์ที่ลูกค้าเริ่มจดจำได้แล้ว นำเสนอลูกค้าองค์กรต่างๆ เพื่อรับจัดงานนอกสถานที่มากยิ่งขึ้น
******************************
ถอดสูตรคุ้มต้นทุนชิ้นละ 10 บาท |
1.ผลิตในปริมาณมาก เพื่อลดต้นทุนวัตถุดิบ 2.สร้างเครือข่าย หรือหาพันธมิตรในการซื้อวัตถุดิบที่คุณภาพดี ในราคาเหมาะสม 3.จัดระบบขนส่งให้คล่องตัว เพื่อควบคุมค่าขนส่ง 4.เน้นกระจายจุดขายให้กว้าง และเหมาะสมในหลายๆ รูปแบบ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้สูง 5.สร้างทีมงานที่เชี่ยวชาญ ลดความสูญเสียในขั้นตอนผลิตให้น้อยที่สุด 6. มีระบบบริหารจัดการบัญชีที่โปร่งใส ป้องกันเงินสูญหายโดยปราศจากสาเหตุ |
******************************
โทร.0-2748-9842 และ www.mr-sushi.net