“ตระกูลกัง” ชื่อยี่ห้อของ "หอยจ้อปู" ผู้ที่เดินทางผ่านเส้นทางท่องเที่ยวชลบุรี – ระยอง บริเวณ อำเภอบ้านบึง คงจะได้เคยสัมผัสและได้ทดลองชิมหอยจ้อปู ตระกูลกัง กันมาบ้างแล้ว วันนี้ แผนบุกตลาดของ หอยจ้อตระกูลกัง ได้เริ่มต้นจากความสำเร็จในการทำตลาดให้กับนักท่องเที่ยว และเสียงเรียกร้องจากลูกค้าในกรุงเทพฯ ทาง "จริยา กังวลกิจ" เจ้าของสูตรหอยจ้อปู ตระกูลกัง มองเห็นลู่ทางการบุกตลาดในกรุงเทพฯ ผ่านงานแสดงสินค้าเพราะเป็นการเปิดตัวที่อาจจะถือได้ว่าค่อนข้างจะประสบความสำเร็จและไม่ต้องใช้งบจำนวนมาก
กลยุทธ์การเปิดตัวของ หอยจ้อตระกูลกังในครั้งนี้ ใช้การออกแบบบูธที่โดดเด่นมาสร้างจุดสนใจให้ลูกค้า ก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจเข้ามาชิมหอยจ้อภายในบูธ ซึ่ง คุณจริยา มั่นใจในรสชาติของหอยจ้อตระกูลกังอยู่แล้ว ดังนั้น แผนการเข้ามาบุกตลาดในกรุงเทพฯ จึงมั่นใจว่า เมื่อลูกค้าได้ทดลองชิมจะติดใจในรสชาติและสามารถขยายตลาดในกรุงเทพฯและในอีกหลายจังหวัดได้ไม่ยาก
จริยา เล่าว่า ได้เริ่มทำหอยจ้อออกจำหน่ายได้ประมาณ 3 ปี ซึ่งขายอยู่ในร้านเส้นปลาก๋วยเตี๋ยวบ้านบึง ซึ่งที่เลือกทำหอยจ้อปู เพราะในย่านหนองมน เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาซื้อหอยจ้อไปเป็นของฝาก แต่หอยจ้อที่ขายในหนองมนส่วนใหญ่จะมีหมูปนไม่ใช่หอยจ้อที่ทำจากปู จึงคิดว่าน่าจะทำหอยจ้อปูที่ทำจากเนื้อปูล้วน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยว ประกอบกับในบริเวณอำเภอบ้านบึงนั้น ได้มีหอยจ้อคุณภาพดีที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว 2-3ราย
สำหรับจุดเด่นของอำเภอบ้านบึงอยู่ที่ชื่อเสียงของก๋วยเตี๋ยวหมูที่นักท่องเที่ยวที่ผ่านย่านนี้ต้องแวะมาทาน ส่วนหอยจ้อก็มักจะขายควบคู่อยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยว เมื่อนักท่องเที่ยวแวะมาทานก๋วยเตี๋ยวก็จะซื้อหอยจ้อติดมือไปเป็นของฝาก ซึ่งเราเองก็เป็นหนึ่งในร้านก๋วยเตี๋ยวหมูบ้านบึงที่ขายนักท่องเที่ยว ดังนั้นเราก็ควรจะต้องมีห้อยจ้อคุณภาพดีขายควบคู่เช่นเดียวกับร้านอื่นในย่านนี้ จึงได้เป็นที่มาของหอยจ้อ "ตระกูลกัง" ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของเราเอง เพราะเรามีพื้นฐานด้านการทำอาหารจีนมาอยู่แล้ว จึงไม่ยากในการจะทำหอยจ้อออกมาจำหน่าย
"จุดเด่นของหอยจ้อตระกูลกัง คือ เน้นคุณภาพเพราะใช้เนื้อปูล้วน โดยไม่มีเนื้อหมูปน เน้นความสดทำให้ราคาหอยจ้อของเราจะสูงกว่าหอยจ้อที่ขายทั่วไปตามท้องตลาด โดยราคาขายส่งแบบไม่ทอดลูกละ 13 บาท ที่ผ่านมาขายอยู่ที่ร้านขายได้ประมาณวันละ 2,000 ลูก การเปิดตลาดในครั้งนี้ อาศัยการออกงานแสดงสินค้าเป็นหลัก ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าจะมีลูกค้าสนใจมารับสินค้าไปจำหน่าย ประมาณวันละ 10,000-20,000 ลูก ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ตลาดในกรุงเทพฯเป็นหลัก เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ลูกค้าที่มาซื้อหอยจ้อของเราที่ร้านที่ชลบุรี ส่วนใหญ่จะเป็นคนกรุงเทพฯเกือบ 80%"
ทั้งนี้ การเข้ามาเปิดตัวในกรุงเทพฯในชื่อของตระกูลกังในครั้งนี้ จะขายหอยจ้อควบคู่ไปกับลูกชิ้นปลา ซึ่งทำมานานกว่า 50 ปี เพราะทุกคนก็จะรู้จักลูกชิ้นปลาบ้านบึงเป็นอย่างดี ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าจะช่วยดึงลูกค้าได้ โดยตัวลูกชิ้นปลาของเราถือได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งในอำเภอบ้านบึงในขณะนี้ก็ว่าได้ เพราะร้านก๋วยเตี๋ยวหมูบ้านบึง เกือบทุกร้านสั่งซื้อลูกชิ้นปลาจากที่ร้านของเรา และยังได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอทอป และได้ผ่านการคัดสรรเป็นสุดยอดสินค้าโอทอป 4 ดาวระดับประเทศด้วย
สำหรับจุดเริ่มต้นของยี่ห้อ ตระกูลกัง มาจากต้องการจะขยายตลาดหอยจ้อให้กว้างขึ้น และเป็นการขยายกิจการให้รุ่นลูกได้เข้ามาดูแล โดยพยายามสร้างยี่ห้อของตระกูลกังให้เป็นที่รู้จักผ่านผลิตภัณฑ์หอยจ้อปู เพราะในอนาคตมีสินค้าตัวอื่นๆ ภายใต้ยี่ห้อดังกล่าวออกมาอีก ส่วนแผนตลาดในช่วงเริ่มต้น ต้องการแนะนำสินค้าให้ลูกค้าได้รู้จักตระกูลกังก่อน โดยเลือกออกงานแสดงสินค้า เพื่อหาตัวแทนจำหน่ายหรือผู้สนใจที่ต้องการจะรับสินค้าไปขาย เพราะการลงทุนขยายกิจการด้วยการเปิดร้านเองต้องใช้ทุนสูงมาก อย่างไรก็ตามในอนาคต ถ้ามีออร์เดอร์เข้ามามากพอ จำเป็นที่จะต้องมีหน้าร้านเพื่อเป็นศูนย์กลางในการรับออร์เดอร์ในกรุงเทพฯสัก 2-3 แห่ง
ส่วนการขายแฟรนไชส์อยู่ในแผนเช่นกัน แต่คงจะเป็นเรื่องของอนาคต เพราะสิ่งที่เราต้องการคือ ต้องการเป็นผู้ผลิตมากกว่าการลงมาทำตลาดเอง ซึ่งในส่วนของแฟรนไชส์ที่มองไว้และมีแผนจะเปิดน่าจะเป็นลักษณะของการทำแฟรนไชส์ลูกชิ้นมากกว่าในลักษณะของร้าน ยำ ลวก จิ้ม ในส่วนของหอยจ้อปูที่ผ่านมาลูกค้าจะซื้อในลักษณะสดๆ เพื่อนำไปทอดเองมากกว่า โดยใช้วิธีการแช่แข็งไปให้ลูกค้า ซึ่งผู้ที่มารับซื้อสินค้าของเราไปจำหน่ายใช้วิธีการแช่แข็ง เช่นเดียวกัน และส่งไปตามจุดต่างๆ เพราะเรามีทีมส่งลูกชิ้นอยู่แล้ว ก็สามารถใช้ทีมเดียวกันได้
ผู้สนใจโทร.089-600-1999
