กรมทรัพย์สินทางปัญญาจัดงาน “ตลาดนัดทรัพย์สินทางปัญญา” กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการค้า และพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ในเชิงพาณิชย์
นางพวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ภายหลังจากนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานตลาดนัดทรัพย์สินทางปัญญาปี 2550 ว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการค้า พัฒนาศักยภาพและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ รวมถึง ให้เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาสู่เวทีการค้าสากล ทางกรมฯ ได้จัดงาน “ตลาดนัดทรัพย์สินทางปัญญา” ระหว่างวันที่ 20-22 กรกฎาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในงานจะมีการนำผลงานนวัตกรรมทางทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยจัดแสดงให้มีการศึกษานำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ อีกทั้งยังมีการจดทะเบียนการเจรจาซื้อขายสิทธิการจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ โดยปีที่ผ่านมาการจัดงานดังกล่าวสามารถจับคู่ทางธุรกิจได้มากกว่า 300 ราย ดังนั้น ในปีนี้คาดหวังว่าการเจรจาทางธุรกิจจะไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา และน่าจะมีมูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท
นอกจากนี้ การจัดงานดังกล่าวเจ้าของสิทธิ์โดยเฉพาะกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ได้มีการส่งตัวแทนที่เป็นทนายและเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศเข้ามาร่วมจัดบูท เพื่อให้บริการแก่คนไทยที่จะคิดค้นหรือส่งออกสินค้าไปยังประเทศเหล่านี้ว่ามีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือไม่ ซึ่งจะสร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการไทยด้วย
นางพวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ภายหลังจากนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานตลาดนัดทรัพย์สินทางปัญญาปี 2550 ว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการค้า พัฒนาศักยภาพและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ รวมถึง ให้เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาสู่เวทีการค้าสากล ทางกรมฯ ได้จัดงาน “ตลาดนัดทรัพย์สินทางปัญญา” ระหว่างวันที่ 20-22 กรกฎาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในงานจะมีการนำผลงานนวัตกรรมทางทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยจัดแสดงให้มีการศึกษานำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ อีกทั้งยังมีการจดทะเบียนการเจรจาซื้อขายสิทธิการจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ โดยปีที่ผ่านมาการจัดงานดังกล่าวสามารถจับคู่ทางธุรกิจได้มากกว่า 300 ราย ดังนั้น ในปีนี้คาดหวังว่าการเจรจาทางธุรกิจจะไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา และน่าจะมีมูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท
นอกจากนี้ การจัดงานดังกล่าวเจ้าของสิทธิ์โดยเฉพาะกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ได้มีการส่งตัวแทนที่เป็นทนายและเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศเข้ามาร่วมจัดบูท เพื่อให้บริการแก่คนไทยที่จะคิดค้นหรือส่งออกสินค้าไปยังประเทศเหล่านี้ว่ามีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือไม่ ซึ่งจะสร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการไทยด้วย