ทูตการค้าเผยแนวโน้มอาหารโคเชอร์ (kosher) ในตลาดสหรัฐฯ บูม มีมูลค่าสูงถึงปีละ 3.5 แสนล้านบาท แนะผู้ส่งออกไทยบุกเจาะตลาดด่วน ก่อนจีนแย่งตลาดสำคัญ
นางกัญญา อมรธีระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงชิคาโก เปิดเผยถึงผลการสำรวจภาวะตลาดอาหารที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงกว่าอาหารทั่วไป หรืออาหารโคเชอร์ (Kosher) ในตลาดสหรัฐฯ ว่า มีอัตราการขยายตัวสูงมาก โดยปัจจุบันนี้ มีผู้บริโภคอาหารโคเชอร์ประมาณ 10.05 ล้านคนในสหรัฐฯ และคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัว 10% ต่อปี โดยตลาดอาหารโคเชอร์มีมูลค่าประมาณ 350,000 ล้านบาทต่อปี คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัว 14% ต่อปี และยังพบอีกว่าชาวอเมริกัน 15% ซื้ออาหารที่เป็นเฉพาะโคเชอร์ 58% ซื้อหารโคเชอร์เป็นบางโอกาส และ 27% ไม่ซื้ออาหารโคเชอร์เลย
“ตลาดอาหารโคเชอร์เป็นอาหารที่คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวสูงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยขณะนี้ อาหารโคเชอร์ได้รับการจัดอันดับเป็นอาหาร Top 6 Food Trend ของสหรัฐฯ และปัจจุบันมีอาหารและเครื่องดื่มที่ผ่านการรับรองว่าเป็น Kosher Food และจำหน่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปในสหรัฐฯ กว่า 50,000 ชนิด ขณะที่ผู้นำเข้าในวงการอาหารและเครื่องดื่มรายสำคัญของสหรัฐฯ ก็เริ่มเข้าสู่วงการอาหารโคเชอร์มากขึ้นโดยลำดับ” นางกัญญากล่าว
นางกัญญากล่าวว่า ขณะนี้ไทยมีนโยบายในการเป็น Kitchen to the World ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยควรจะศึกษาระเบียบประเพณีและกฎเกณฑ์ด้านอาหารของกลุ่มผู้บริโภคอาหารโคเชอร์ และควรจะสมัครขอรับตรา Kosher เพราะการละเลิกหรือเพิกเฉยต่อการได้รับตราดังกล่าว จะเป็นผลเสียต่อโอกาสในการขยายตลาดโคเชอร์ที่มีมูลค่ากว่า 350,000 ล้านบาทได้
นอกจากนี้ สำนักงานฯ ได้เสนอให้กรมส่งเสริมการส่งออก จัดฝึกอบรมและบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับตลาดอาหารโคเชอร์ และการขอรับตรา Kosher ให้แก่ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย รวมทั้งให้การสนับสนุนทางการเงินบางส่วนแก่ผู้ผลิต ผู้ส่งออกที่ขอรับรองตรา Kosher และต้องจัดทำฐานข้อมูลรายชื่อผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าอาหารที่ได้รับตรารับรองดังกล่าวเผยแพร่ให้ผู้นำเข้าสหรัฐฯ ที่สำคัญควรจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารโคเชอร์ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้จะจัดวันที่ 11-12 พ.ย.2550 ที่นิวยอร์ก
สำหรับอาหารโคเชอร์ ที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่ม ไวน์ สุรา ชา กาแฟ นมเนย ชีสต์ อาหารขบเคี้ยว ซอสปรุงอาหารชนิดต่างๆ อาหารแช่แข็ง รวมถึงอาหารทะเล โดยสหรัฐฯ เป็นประเทศผู้ผลิตอาหารโคเชอร์รายใหญ่ของโลก แต่ก็มีความต้องการนำเข้าจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น มีแหล่งนำเข้าสำคัญ คือ อิสราเอล รัสเซีย กลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก และจีน และปัจจุบันนี้ องค์การ Orthodox Union ซึ่งเป็นองค์การให้การรับรองอาหารโคเชอร์ ตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์ก แจ้งว่าผู้ผลิต ผู้ส่งออกของจีนได้รับตรารับรองโคเชอร์แบบทั่วไปกว่า 2,000 ราย และในจำนวนนี้มี 50 รายได้รับการรับรองมาตรฐานแบบ Stricted Kosher ทำให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตอาหารโคเชอร์อันดับที่สามรองจากสหรัฐฯ และอิสราเอล
นางกัญญา อมรธีระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงชิคาโก เปิดเผยถึงผลการสำรวจภาวะตลาดอาหารที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงกว่าอาหารทั่วไป หรืออาหารโคเชอร์ (Kosher) ในตลาดสหรัฐฯ ว่า มีอัตราการขยายตัวสูงมาก โดยปัจจุบันนี้ มีผู้บริโภคอาหารโคเชอร์ประมาณ 10.05 ล้านคนในสหรัฐฯ และคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัว 10% ต่อปี โดยตลาดอาหารโคเชอร์มีมูลค่าประมาณ 350,000 ล้านบาทต่อปี คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัว 14% ต่อปี และยังพบอีกว่าชาวอเมริกัน 15% ซื้ออาหารที่เป็นเฉพาะโคเชอร์ 58% ซื้อหารโคเชอร์เป็นบางโอกาส และ 27% ไม่ซื้ออาหารโคเชอร์เลย
“ตลาดอาหารโคเชอร์เป็นอาหารที่คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวสูงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยขณะนี้ อาหารโคเชอร์ได้รับการจัดอันดับเป็นอาหาร Top 6 Food Trend ของสหรัฐฯ และปัจจุบันมีอาหารและเครื่องดื่มที่ผ่านการรับรองว่าเป็น Kosher Food และจำหน่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปในสหรัฐฯ กว่า 50,000 ชนิด ขณะที่ผู้นำเข้าในวงการอาหารและเครื่องดื่มรายสำคัญของสหรัฐฯ ก็เริ่มเข้าสู่วงการอาหารโคเชอร์มากขึ้นโดยลำดับ” นางกัญญากล่าว
นางกัญญากล่าวว่า ขณะนี้ไทยมีนโยบายในการเป็น Kitchen to the World ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยควรจะศึกษาระเบียบประเพณีและกฎเกณฑ์ด้านอาหารของกลุ่มผู้บริโภคอาหารโคเชอร์ และควรจะสมัครขอรับตรา Kosher เพราะการละเลิกหรือเพิกเฉยต่อการได้รับตราดังกล่าว จะเป็นผลเสียต่อโอกาสในการขยายตลาดโคเชอร์ที่มีมูลค่ากว่า 350,000 ล้านบาทได้
นอกจากนี้ สำนักงานฯ ได้เสนอให้กรมส่งเสริมการส่งออก จัดฝึกอบรมและบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับตลาดอาหารโคเชอร์ และการขอรับตรา Kosher ให้แก่ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย รวมทั้งให้การสนับสนุนทางการเงินบางส่วนแก่ผู้ผลิต ผู้ส่งออกที่ขอรับรองตรา Kosher และต้องจัดทำฐานข้อมูลรายชื่อผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าอาหารที่ได้รับตรารับรองดังกล่าวเผยแพร่ให้ผู้นำเข้าสหรัฐฯ ที่สำคัญควรจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารโคเชอร์ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้จะจัดวันที่ 11-12 พ.ย.2550 ที่นิวยอร์ก
สำหรับอาหารโคเชอร์ ที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่ม ไวน์ สุรา ชา กาแฟ นมเนย ชีสต์ อาหารขบเคี้ยว ซอสปรุงอาหารชนิดต่างๆ อาหารแช่แข็ง รวมถึงอาหารทะเล โดยสหรัฐฯ เป็นประเทศผู้ผลิตอาหารโคเชอร์รายใหญ่ของโลก แต่ก็มีความต้องการนำเข้าจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น มีแหล่งนำเข้าสำคัญ คือ อิสราเอล รัสเซีย กลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก และจีน และปัจจุบันนี้ องค์การ Orthodox Union ซึ่งเป็นองค์การให้การรับรองอาหารโคเชอร์ ตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์ก แจ้งว่าผู้ผลิต ผู้ส่งออกของจีนได้รับตรารับรองโคเชอร์แบบทั่วไปกว่า 2,000 ราย และในจำนวนนี้มี 50 รายได้รับการรับรองมาตรฐานแบบ Stricted Kosher ทำให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตอาหารโคเชอร์อันดับที่สามรองจากสหรัฐฯ และอิสราเอล