“บ้านนิลพลอย” เป็นร้านขายอัญมณี ตั้งอยู่ใน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี แม้ตัวร้านจะไม่ใหญ่โตหรูหรา แถมการเดินทางไปค่อนข้างลำบาก แต่ด้วยประสบการณ์ของเจ้าของร้าน ซึ่งอยู่ในวงการมายาวนาน ประกอบกับสินค้าคุณภาพการันตีของแท้ กลายเป็นจุดแข็งสร้างความมั่นใจแก่ผู้ซื้อ ช่วยให้ธุรกิจก้าวไปได้ด้วยดี
จุดเริ่มต้นธุรกิจนั้น “ณรงค์ ประดับศิลป์” เจ้าของร้าน “บ้านนิลพลอย” ใน ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เผยว่า เริ่มต้นทำงานเป็นช่างพลอย ในร้านอัญมณี ที่ จ.จันทบุรี เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว ก่อนจะย้ายไปทำงานบ่อพลอย จ.กาญจนบุรี จนถึงจุดอิ่มตัว และสะสมประสบการณ์ในวงการนี้มากพอ ตัดสินใจย้ายมาตั้งถิ่นฐานใน อ.สวนผึ้ง เพื่อเปิดร้านเจียระไน และขายอัญมณีของตัวเอง เมื่อราว 5 ปีที่แล้ว โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 200,000 บาท
หากมาที่ร้าน “บ้านนิลพลอย” จะพบว่า ทำเลร้านค่อนข้างหายาก ต้องขับรถเลี้ยวไปมาหลายโค้ง ขณะที่ปากทางเข้า ถ้ามาครั้งแรก ยากจะสังเกตเห็น เพราะทั้งแคบและเล็ก แต่แม้ว่า ทางมาลำบากเช่นนี้ ลูกค้ากลับเดินเข้าออกร้านตลอดแทบทั้งวัน มาจากในจังหวัดราชบุรี กรุงเทพฯ และอื่นๆ แทบจะทั่วประเทศ
เจ้าของร้าน อธิบายว่า ลูกค้ากว่า 90% ของร้านจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเอง เพราะลูกค้าเหล่านี้ เป็นขาประจำไว้วางใจว่า ซื้ออัญมณีจากที่นี่จะได้ของแท้ อีกทั้ง ได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอทอป 3 ดาวของจังหวัด และผ่านมาตรฐานสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ช่วยให้ลูกค้าเพิ่มความเชื่อมั่นยิ่งขึ้นอีก
“ธุรกิจนี้ ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือ ลูกค้าต้องการความมั่นใจว่า เขาจะได้ของแท้แน่ๆ ซึ่งจากประสบการณ์ของของผม บอกได้ว่า ทุกวันนี้มีร้านค้าแอบขายของปลอมอยู่ไม่น้อย ลูกค้าบางคนลงทุนไปซื้อพลอยในพม่า ก็ยังได้ของปลอมกลับมา ลูกค้าบางคนซื้อไปเก็บเป็นสิบๆ ปี ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นของปลอม ดังนั้น พอมีร้านของตัวเอง ผมจึงเน้นตรงนี้มาก ขายกำไรน้อยๆ แต่ได้ลูกค้าระยะยาว พยายามอธิบายอย่างใจเย็นให้ลูกค้าได้เห็นคุณค่า และข้อมูลที่แท้จริงของพลอยแต่ละชนิด” ณรงค์ เผย
ทั้งนี้ วัตถุดิบทั้งหมด เขาจะเดินทางไปซื้อ และคัดเลือกด้วยตัวเองที่บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เพื่อมั่นใจว่าจะได้ของแท้และมีคุณภาพ ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ ที่นำมาประกอบ เช่น เครื่องเงิน เอ็นร้อยสร้อย ลูกปัด ฯลฯ ซื้อหาจากกรุงเทพฯ โดยในร้านของเขา สามารถทำได้ครบวงจร ตั้งแต่เจียระไนและนำไปประกอบเป็นเครื่องประดับต่างๆ เช่น แหวน สร้อย กำไร ต่างหู ฯลฯ สนนราคามีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักแสนทีเดียว ซึ่งราคาดังกล่าว ถูกกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่ขายในห้างสรรพสินค้า เพราะไม่ต้องบวกต้นทุนค่าเช่าสถานที่
สำหรับการออกแบบเป็นเครื่องประดับต่างๆ นั้น จะดูตามเทรนด์แฟชั่นในแต่ละช่วงเวลา ประกอบกับต้องศึกษาศาสตร์ฮวงจุ้ย และศาสตร์ของอัญมณีกับราศีปีเกิดควบคู่ไปด้วย เพื่อออกแบบให้ตรงความต้องการของผู้สวมใส่ที่เชื่อในด้านโชคลาง โดยพลอยที่กำลังเป็นที่นิยมสูงสุดขณะนี้ คือ “พลอยสตาร์” เชื่อกันว่า จะช่วยให้ผู้ครอบครองพบกับชัยชนะในทุกด้าน
ณรงค์ บอกต่อว่า ในอนาคตเรื่องทำเลร้านค่อนข้างไกล จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะปัจจุบันเส้นทางถูกพัฒนาให้สามารถผ่านไปแหล่งท่องเที่ยวดังๆ ได้ เช่น ธารน้ำร้อน น้ำตกเก้าโจร และไร่กล้วยไม้ เป็นต้น จึงมีนักท่องเที่ยวระดับกลาง เริ่มแวะเวียนมาใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และการตลาดนอกจากจะขายผ่านหน้าร้านตัวเองแล้ว ยังไปร่วมงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับอัญมณีบ้าง เพื่อเปิดตัว และหาลูกค้ากลุ่มใหม่ด้วย โดยจะเลือกเฉพาะงานที่มีคุณภาพจริงๆ ประมาณปีละไม่เกิน 5 ครั้ง ซึ่งหลังจากไปออกงานแต่ละครั้ง จะได้ออเดอร์จากลูกค้าใหม่ๆ กลับมาสม่ำเสมอ โดยเฉลี่ยยอดขายของร้าน ไม่เคยต่ำกว่า 30,000 -40,000 บาท/ต่อเดือน
สำหรับกำลังผลิต มีช่างทั้งหมด 3 คน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า อย่างไรก็ตาม มองโอกาสธุรกิจนี้ มีตลาดอีกกว้าง คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการใส่เครื่องประดับเพื่อเสริมสิริมงคล ดังนั้น กำลังฝึกฝนคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นช่างเพิ่มเติม และขอสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) จำนวน 100,000 บาท เพื่อซื้ออุปกรณ์การผลิตเพิ่มเติม และเป็นเงินทุนหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบ เตรียมพร้อมขยายการผลิตต่อไป
* * * * * * * * * * *
โทร.081-008-0868 , 087-068-6994