“ปันกัน” หนังสือเช่ารายสัปดาห์ ทางเลือกเอกชนลดต้นทุนนิตยสาร

ด้วยความที่สภาพสังคมที่บีบคั้นต้องให้เร่งรีบ อยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันผู้คนก็ไขว้คว้าหาความสะดวกสบายให้ตัวเอง ส่งผลให้ธุรกิจที่อาศัยช่องว่างของตลาดอย่าง “ร้านหนังสือปันกัน” เติบโตมายาวนานกว่า 6 ปี ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการส่งนิตยสารถึงมือลูกค้าในราคาย่อมเยา โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเดินทางไปซื้อนิตยสารออกใหม่ด้วยตัวเอง ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่สามารถเข้าไปมีบทบาทในชีวิตคนเมืองได้อย่างภาคภูมิ

หลายคนคงเคยสังเกตเห็นตามร้านที่ต้องมีการรอก่อนลูกค้าจะได้รับบริการ อย่างร้านเสริมสวย ร้านกาแฟ คาร์แคร์ โรงพยาบาล ซึ่งลูกค้าต้องฆ่าเวลาด้วยการอ่านหนังสือ หรือนิตยสารต่างๆ ส่งผลให้ผู้ประกอบการเหล่านี้จำเป็นต้องลงทุนในการหาซื้อนิตยสารไว้คอยบริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แต่คงจะดีหากมีธุรกิจที่นำหนังสือมาส่งให้ถึงมือสถานบริการเหล่านั้น แถมราคายังถูกกว่าราคาปกที่ซื้อตามแผงหนังสืออีกด้วย

จากช่องโหว่ดังกล่าวทำให้ “ร้านหนังสือปันกัน” ที่ให้บริการนิตยสารหมุนเวียนรายสัปดาห์ ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งนายกิตติพงศ์ สมรักษ์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการร้านหนังสือปันกัน ของบริษัท ยูอินโฟ จำกัด ได้เล่าถึงแนวคิดของผู้ก่อตั้งร้านหนังสือปันกัน ที่เริ่มจากการมองช่องว่างของตลาดหนังสือเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมาว่า จุดประสงค์หลักก่อนที่จะมาเป็นร้านปันกัน คือ การดำเนินกิจการหนังสือเช่าแบบส่งถึงบ้าน ที่ทำงาน เพื่อเป็นการเพิ่มสะดวกให้กับลูกค้า และเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ แต่ต่อมาเริ่มมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงได้เปิดอีกหนึ่งธุรกิจทำควบคู่กันไป คือ ธุรกิจรับส่งเอกสารอาศัยการทำงานด้านส่งเอกสารไปพร้อมๆ กับการส่งหนังสือให้กับลูกค้าตามบ้าน ที่ทำงาน หรือแหล่งชุมชนต่างๆ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง

“การเริ่มทำธุรกิจด้านนี้ ถือว่าทางร้านปันกันเป็นเจ้าแรกที่เริ่มทำ ด้วยการเข้าไปติดต่อหาลูกค้าโดยตรง ตามโรงพยาบาล ร้านเสริมสวย
คาร์แคร์ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร โดยเน้นจุดขายให้ลูกค้าเช่านิตยสารและหนังสือได้เป็นรายสัปดาห์ พร้อมการส่งหนังสือให้ถึงมือ ในราคาที่ถูกกว่าการซื้อนิตยสารที่ออกใหม่ทุกครั้ง เพื่อนำมาไว้บริการลูกค้าในร้าน ซึ่งราคาจะลดหลั่นกันไปตามระยะเวลาของนิตยสารที่วางแผง”

ส่วนระบบการให้บริการของร้านหนังสือปันกันว่า ทางร้านจะจัดส่งนิตยสารที่ได้รับความนิยมสูงสุดให้ผู้อ่านถึงที่ จำนวน 11 เล่มต่อสัปดาห์ ซึ่งสัปดาห์ต่อไปก็จะจัดส่งนิตยสารชุดใหม่ไปให้ พร้อมกับรับนิตยสารชุดเก่ากลับ เพื่อนำมาซ่อมแซมก่อนที่จะนำส่งให้กับลูกค้ารายต่อไป เช่น อิมเมจ คอสโม เที่ยวรอบโลก อสท. A day แพรว ดิฉัน ทีวีพูล สกุลไทย และขายหัวเราะ ซึ่งการรับหนังสือของลูกค้าจะแตกต่างกันตามถ้าเป็นธุรกิจอย่างร้านสปาหรูๆ ที่ลูกค้ามีเกรดเอ จะรับนิตยสารใหม่ชน ส่วนร้านที่เป็นกลุ่มสุดท้ายที่รับหนังสือเก่า 9 สัปดาห์ จะเป็นพวกร้านทำผมที่อยู่ในตลาดที่ไม่ต้องการของใหม่ และมีกลุ่มลูกค้าย่อมเยาลงมา ก็เลือกจะแพคเกจรองลงมา หลังจากนั้น ทางร้านจะนำแมกกาซีนที่เก่าเกิน 9 สัปดาห์นี้ไปขายเลหลังต่อที่ตลาดนัดสวนจตุจักรเพื่อล้างสต็อก
เป็นต้น

“เนื่องจากระบบของเราเหมือนการปันกันอ่านหลายๆ คน สมาชิกจึงได้อ่านนิตยสารจำนวนมากในราคาที่ถูก และมีเวลาในการอ่านเพียง 7 วัน มิฉะนั้นเราจะไม่สามารถบริการลูกค้าอื่นๆ ได้เลย โดยสมาชิกจะจ่ายเพียง 90 - 270 บาทต่อสัปดาห์ หรือแต่ได้นิตยสารไว้อ่านถึง 11 เล่ม ในขณะที่หากซื้อนิตยสารเองทั้ง 11 เล่ม จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่านี้ และยังต้องลำบากในการจัดเก็บนิตยสารเก่าที่นำไปขายต่อยาก ไม่ค่อยมีผู้รับซื้อนอกจากจะนำไปชั่งกิโลฯ ขายเท่านั้น”

ปัจจุบันทางปันกันมีลูกค้าแล้วกว่า 1,000 ราย ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นสถานประกอบการ เช่น ร้านกาแฟ ร้านเสริมสวย โรงพยาบาล คลินิก ร้านอาหาร โรงเรียนดนตรี/สอนภาษา อ่านเองที่บ้าน และปันกันอ่านกับเพื่อนที่ออฟฟิศ เป็นต้น

สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจนี้ นายกิตติพงศ์ บอกว่า ภายใน 1-2 ปี ธุรกิจนี้ยังเติบโตได้อีกมาก แต่หลังจากนั้นจำนวนลูกค้าอาจจะเริ่มอยู่ตัว ส่วนการมองตลาดในต่างจังหวัด ขณะนี้ทางปันกันยังไม่คิดจะรุกตลาด มีเพียงที่จังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น เนื่องจากเป็นจังหวัดใหญ่ และมีจำนวนประชากรอยู่มาก ซึ่งหากลูกค้าในต่างจังหวัดที่สนใจลองทำธุรกิจนี้ ตนก็ยินดีพร้อมให้คำปรึกษาในเรื่องของการว่างระบบ และกลยุทธ์ทางการตลาด ในขณะนี้เรื่องของจำนวนลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะหากลูกค้ามีน้อย จะทำให้ธุรกิจไม่เกิดการหมุนเวียนในเรื่องของรายได้ และคืนทุนช้า
***ผู้สนใจติดต่อ 0-2718-8887 ต่อ 160 หรือที่ www.panganbook.com***