จากต้นทุนเดิมที่รุ่นพ่อได้ก่อร่างสร้างไว้ ทำให้วันนี้รุ่นลูกอย่าง “อุปทาน จิกิตศิลปิน” กล้าคิดกล้าทำ ต่อยอดธุรกิจจากเดิมแค่เลี้ยงนกกระจอกเทศเพื่อขายเนื้อ สู่การแปรรูปเป็นเครื่องหนังและเครื่องประดับจากนกกระจอกเทศ ภายใต้แบรนด์ “Kaset 2000”
อุปทาน จิกิตศิลปิน เจ้าของผลิตภัณฑ์แปรรูปหนังนกกระจอกเทศ แบรนด์ “Kaset 2000” เปิดเผยว่า พื้นฐานความคิดเริ่มจากธุรกิจคุณพ่อ ซึ่งถือเป็นเจ้าแรก ๆ ของจังหวัดนครสวรรค์ที่เลี้ยงนกกระจอกเทศ จากนกเพียงไม่กี่ตัวในช่วงแรก จนปัจจุบันฟาร์มนกกระจอกเทศ มีนกกระจอกเทศพ่อ-แม่พันธุ์ประมาณ 40 ตัว และเป็นที่รู้จัก เรียกกันติดปากว่า “ฟาร์มนกกระจอกเทศนครสวรรค์” โดยเน้นเลี้ยงเพื่อขายเนื้อเป็นหลัก
“ที่ฟาร์มชำแหละนกเอง หนัง กระดูก นกกระจอกเทศเราส่งออกหมด ฝรั่งเขาซื้อหนังเราไปทำกระเป๋า ครั้งหนึ่งมีโอกาสไปต่างประเทศ อยากรู้ว่ากระเป๋าหนังนกกระจอกเทศเขาขายกันเท่าไร ปรากฏว่า แพงมาก กระเป๋าสะพายของผู้หญิงราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท ดังนั้น จึงมีแนวคิดว่า เรามีพื้นฐานการเลี้ยงนกกระจอกเทศเป็นทุนเดิม และมีหนังนกกระจอกเทศของเราอยู่แล้ว น่าจะทำเองขายเอง ดีกว่าส่งออกหนังนกกระจอกเทศไปขายต่างประเทศ แล้วคนไทยก็ไปซื้อกลับมาซึ่งมีราคาแพงมาก และเราอยากสร้างแบรนด์เนมไทยไปขายต่างประเทศบ้าง” อุปทาน เผยแรงบันดาล
เครื่องหนังนกกระจอกเทศ “Kaset 2000” มาจากคำว่า “เกษตร 2000” เป็นชื่อฟาร์มนกกระจอกเทศของครอบครัว จดเครื่องหมายการค้า เมื่อราว 2 ปีที่แล้ว จุดเด่นของ “Kaset 2000” คือเป็นงานแฮนด์เมดบวกไอเดีย การออกแบบงานส่วนใหญ่มาจากจินตนาการตัวเอง และคำแนะนำของลูกค้า เพราะถือว่า ลูกค้าเป็นผู้ใช้ด้วยตัวเอง ดังนั้น ไอเดียที่ดีที่สุด คือ ไอเดียที่ได้จากผู้ใช้โดยตรง
“บางครั้งลูกค้าไปต่างประเทศเห็นกระเป๋าดีไซน์เก๋ หรือเป็นแฟชั่นใหม่ จะกลับมาแนะนำ ทำให้เรามองเห็นเทรนด์และดีไซน์ของต่างประเทศ ซึ่งเราไม่ก็อปปี้สินค้าของคนอื่น แต่จะพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับแฟชั่นที่กำลังนิยม กล้าพูดได้ว่าถ้าอยากได้ของแฮนด์เมด และไอเดีย ให้มาที่เรา” เจ้าของผลิตภัณฑ์ อธิบาย
เขาเสริมต่อว่า เครื่องหนัง “Kaset 2000” เน้นเจาะตลาดคนระดับกลาง สินค้ามีหลากหลาย เช่น กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพาย เข็มขัด ซองโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น สนนราคาตั้งแต่ 100 บาทจนถึง 1 แสนบาท ขณะที่เครื่องหนังนกกระจอกเทศแบรนด์เนมต่างประเทศราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป จะเห็นว่าราคาถูกกว่าต่างประเทศมาก และคุณภาพไม่แพ้ของต่างประเทศ
หนังนกกระจอกมีข้อดี คือ ยิ่งใช้นานหนังจะยิ่งนุ่ม สีไม่ตก นานวันไป หนังจะยิ่งเพิ่มความเงางาม โดยหนังนกกระจอกเทศราคาแพงที่สุด คือ หนังที่เป็นตุ่ม ซึ่งบนตัวนกจะมีผิวหนังลักษณะนี้ประมาณ 30-40% นิยมนำมาทำกระเป๋า ราคาหลักพันบาทถึงแสนบาทขึ้นอยู่กับคุณภาพหนัง นกกระจอกเทศหนึ่งตัวจะได้หนัง 17 ฟุต กับหนังหน้าแข้งอีก 2 ชิ้น หนัง 1 ตัว ทำกระเป๋าใบใหญ่ได้ 1 ใบ ส่วนที่เหลือทำกระเป๋าเล็กได้ 10 ใบ และพวงกุญแจ 20 พวง
จากปัจจัยการผลิตผสานแนวคิดและวิธีจัดการของคนรุ่นใหม่ที่ผุดไอเดียอย่างไม่มีจำกัด อุปทาน กล้าแตกลายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น โดยนำเอาหนังนกกระจอกเทศมาประดับตกแต่งสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ รวมทั้งการทำจิวเวลลี่ประดับบนหนัง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องประดับประเภทแฟชั่น เช่น สร้อยหนังที่ประดับด้วยจิวเวลลี่ เป็นต้น
ด้วยไอเดียที่หลากหลาย ทำให้เขาสามารถใช้ประโยชน์จากการวัตถุดิบในฟาร์มได้ทุกเม็ด นอกจากนำเนื้อมาบริโภค และหนังมาทำกระเป๋าแล้ว “กระดูก” นกกระจอกเทศสามารถนำมาทำด้ามมีดราคาถูกกว่าด้ามมีดงาช้าง แต่มีความคงทนสวยงามไม่แพ้กัน รวมถึงนำมาทำหัวเข็มขัดได้ด้วย ส่วน “ไข่นกกระจอกเทศ” นำมาเพ้นท์สีเป็นไข่วิจิตร สำหรับใช้ตกแต่งบ้านและเป็นของชำร่วย ในส่วน “ขน” จะขายให้กับวงดนตรีแดนส์เซอร์ ขณะที่ “มูลนก” จะทำเป็นปุ๋ย เท่ากับทุกส่วนสามารถนำแปรรูปได้หมด
ส่วนช่องทางจำหน่าย ได้รับการส่งเสริมจากธนาคารพัฒนาวิสากิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ซึ่งเขาเป็นลูกค้าอยู่ด้วย พาออกบูธในงานแสดงสินค้าต่างๆในโครงการ Market Place เพื่อโชว์ผลิตภัณฑ์ให้กลุ่มเป้าหมายได้รู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น กำลังมองพื้นที่ เปิดหน้าร้าน โดยเร็วๆ นี้ จะนำสินค้าไปฝากขายบนชั้น 6 กรมส่งเสริมการส่งออก และตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ เช่น สยามพารากอน ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต และห้างมาบุญครอง เป็นต้น
อุปทาน ระบุว่า ยอดขายของ “Kaset 2000” โดยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 50,000 บาทต่อเดือน กลุ่มลูกค้าหลัก คือ คนในประเทศ ประมาณ 70% ส่วนที่เหลือผลิตแล้วส่งต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ด้านปัญหาเวลานี้ เกิดจากวัตถุดิบหนังนกกระจอกเทศไม่เพียงพอ แม้จะมีฟาร์มของตัวเองก็ตาม เพราะความนิยมบริโภคนกกระจอกเทศทั้งเนื้อและหนังมีสูง จนไม่เหลือวัตถุดิบหนังพอจะนำมาแปรรูป ทางฟาร์มจึงพยายามผลักดันให้เกษตรกรในท้องถิ่น เลี้ยงนกกระจอกเทศกันมากยิ่งขึ้น เชื่อว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดนครสวรรค์ให้เติบโตเพิ่มขึ้น เพราะเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่นำมาเพิ่มค่าได้ทุกส่วน
******************
โทร. 08-9839-2547