ขึ้นชื่อว่าธุรกิจสปา ถือว่าขณะนี้เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ดังนั้นภาระหนักจึงมาตกอยู่ที่ผู้ประกอบการ โดยจะต้องเฟ้นหาความโดดเด่นในธุรกิจสปาของตนเอง ออกมาให้มีความแตกต่าง เพื่อสร้างจุดขาย ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นการคืนสู่ธรรมชาติที่หลายคนโหยหา เน้นผลิตภัณฑ์ที่มีความสดใหม่ จากธรรมชาติอย่างแท้จริง ทำให้ทางสปา “Flore Pleno” ได้นำผลไม้สดมาเป็นสูตรหลักในการทำผลิตภัณฑ์ สู่การทำทรีตเมนต์ เพื่อผิวที่เปล่งปลั่ง
อารียา มหาวรมากร กรรมการผู้จัดการ สปา Flore Pleno (ฟลอเร่ พลีโน่) เล่าว่า จากเดิมตนเองทำงานประจำ โดยเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดเลี้ยงของโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ต้องออกมาช่วยธุรกิจของทางบ้านโดยเกี่ยวกับธุรกิจขนส่ง แต่ในใจลึกๆ แล้ว อารียา ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเองขึ้นอีกอย่างหนึ่ง จึงเริ่มสำรวจตัวเองว่าเป็นคนที่ชอบทำสปามาก และได้ลองใช้บริการหลายแห่ง ซึ่งก็มีความแตกต่างกันออกไป ทำให้สนใจที่จะเปิดร้านสปาเป็นของตนเองบ้าง ในสไตล์ บูติก สปา (Boutique Spa) แนวเทรนดี้ ไม่ซ้ำใคร
“การที่เราทำงานอยู่ในแวดวงของงานโรงแรมมานาน ทำให้มีใจที่ชอบการบริการ มาปรับใช้กับร้านสปา เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพอใจสูงสุด และสร้างเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่ง ส่วนการออกแบบตกแต่งเราต้องการให้ออกมาในรูปแบบของความทันสมัย บนความเรียบง่าย เหมาะกับการมาพักผ่อน เน้นการใช้วอลเปเปอร์ สร้างบรรยากาศห้องให้เหมาะกับลูกค้าทุกเพศทุกวัย เช่น ห้องโทนสีน้ำตาล สำหรับลูกค้าผู้ใหญ่ และห้องโทนสีเขียว ให้บรรยากาศสดชื่น และสบายตา เป็นต้น”
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง ที่ถือเป็นจุดขายของสปา Flore Pleno คือ ขั้นตอนการทำทรีตเมนต์ ที่เน้นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำผลไม้สดใหม่มาบริการให้กับลูกค้า หลังจากที่ลูกค้าต้องการผลไม้ชนิดใด เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวหนัง เช่น สตรอเบอรี่ ชาเขียว อโวคาโด และแอปเปิ้ล เป็นต้น โดยนำมาผสมกับโยเกิร์ต และน้ำนม เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื่น
“ผลิตภัณฑ์ที่เรานำมาทำทรีตเมนต์ให้กับลูกค้า จะเน้นความสดใหม่ ไม่มีการทำทิ้งไว้ และลูกค้าสามารถเลือกส่วนผสมที่ตนเองต้องการได้ หากลูกค้าแพ้น้ำนม เราก็สามารถผสมทรีตเมนต์ให้เหมาะสม และไม่ให้เกิดความแพ้ต่อผิวหนังของลูกค้าได้ ซึ่งถือเป็นอีกจุดขายหนึ่ง ที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับลูกค้า เพราะเราเน้นการบริการที่ต้องยึดลูกค้าเป็นอันดับแรก”
นอกจากการนำผลไม้สดมา มาเป็นส่วนผสมแล้ว ทางร้านยังได้นำไวน์ ที่ผ่านการสกัดแอลกอฮอร์ออกแล้ว มาผสมกับกลิ่นลาเวนเดอร์ เพื่อนำมาทำเป็นทรีตเมนต์ ซึ่งคล้ายกับทำการทำสปาเองที่บ้าน แต่มาทำที่ร้านจะได้อารมณ์มากกว่า และได้พักผ่อนอย่างแท้จริง เนื่องจาก จำนวนห้องของทางร้านจะมีไม่มากนักเพียง 4 ห้องเท่านั้น เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย และเป็นคนพิเศษของทางร้านทุกครั้งที่มาใช้บริการ ดังนั้นการโทรจองล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นก่อนมาใช้บริการที่ Flore Pleno
ส่วนลูกค้ามีทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่ได้จากธรรมชาติ ปลอดสารพิษ เพราะผลไม้สดทางร้าน จะสั่งจากโรงแรมระดับ 5 ดาว ทำให้ได้ผลไม้ที่มีคุณภาพ ซึ่งเหมาะกับการนำมาใช้กับผิวพรรณ ซึ่งราคาค่าใช้บริการเริ่มต้นที่ 300-3,800 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่ไม่สูงเกินไปนัก หากเทียบกับสปาระดับพรีเมียมรายอื่น
นอกจากนี้ทางร้านยังได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ “Prevonia” จากสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงผิวให้กับลูกค้าชาวต่างชาติไว้ด้วย เนื่องจากเครื่องสำอางของ Prevonia เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ของดาราฮอลลีวูด รวมถึงลูกค้าชาวยุโรป ส่วนคนไทยยังรู้จักน้อย และราคาค่อนข้างสูง โดยผลิตภัณฑ์ของ Prevonia จะเน้นในเรื่องการกระชับผิวหน้า และการกระชับสัดส่วน
ส่วนการทำการตลาด เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก อรียา บอกว่า จะใช้กลยุทธ์ในการวิ่งเข้าหาลูกค้า ซึ่งตนเองเชื่อว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมกับการทำธุรกิจในยุคที่มีแข่งขันกันอย่างดุเดือดเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจับมือร่วมกับเวดดิ้ง สตูดิโอ ต่างๆ เพื่อเสนอแพคเกจสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าและผิวกายเป็นพิเศษของคู่สมรส รวมถึงการทำบัตรสมาชิก และซื้อแพคเกจ โดยผู้ซื้อสามารถให้ผู้อื่นมาใช้บริการแทนตนเองได้ เป็นต้น
ถือว่าการนำผลไม้สดมาเป็นส่วนผสมหลักในการทำทรีตเมนต์ ถือเป็นกิมมิค (Gimmick) เล็กๆ ที่ทำให้สปาไทยยังเติบโตต่อไปได้ ฉะนั้นในยุคนี้หากใครที่คิดจะทำธุรกิจสปา คงต้องค้นหาจุดแตกต่างในเรื่องผลิตภัณฑ์ให้มีความแตกต่าง
*** Flore Pleno อาคาร Fenix สุขุมวิท 31 กทม. โทร. 0-2662-2621 หรือที่ www.florepleno.com***