นวลปรางค์ ตรีชิต อดีตดาราสาวเซ็กซี่ที่ยังอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน สำหรับบทบาทใหม่ของเธอกับกิจการเจ้าของร้านทำเล็บ Daily Nails เธอยังไม่ทิ้งภาพของความเซ็กซี่ เพราะธุรกิจร้านเล็บได้หยิบเอาความเซ็กซี่ของผู้หญิงขึ้นมาเพื่อมัดใจสาวๆ ผ่านงานเพนท์เล็บในรูปแบบต่างๆ
นวลปรางค์ ตรีชิต ได้เริ่มทำธุรกิจร้านทำเล็บเมื่อปี 2545 โดยได้แนวคิดมาจากการที่ตนเองทำงานเปิดร้านอาหารไทยอยู่ในอเมริกาหลายปี ซึ่งเธอชอบทำเล็บมาก และร้านทำเล็บที่อเมริกานั้นเปิดให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก แถบทุกมุมถนนจะต้องมีร้านทำเล็บเปิดให้บริการอยู่ ราคาค่อนข้างแพง เพราะเป็นงานฝีมือ คิดว่ากลับมาเมืองไทยจะนำมาทำที่เมืองไทย ซึ่งในช่วงนั้นที่ประเทศไทยยังไม่มีร้านทำเล็บในลักษณะนี้
นวลปรางค์ กล่าวว่า หลังจากกลับมาเมืองไทยไม่ลังเลที่จะเปิด โดยเริ่มจากธุรกิจร้านทำเล็บขนาดกลาง เพราะไม่ได้คาดหวังรายได้มากเพียงแค่พอเลี้ยงตัวเอง แต่รายได้ที่ได้กลับเกินกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้มาก เพราะสามารถสร้างรายได้ให้กับเราเป็นกอบเป็นกำมาก คิดว่าเราควรจะเริ่มขยายและใช้มืออาชีพมาช่วยบริหารเพราะต้องยอมรับว่าไม่มีความรู้เรื่องของธุรกิจ ได้รู้จักกับ คุณนิติมา เกียรติวาทีรัตน์ เข้ามาดูแลกิจการ ในรูปแบบของแฟรนไชส์ที่กำลังจะเริ่มต้น ภายใต้บริษัท ซิกตี้แคน จำกัด
นิติมา เกียรติวาทีรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิกตี้แคน จำกัด ผู้บริหารแฟรนไชส์ Daily Nails กล่าวว่า จากข้อมูลเชิงลึก ทำให้เห็นว่า เดิมการทำเล็บได้เกิดขึ้นเฉพาะคนกลุ่มเล็กๆ และมีบริการที่มีข้อจำกัด ทั้งในส่วนของเทคนิค ผลิตภัณฑ์ และราคาที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อเกิดกระแสของแฟชั่นเพิ่มเข้ามาในกลุ่มดารา นักแสดง ทำให้เกิดความนิยมที่เกิดขึ้นในหมู่ของคนที่ต้องการอยู่ในเทรนแฟชั่น และการเพิ่มบริการในส่วนของการดูแล ความสะอาด การทำทรีทเมนท์ (Spa) จึงทำให้เพิ่มจำนวนลูกค้า และขยายวงกว้างขึ้น มายังกลุ่มคนทุกระดับตั้งแต่วัยรุ่นขึ้นไป บริษัทฯมองว่าโอกาสในการขยายร้านทำเล็บยังมีอีกมาก โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด
สำหรับแผนการขยายแฟรนไชส์ ทางบริษัทตั้งเป้าขยาย 20 สาขาทั่วประเทศในปี 2550 โดยเจาะเฉพาะจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 2 สาขา ที่ สุขุมวิท 49 และ RCA และอยู่ระหว่างการเจรจา 4 สาขาอยู่ที่ เกสรพลาซ่า เชียงใหม่ และเกาะสมุย (2สาขา) จุดขายของร้านอยู่ที่ตัวผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี ในขณะที่ร้านทำเล็บจำนวนมาก ยังใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี
ส่วนรูปแบบการให้บริการของร้าน จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ การดูแลรักษาในส่วนของ การทำสปาเล็บ ส่วนที่ 2 การทำอะคิลิก และการเพนท์เล็บ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นรายได้หลักของทางร้าน แม้ว่าการทำอะคิลิก จะไม่ใช่เรื่องใหม่ของคนในเมือง แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัด ยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และการทำอะคิลิก ยังเป็นเทรนแฟชั่นที่มาแรงอยู่ในยุคปัจจุบัน รายได้ส่วนที่ 3 มาจากการขายปลีกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการทำเล็บภายในร้าน
ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการทำเล็บ ทางบริษัทได้รับเลือกให้เป็นคู่ค้าพิเศษกับ O.P.I (Exclusive Partner with O.P.I.) ซึ่งเป็นบริษัทฯที่มีความชำนาญในNails Fashion&Product จากอเมริกา และยังได้สนับสนุนเรื่อง หลักสูตรการสอน เทคนิค แฟชั่น การตลาด และถ้ามีสาขาจำนวนมาก การสั่งซื้อสินค้ามากตามไปด้วย ทำให้เรามีอำนาจในการต่อรอง ในการซื้อสินค้าได้ในราคาที่พิเศษ ดังนั้น ทางบริษัทจะตั้งราคาค่าบริการไม่แพงมากเมื่อเทียบกับร้านที่ให้บริการในรูปแบบเดียวกัน โดยค่าบริการเริ่มต้นที่ 200 บาท 300 บาท ไปจนถึงสูงสุด 2,000 บาท เป็นการต่อเล็บอะคิลิก เมื่อเทียบการต่อเล็บอะคิลิกที่ให้บริการเหมือนกันราคาอยู่ที่ 3,000 บาท บางครั้งทำเลมีส่วนสำคัญในการกำหนดราคาด้วย
กลุ่มลูกค้าที่ต้องการจะซื้อแฟรนไชส์หลัก จะต้องมีใจรัก และชื่นชอบในการทำเล็บ ต้องการที่จะมีอาชีพอิสระ ซึ่งมีเงินลงทุนประมาณ1,200,000 บาท แบ่งเป็นค่าลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ (3ปี) 400,000 บาท ค่าอุปกรณ์ไฟฟ้าและตกแต่งเล็บ 150,000 บาท ค่าอบรมพนักงาน 5 คน 100.000 บาท และเงินทุนหมุนเวียนช่วงของการเปิดร้าน 150,000 บาท ค่าตกแต่งภายใน450,000 บาท บนพื้นที่ของร้าน 40 ตารางเมตร ตั้งเป้าคืนทุนภายใน 18 เดือน ซึ่งต้องมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 150,000 บาท
สำหรับแผนการตลาดในช่วงแรก ทางบริษัทจะจัดกิจกรรมแก่ผู้สนใจ โดยการจัดโรดโชว์เพื่อเข้าหากลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพโดยตรง และจัดทีมของบริษัทเข้าเจาะพื้นที่ทำเลทองที่ตั้งร้านค้าเพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าแฟรนไชส์ และทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ บริษัทตั้งเป้างบการตลาดไว้จำนวน 10 ล้านบาท Daily Nails ถือว่าเป็นแฟรนไชส์ร้านทำเล็บแห่งแรก เพราะที่ผ่านมาจะไม่ใช่แฟรนไชส์ร้านทำเล็บเต็มรูปแบบอย่างเรา ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะของการขายอุปกรณ์มากกว่า
สนใจโทร. 081-720-1825
