เมื่อการทำธุรกิจที่เริ่มจากความชอบ ส่งผลให้มีแรงกระตุ้นให้คิดพัฒนาสินค้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการดำเนินธุรกิจในยุคนี้ โดยมีการนำเอาความเป็นสากลของตุ๊กตาหมีที่ทั่วโลกรู้จักมาใส่คาแลคเตอร์ที่แปลกตา แต่โดนใจทุกเพศทุกวัยได้อย่างลงตัว ภายใต้แบรนด์ “Oh! Bear”
นฬัฐห์ ปูคะวนัช เจ้าของผลิตภัณฑ์ตุ๊กตาหมี “Oh! Bear” เล่าว่า ตนเองเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ถือเป็นเด็กที่ค่อนข้างซน และไม่ค่อยมีความเป็นผู้หญิง ทางคุณแม่จึงได้พยายามนำตุ๊กตามาให้เล่น สุดท้ายก็รู้สึกว่าตนเอง ชอบตุ๊กตาหมี เพราะถือเป็นตุ๊กตาที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และมีลักษณะที่ให้ความเพื่อนได้ และในเมื่อถึงเวลาที่คิดจะดำเนินธุรกิจ ด้วยการขายผลิตภัณฑ์สักชิ้นหนึ่ง ก็นึกถึงตุ๊กตาหมี
“ก่อนที่เราคิดจะทำธุรกิจ จะเริ่มจากความชอบก่อน ซึ่งเมื่อมาพิจารณากันจริงๆ แล้ว เราเป็นคนที่ชอบตุ๊กตาหมีทุกรูปแบบ ซึ่งหากจะทำตุ๊กตาหมีจำหน่าย ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากนัก เพราะเป็นธุรกิจที่เกิดจากความชอบ และหากมองตุ๊กตาหมีในระดับสากล ถือเป็นตุ๊กตาที่ทั่วโลกรู้จัก และไม่มีใครปฏิเสธ”
ดังนั้นเมื่อ นฬัฐห์ คิดที่จะทำตุ๊กตาหมีแล้ว ในเรื่องรูปแบบ และความแตกต่างจากท้องตลาด ถือเป็นสิ่งจำเป็น โดยต้องการปฏิวัติตุ๊กตาหมีในรูปแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสีสัน รูปแบบ รูปร่างหน้าตา แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นตุ๊กตาหมี และที่สำคัญตุ๊กตาหมีของ นฬัฐห์ จะต้องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทุกเพศทุกวัยอีกด้วย โดยต้องการสร้างคาร์แลคเตอร์ให้กับตุ๊กตาหมีของตนเอง ให้เหมือนกับตัวตุ๊กตาในต่างประเทศ
“ความคิดที่จะทำตุ๊กตาขายของเรามีมานานแล้ว โดย ณัฐฐา ลอยด์ (เพื่อนรุ่นพี่) แนะให้ลองทำธุรกิจนี้ดู โดยให้เราเป็นฝ่ายออกแบบ ส่วน ณัฐฐา ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ซึ่งในช่วงแรกได้เริ่มวางจำหน่ายที่ห้างสยามพารากอน เพื่อวางตำแหน่งสินค้าจับกลุ่มตลาดบน เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง ส่งผลให้ยอดการจำหน่ายในช่วงนั้นไม่ถึงเป้าที่คาดการณ์ไว้ โดยราคาเริ่มต้นที่ 300 บาท/ตัว แต่ต่อมายอดก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากการออกบูธแสดงสินค้า ในงาน BIG กับกระทรวงพาณิชย์ ทำให้มีลูกค้าชาวต่างชาติ และคนไทยสะดุดตา พร้อมสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก”
ทั้งนี้ที่ผ่านมาการเปิดตัวสินค้าด้วยการออกบูธ ถือว่าประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเมื่อสามารถเปิดตลาดในประเทศญี่ปุ่นได้ ทำให้เป็นเครื่องยืนยันในคุณภาพของสินค้าได้ ส่วนออเดอร์ในตลาดใหม่อย่าง ซาอุดิอาระเบีย ก็ถือเป็นตลาดเช่นกัน โดยมียอดการสั่งค่อนข้างสูงหลายตู้คอนเทนเนอร์
สำหรับรูปแบบของตุ๊กตาหมีภายใต้แบรนด์ Oh! Bear แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ 1.Oh! Bear เป็นตุ๊กตาหมี ที่แปลกแหวกแนว จากภาพลักษณ์ตุ๊กตาที่หลายคนคุ้นเคย คล้ายตุ๊กตาทำมือ สีสันฉูดฉาด 2.Classic Bear เป็นตุ๊กตาหมีมีขนนุ่ม ที่มีรูปลักษณ์ที่เป็นอมตะที่ทุกคนรู้จัก 3.Lovely Bear เป็นตุ๊กตาหมีที่มีการนำผ้าลวดลาย สีหวานแหว๋ว มาเย็บเป็นตุ๊กตา สามารถขยับแขน และขาได้ ส่วนภายในยัดด้วยเม็ดพลาสติก และนุ่น เพื่อให้ตุ๊กตามีน้ำหนัก และ4.Soft Bear เป็นตุ๊กตาหมี ที่มีความนุ่นมาก หลากหลายสีและไม่มีลูกตา เพื่อแสดงรู้ว่าเป็นตุ๊กตาหมีที่อยู่ในช่วงอินเลิฟ
“สินค้าของเราถือเป็นสินค้าที่ต้องอาศัยอารมณ์ ในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า และเป็นสินค้าด้านจิตใจ ดังนั้นความหลากหลายของสินค้าถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่เราจะต้องทำให้สินค้าทุกวันโดนใจกลุ่มลูกค้าได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งต้องควบคู่มากับคุณภาพและการออกแบบที่ให้สะดุดทั้งตาและใจของผู้บริโภค รวมถึงวัตถุดิบที่นำมาตัดเย็บก็ต้องมีความหลากหลายด้วยเช่นกัน ซึ่งตุ๊กตาหมี Oh! Bear นอกจากจะนำผ้าที่มีสีสันและลวดลายที่สดใสแล้ว ยังได้มีการนำหนัง และขนสังเคราะห์มาเป็นวัตถุดิบให้กับตุ๊กตาหมีด้วย”
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจนี้ในอนาคต นฬัฐห์ บอกว่า ตนเองต้องการเปิดร้านที่ขายเฉพาะตุ๊กตาหมี และขายอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอร์ ภายใต้ชื่อ “Teddy Bar” รวมถึงการแตกไลน์สินค้าไปในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งจะเน้นไปที่สินค้าในห้องนอนและในห้องน้ำ เป็นต้น
***สนใจติดต่อ 0-2934-4662 หรือที่ www.ohbearbangkok.com***
