ค็อกเทลสไตล์ยาดอง ยกระดับสมุนไพรไทย

ค็อกเทลยาดองสมุนไพร เป็นแนวคิดของการนำสมุนไพรไทยมาปรับเพื่อให้การกินสมุนไพรไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป เพราะรสชาติของส่วนผสมค็อกเทลเข้ากันได้ดีกับตัวยาดองสมุนไพร คิดและพัฒนาสูตรค็อกเทล โดยบริษัทบ้านโกมารภัจจ์ เจ้าของสูตรสมุนไพร อุ้มลูกดูหนัง และ กำลังหมูป่า สรรพคุณ ช่วยฟอกโลหิต และบำรุงกำลัง

เชื่อว่าหลายคนคงจะไม่คุ้นกับชื่อของสมุนไพรทั้งสองชนิด เพราะเป็นสมุนไพรที่ใช้กันในกลุ่มของชาวกะเหรี่ยง อย่างอุ้มลูกดูหนัง ชาวกะเหรี่ยงใช้กับผู้หญิงหลังคลอดลูก ช่วยขับน้ำคาวปลา ฟอกโลหิตให้ผิวพรรณเต็งตึงสวยงาม กระชับมดลูก ส่วนกำลังหมูป่า เป็นสมุนไพรประเภทยาบำรุงกำลังของชาวกะเหรี่ยงเช่นกัน ที่มาของชื่อกำลังหมูป่า เพราะลักษณะของต้นไม้เหมือนหนังหมูป่า

นายธนพิพัฒน์ บุญพัชรโสภณ เจ้าของกิจการสมุนไพรบ้านโกมารภัจจ์ เล่าว่า ที่เลือกสมุนไพรทั้งสองชนิดมาพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพราะมีผู้แนะนำให้รู้จักกับสมุนไพรทั้งสองชนิดและเห็นว่าชาวกะเหรี่ยงรับประทานสมุนไพรทั้งสองชนิดมาเป็นเวลานานคงจะได้ผลดี จึงได้นำมาทดลองเป็นเวลานานถึง 2 ปี ก่อนคิดจะนำมาทำออกจำหน่ายเป็นสมุนไพรอบแห้งใช้สำหรับต้มน้ำดื่มหรือดองเหล้าและพัฒนาต่อเป็นยาแคปซูลเพื่อง่ายต่อการรับประทาน นอกจากนี้ในส่วนของอุ้มลุกดูหนังยังได้มีการพัฒนาเป็นเครื่องสำอาง เช่น สบู่ โคลนพอกหน้า ด้วย

สำหรับในส่วนของค็อกเทลยาดองสมุนไพรของอุ้มลูกดูหนังและกำลังหมูป่าเกิดมาจากการที่เราได้ไปอบรมกับมูลนิธิแพทย์แผนไทยพัฒนา ทางอาจารย์ผู้สอนได้แนะนำให้นำสมุนไพรมาปรับเป็นค็อกเทลเพื่อดื่มได้ง่าย สร้างความยากทานสมุนไพร และต้องการให้เกิดการประยุกต์การใช้สมุนไพรที่หลากหลายขึ้น ซึ่งนอกจากช่วยให้การรับประทานสมุนไพรได้ง่ายขึ้น และสูตรค็อกเทลยังมีส่วนผสมของน้ำผลไม้ ซึ่งมีวิตามิน และน้ำผึ้ง ที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะถ้าดื่มน้ำผลไม้ได้วิตามินจากผลไม้เพียงอย่างเดียว หรือถ้ากินสมุนไพรได้ประโยชน์จากสมุนไพรอย่างเดียว แต่การดื่มค็อกเทล ช่วยให้เราได้สารอาหารจากทั้งสมุนไพร และน้ำผลไม้ไปในตัว

สูตรของการทำค็อกเทลยาดองสมุนไพร แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ การต้มยา ดองน้ำผึ้ง และนำมาผสมน้ำผลไม้ เติมน้ำแข็ง หรือ ทำเป็นน้ำสมุนไพรปั่นขาย แบบที่ 2 เป็นแบบค็อกเทล ยาดองเหล้าสมุนไพร แบบที่สองมีส่วนผสมของเหล้า ต้องผ่านสรรพสามิต การจำหน่ายในแบบที่สองต้องอยู่ในการควบคุมของสรรพสามิตด้วย แต่ในแบบแรกสามารถเปิดร้านขายได้เลย เพราะไม่ส่วนผสมของเหล้า ซึ่งทางบริษัทมีแผนที่จะทำออกมาในรูปของแฟรนไชส์ร้านกาแฟค็อกเทลสมุนไพร เปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจต้องการจะมีอาชีพได้เข้ามาร่วม

ส่วนรายละเอียดของแฟรนไชส์อยู่ระหว่างการเซ็ทระบบ เพราะเปิดตัวค็อกเทลยาดองสมุนไพรครั้งแรกในงาน Thailand Health and Beauty 2006 ที่ผ่านมาผลตอบรับดี และมีผู้สนใจต้องการจะทำเป็นอาชีพ เป็นจุดเริ่มต้น ว่าควรที่จะขายออกไปในลักษณะของแฟรนไชส์ ส่วนร้านค็อกเทลยาดองนี้ คาดว่าจะเปิดร้านได้เร็วๆนี้ โดยมองทำเลไว้ที่บนสถานีรถไฟฟ้าเป็นร้านค็อกเทลยาดองสมุนไพรที่ไม่มีส่วนผสมของเหล้า ส่วนร้านค็อกเทลยาดองเหล้าสมุนไพรวางแผนไว้ว่าจะเปิดที่สวนลุมไนท์บาร์ซา

ทั้งนี้ การดองด้วยเหล้า การดองน้ำผึ้ง หรือ การต้มสมุนไพร คุณประโยชน์ไม่ได้แตกต่างกัน แต่การดองด้วยเหล้าอาจจะออกฤทธิ์ เร็วกว่าการดองน้ำผึ้ง ส่วนการนำมาทำค็อกเทลเราจะใส่ส่วนผสมที่เป็นสมุนไพร 50% และส่วนผสมอื่น 50% โดยสูตรเหมือนกับการทำค็อกเทลทั่วไป ต่างกันตรงที่สมุนไพรที่เติมเข้าไปในขณะที่กลุ่มลูกค้าเข้าได้กับทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนทำงาน หรือผู้สูงอายุ โดยค็อกเทลผู้หญิงจะเลือก สมุนไพรอุ้มลูกดูหนัง ส่วนผู้ชายจะเป็นกำลังหมูป่า

นายธนพิพัฒน์ ยังได้เล่าถึงสาเหตุที่ไม่เคยมีผู้นำสมุนไพรอุ้มลูกดูหนังหรือกำลังหมูป่ามาใช้ เพราะว่า เป็นสมุนไพรที่อยู่ตามธรรมชาติ และมีอยู่เฉพาะในเขตชายแดนไทยพม่า ที่พวกกะเหรี่ยงอาศัยอยู่ ดังนั้น ด้วยตัวสมุนไพรที่มีอยู่จำนวนไม่มากดังนั้นจึงไม่มีใครกล้านำออกมาทำเป็นการค้า เพราะเป็นห่วงปัญหาเรื่องของวัตถุดิบ แต่ทางบริษัทของเราใช้วิธีการปลูกทดแทนตามธรรมชาติและไม่มีการเร่งด้วยการเติมสารเคมี แต่จะให้เติบโตตามธรรมชาติของมันในป่ารกร้าง ดังนั้นสมุนไพรที่ได้จะมีฤทธิ์เข้มข้น เพราะปัจจุบันปัญหาของสมุนไพรไทย คือ มีการปลูกโดยใช้สารเคมี สมุนไพรที่ได้ก็จะไม่ปลอดภัย และฤทธิ์สมุนไพรจะไม่เข้มข้นเหมือนกับที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งสมุนไพรขึ้นเองตามธรรมชาติบางครั้งต้องใช้เวลานานถึง 10 ปี