แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นรองเท้าแตะมาภูธร แต่ก็ไม่น้อยหน้าในเรื่องของการดีไซน์ และคุณภาพ ที่หากวัดกันจริงๆ แล้วสามารถแข่งขันกับรองเท้าแตะแบรนด์ใหญ่ได้อย่างสบาย แถมที่ผ่านมารองเท้าแตะแบรนด์ TAPA ยังสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาหลายปี และนี่คงเป็นเครื่องการันตีได้สำหรับความสำเร็จของรองเท้าจากแตะภูธร ที่แจ้งเกิดในวงการได้อย่างไม่อายใคร
นายสุทิน แก้วหลำ ผู้จัดการบริษัท ลีดเดอร์ ชูส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าว่า หลังจากที่ตนเองได้เคยทำงานอยู่ฝ่ายการตลาดของบริษัทผลิตรองเท้ายักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง จนมีความเชี่ยวชาญทั้งในเรื่องขั้นตอนการผลิต และการบริหารกิจการ ทำให้คิดที่จะออกมาผลิตเอง ตามสไตล์ที่เคยใฝ่ฝันไว้ คือ รองเท้าชายหาด ที่เน้นสีสันสดใส สวมใส่สบาย หวังเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวตามชายทะเล รีสอร์ท บังกะโร และที่พักตามชายหาด ภายใต้แบรนด์ “TAPA”
“ในช่วงแรกที่เราผลิตรองเท้าแตะ TAPA ออกมา ก็ขายตามจังหวัดท่องเที่ยวชายทะเลอย่างเดียว เช่น ภูเก็ต สมุย และกระบี่ เนื่องจากรูปแบบรองเท้า และสีสัน เหมาะกับการสวมใส่เพื่อการเดินชายหาด และถือเป็นความตั้งใจแต่แรกที่เราคิดจะผลิตรองเท้า เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอันดับแรก ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเรื่องของรูปแบบ ราคา สีสัน โดนใจต่างชาติ เป็นอย่างมาก โดยเราจะเน้นเป็นลายดอกชบา ดอกลีลาวดี และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่าง เกาะพี พี, เกาะสมุย และเกาะไข่ เป็นต้น เพื่อต้องการให้ชาวต่างชาตินอกจากจะซื้อไปสวมใส่แล้ว ยังเก็บเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย และลายเหล่านี้ก็ถือว่าที่ไม่ตกเทรนด์ง่ายๆ”
เมื่อการทำตลาดในต่างจังหวัด โดยเฉพาะตามจังหวัดท่องเที่ยว ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทำให้ สุทิน คิดที่จะขยายตลาด ในกรุงเทพฯ บ้าง โดยพัฒนารูปแบบ และดีไซน์ ให้เหมาะกับการสวมใส่ได้ทุกวัน แต่ก็ยังไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์รองเท้าแตะที่มีสีสันสดใส สะดุดตา และประจวบเหมาะกับในเทรนด์ขณะนี้ที่คนไทย ก็นิยมข้าวของเครื่องใช้ที่มีลวดลายของลายชบา และดอกลีลาวดี ส่งผลให้รูปแบบรองเท้าแตะชายหาด ของเดิม ขายได้จำนวนมากขึ้นตามไปด้วย
“การทำกลยุทธ์ทางการตลาด ค่อนข้างจะแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ที่มุ่งเน้นไปที่การทำตลาดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อน แต่ของเราเหมือนการทำการตลาดแบบป่าล้อมเมือง ที่สร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งในต่างจังหวัดก่อน ด้วยการหาตัวแทนจำหน่ายในแต่ละจังหวัด และทำการขายเองด้วย ถึงคิดมาขายตลาดในกรุงเทพ เพราะเชื่อมั่นใจในเรื่องของคุณภาพ และรูปแบบ”
โดยปัจจุบันรองเท้าของ TAPA ได้เริ่มวางจำหน่ายที่ Platinum Fashion Mall ชั้น 4 เลขที่ 222/1049-50 (ประตูน้ำ) และออกงานแฟร์ต่างๆ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก พร้อมทั้งต้องการให้คนไทยรู้จักรองเท้าแตะที่เกิดจาการผสมผสานระหว่างเครื่องจักร และงานแฮนด์เมด ที่สามารถผสมกลมกลืนกันได้อย่างลงตัว ซึ่งราคาขายส่งรองเท้าเด็กเริ่มต้นที่ 55-80 บาท/คู่ ผู้หญิง 65-90 บาท/คู่ และผู้ชาย 75-150 บาท/คู่ ซึ่งมีบริการส่งสินค้าให้ตั้งแต่ 10 โหลขึ้น
ทั้งนี้ที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ หากเป็นชาวไทย จะเป็นวัยรุ่น และเด็ก ซึ่งผู้หญิงจะเน้นสีสัน ลายดอกไม้ ส่วนผู้ชาย จะนิยมลวดลายที่ออกมาในแนวธรรมชาติ เช่น ต้นไม้ ทะเล ส่วนลูกค้าชาวต่างชาติ จะเป็นนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และมีการรับไปจำหน่ายยังประเทศ ญี่ปุ่นอีกด้วย รวมถึงการสั่งผลิต (OEM) ของร้านสปาต่างๆ โดยต้องการให้เป็นรองเท้าของสปาตนเอง เช่น บายบันทรี สปา เป็นต้น ส่งผลให้ขณะนี้กำลังการผลิตอยู่ที่อยู่ในหลักหมื่นคู่ต่อเดือนเลยทีเดียว
สมัยนี้ผู้บริโภคคงไม่เกี่ยงเรื่องแบรนด์มากนัก แต่หากดีไซน์โดนใจ คุณภาพเยี่ยม ก็สามารถแจ้งเกิด ในวงการนั้นๆ ได้ ดูตัวอย่างจากรองเท้าแตะ TAPA จากภูธร ที่คาดว่าคงอีกไปนาน ก็จะสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจผู้บริโภคคนกรุงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
***สนใจติดต่อ 0-2451-1902, 0-2894-4188 และ 081-936-8421***
