‘ศิลป์แก้ว’ ดีไซน์ฉีกจำเจ แต่งสีสันใหม่งานแก้วเป่า

แก้วเป่ารูปโฉมใหม่จากการสร้างสรรค์ของ “สมชาย น้อยจินดา “ อดีตคนขับรถแท็กซี่ ที่หันมาฝึกฝนงานประเภทดังกล่าวด้วยตัวเอง กระทั่งปัจจุบัน ธุรกิจของเขา ก้าวไกลไปถึงต่างแดน ด้วยดีไซน์สวย แปลกตา เป็นที่ถูกใจของตลาด

เจ้าของธุรกิจงานฝีมือแก้วเป่า ภายใต้ชื่อการค้า “ศิลป์แก้ว” เล่าแรงบันดาลใจในการคิดรูปแบบงานต่างๆ จะดูจากกระแสความนิยมของตลาด จากการหาข้อมูล ทั้งต่างประเทศ และในประเทศ เช่น ดูจากนิตยสาร การแต่งกายของคนดัง เป็นต้น ประกอบกับความต้องการของลูกค้า แล้วใช้ประสบการณ์ที่อยู่ในวงการมากว่า 10 ปี นำมาประยุกต์เป็นสไตล์ของตัวเอง แบ่งงานเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ ตั้งโชว์ , เครื่องประดับ , ถ้วยรางวัล , เกี่ยวกับศาสนา ความเชื่อ ,ของชำร่วย และสัญลักษณ์ประจำราศี โดยรวมแล้วมีหลายร้อยแบบ ราคาตั้งแต่หลักสิบถึงหลักหมื่น

เขา เจาะจงไปถึงกลุ่มเครื่องประดับ ซึ่งเป็นสินค้าขายดีที่สุด แนวคิดมาจากเห็นเครื่องประดับทำจากแก้ว เป็นที่นิยมอย่างสูงในต่างประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส และอิตาลี และมั่นใจว่า ตัวเองมีความสามารถพอจะทำได้ ในรูปแบบ และคุณภาพที่ไม่ได้เป็นรอง เลยลองออกแบบนำลักษณะต่างประเทศมาประยุกต์ สร้างจุดเด่นของตัวเอง เน้นแก้วส่วนในเป็นแก้วสี วางตำแหน่งคล้ายดอกไม้ ภายนอกเป็นแก้วใส ซึ่งเทคนิคดังกล่าว ทำได้ยาก ต้องอาศัยช่างฝีมือ ซึ่งช่างไทย มีความชำนาญสูงอยู่แล้ว งานที่ได้มา ความประณีตสูงกว่าของต่างประเทศด้วยซ้ำ ในขณะที่ราคาถูกกว่าหลายเท่าตัว อาทิ สร้อยเส้นละ 190 บาท แหวนวงละ 150 บาท เป็นต้น

สินค้าดังกล่าว ออกตลาดมาประมาณครึ่งปี ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งจากลูกค้าใน และต่างประเทศ โดยในประเทศ กลุ่มลูกค้า คือ วัยรุ่น คนทำงาน ที่สวมใส่เป็นแฟชั่น กับกลุ่มนักท่องเที่ยว ซื้อกลับไปเป็นที่ระลึก เพราะชอบที่ดูหรูหรา มีค่า แต่ราคาไม่แพง

เจ้าของธุรกิจ เผยว่า คำถามที่ต้องพบแทบทุกครั้ง คือ ใส่แล้วแตกหรือเปล่า คำตอบพยายามเลี่ยงตอบตรงๆ เปลี่ยนเป็นชี้แจงเหตุผลว่า เครื่องประดับประเภทนี้ เหมาะใส่เป็นครั้งคราว หรือในวาระพิเศษมากกว่าใส่ในชีวิตประจำวัน

“มันเป็นแก้ว โดนกระแทก หรือตกพื้น มันก็แตก แต่ถ้าเราตอบตรงๆ อย่างนั้น ลูกค้าได้ยิน ก็จะหนีทันที แต่ถามเราบอกว่า ใส่เล่นๆ สวยงาม สำหรับกรณีพิเศษ เช่น ไปงานกลางคืน หรือใส่ไปท่องเที่ยว บางรูปแบบอาจจะแตกง่าย บางแบบ หนามาก ก็แตกยาก ค่อยๆ ให้ข้อมูล เขาก็จะเข้าใจ”

นอกจากเครื่องประดับแล้ว สมชาย บอกว่า แก้วเป่ากลุ่มอื่นๆ ของ “ศิลป์แก้ว” ก็พยายามออกแบบให้ตอบรับความต้องการของตลาดมากที่สุดเช่นกัน อย่างกลุ่มเกี่ยวกับศาสนา และความเชื่อ ออกแบบเป็นพระเครื่องแก้วห้อยคอ ดูแล้วสูงค่า น่าเคารพบูชา หรือถ้วยรางวัล ตอบรับกลุ่มบริษัทต่างๆ ซึ่งในช่วงสิ้นปี มักมีการแข่งขันกีฬาภายใน หรือมอบรางวัลพนักงานดีเด่น ขณะที่กลุ่มสัญลักษณ์ประจำราศี จะมีลูกค้าเฉพาะกลุ่มตามเก็บสะสม ต้องเน้นออกแบบให้มีดีไซน์แตกต่างจากของในท้องตลาด

“หลักในการออกแบบของผม จะยึดว่า ให้สินค้าขายได้ด้วยตัวมันเอง ต้องสะดุดตาคนที่พบเห็น ซึ่งการออกแบบ ผมจะอาศัยจากประสบการณ์ส่วนตัว กับศึกษาว่า งานแก้วเดี๋ยวนี้ไปถึงไหนแล้ว และพยายามตามกระแสให้ทัน แต่ก็ต้องมีสไตล์เป็นของเราเองด้วย”

สมชาย ระบุถึงวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะมีคุณสมบัติทนความร้อน และเป่าได้รูปทรงมากกว่า ส่วนกำลังผลิต โดยเฉลี่ยทำได้ 500 ชิ้น / วัน สัดส่วนตลาดเป็น ในประเทศ 70% ผ่านช่องทางจำหน่าย มีตัวแทนมารับซื้อถึงแหล่งผลิต แล้วนำไปวางขายตามย่านชอปปิ้งต่างๆ ไม่ว่าจะถนนสีลม ถนนข้าวสาร รวมถึง เมืองท่องเที่ยว อย่างพัทยา ภูเก็ต เป็นต้น ส่วนตลาดต่างประเทศ มีผู้รับไปขายต่อในหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ฮ่องกง ฝรั่งเศล อิตาลี และกลุ่มตะวันออกกลาง เป็นต้น โดยเฉลี่ยต่อปีรายได้ ยังไม่หักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ล้านกว่าบาท

จุดเริ่มต้นที่หันมาทำธุรกิจนี้ เขาเล่าว่า ในวัยเด็กค่อนข้างเกเร ไม่สนใจเรียน พอโตมาต้องทำงานรับจ้างใช้แรงงานต่างๆ นานา รวมถึงเคยขับแท็กซี่ กระทั่ง มีเพื่อนชวนมาทำงานเป่าแก้ว จึงฝึกฝนด้วยตัวเอง และพัฒนาเรื่อยมาถึงปัจจุบัน

ส่วนความคิดเห็น ถึงตลาดธุรกิจแก้วเป่านั้น ในประเทศการแข่งขันสูงมาก ทั้งลอกเลียนแบบ และขายตัดราคากันเอง ทำให้คุณค่างานด้อยลงไป ทั้งที่จริง ในความรู้สึกของเขา งานเป่าแก้วเป็นศิลปะชั้นสูง ในต่างประเทศ ช่างค่าแรงสูงมาก ส่วนช่างไทย รายได้เฉลี่ยแค่คนละ 200 บาทต่อวัน ดังนั้น ถ้าจะแข่งกันแบบเดิมต่อไป อนาคตน่าเป็นห่วง ดังนั้น เขาจึงพยายามคิดรูปแบบใหม่เสมอๆ เพื่อเปิดหาตลาดใหม่ เพราะด้วยคุณสมบัติของแก้ว สามารถทำเป็นรูปทรงใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับการสร้างสรรค์ ถ้าออกแบบให้ถูกใจลูกค้า ตลาดยังมีโอกาสอีกมาก

********************************

โทร.089-980-2073