แม้ในขณะนี้การแข่งขันในภาคธุรกิจหลากหลายประเภท มีการแข่งขันกันสูง แต่หากมองช่องว่างทางการตลาดให้ดี โอกาสธุรกิจยังมีอีกมาก อย่างธุรกิจแฟรนไชส์ไปรษณีย์เอกชน “มาสเตอร์ โพส เซอร์วิส” ที่เจาะช่องว่างทางการตลาดในการทำธุรกิจและขยายสาขา
นายพงศ์พันธ์ ชุติมานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท มาสเตอร์ โพส เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า เดิมตนเองได้ทำงานอยู่ในร้านไปรษณีย์เอกชนแห่งหนึ่ง จนมีความรู้ในเรื่องระบบ และการบริหารงานต่างๆ สุดท้ายจึงคิดออกมาทำธุรกิจด้านนี้เอง ซึ่งในปัจจุบันร้าน มาสเตอร์ โพส เซอร์วิส มีการให้บริการด้านการวางระบบธุรกิจไปรษณีย์เอกชน และธุรกิจจุดชำระค่าบริการ
โดยธุรกิจด้านไปรษณีย์เอกชนของมาสเตอร์ โพส ได้ให้บริการด้านรับฝากส่งงานไปรษณีย์แบบครบวงจร เช่น ไปรษณีย์ธรรมดา, ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ, พัสดุไปรษณีย์, ธนาณัติ, ไปรษณีย์ต่างประเทศ เป็นต้น ส่วนธุรกิจจุดชำระค่าบริการ หรือ Master Pay ให้บริการด้านการรับจ่ายค่าสาธารณูปโภคของหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงรับชำระบิลต่างๆ ของธนาคารต่างๆ ด้วยระบบออนไลน์ เช่น ค่าประปานครหลวง ค่าไฟฟ้านครหลวง, ค่าโทรศัพท์พื้นฐานทุกระบบ, ค่าโทรศัพท์มือถือทุกระบบ, ค่าผ่อนชำระสินเชื่อและบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจเสริม ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายประกันภัยรถยนต์ ประเภทที่ 1-3 และพ.ร.บ. ประกันภัย บุคคลที่ 3 กับบริษัทประกันภัยมากถึง 10 บริษัท และธุรกิจเสริมอื่นๆ เช่น ธุรกิจถ่ายเอกสาร เข้าเล่ม เคลือบบัตร รับ-ส่ง แฟกซ์ เป็นต้น
“เมื่อเรามีความเชี่ยวชาญ ในการวางระบบต่างๆ ให้กับร้านไปรษณีย์เอกชนมาแล้ว ทำให้เรามองถึงการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ ที่ในขณะนี้ทางมาสเตอร์ โพส มีสาขาทั้งหมด 11 สาขา ในกทม.และปริมณฑล เช่น สาขารังสิต, วุฒิธากาศ และ พระราม 2 เป็นต้น”
ส่วนการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ร้านไปรษณีย์เอกชน มาสเตอร์ โพส เซอร์วิส แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ 1.ลงทุนแฟรนไชส์ไปรษณีย์มาสเตอร์โพส 150,000 บาท ได้จุดรวมชำระเงิน Master Pay รวมอยู่ด้วย 2.แฟรนไชส์ไปรษณีย์ มาสเตอร์ โพส 200,000 บาท ได้รวมจุดชำระเงิน Master Pay และชุดธุรกิจเสริม Copy Center และ3. แฟรนไชส์จุดชำระเงิน Master Pay 60,000 บาท นั้น สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเฉพาะแฟรนไชส์จุดชำระเงินเพียงอย่างเดียว
“ธุรกิจแฟรนไชส์ของมาสเตอร์โพส เซอร์วิส ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือผู้ที่ต้องการทำเป็นธุรกิจในกิจการของตนเองที่มีอยู่แล้ว อย่างผู้ที่มีร้านมินิ มาร์ท ก็สามารถนำแฟรนไชส์ Master Pay ไปเสริมได้ โดยจุดที่แตกต่างจากจุดชำระเงินทั่วไปคือ สามารถรับชำระบิลที่เกินกำหนดชำระ ได้ด้วย ซึ่งจุดชำระเงินทั่วไปทำไม่ได้”
สำหรับรายได้ที่แฟรนไชส์ซีจะได้รับ โดยรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากธุรกิจบริการต่างๆ ภายในร้านเป็นหลัก เช่น งานไปรษณียภัณฑ์ รายได้จะมาจากการบวกเพิ่มจากค่าบริการปกติของบริษัทไปรษณีย์ไทย เฉลี่ยอยู่ที่ 10-60% ของค่าธรรมเนียมจากไปรษณีย์ไทย ขึ้นอยู่กับประเภทการใช้บริการ, จุดชำระค่าบริการ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการส่งข้อมูล ไปยังบริษัท ต่างๆ ที่รับชำระค่าบริการ เพราะทางมาสเตอร์ โพส มีระบบออนไลน์ มารองรับเพื่อความสะดวกรวดเร็วให้กับสาขา ซึ่งผลตอบแทนเริ่มตั้งแต่ 5-15 บาท/หนึ่งรายการชำระ, ผลตอบแทนจากการขาย พ.ร.บ. ประกันภัยบุคคลที่ 3 และประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 25-38% ของมูลค่าพ.ร.บ. และผลตอบแทนจากการทำธุรกิจเสริม ร่วมกับการเปิดไปรษณีย์เอกชน เช่น ธุรกิจถ่ายรูปด่วนดิจิตอล ถ่ายเอกสาร รับส่งแฟกซ์ เคลือบบัตร เข้าเล่ม เป็นต้น
นายพงศ์พันธ์ กล่าวถึงโอกาสในธุรกิจนี้ ว่าถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีผู้ที่ลงทุนทำธุรกิจไปรษณีย์เอกชนค่อนข้างมาก โดยมีทั้งแบบ Stand Alone ใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่ไม่ทันสมัย และแบบแฟรนไชส์ ที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ทำให้มีการแข่งขันสูง แต่ในขณะที่บางพื้นที่ ธุรกิจนี้ยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีข้อจำกัดของบริษัท ไปรษณีย์ไทย ที่มีเรื่องของเวลาเปิด-ปิด จำนวนสาขาที่ให้บริการยังมีน้อย ยังไม่เข้าถึงในบางพื้นที่ ส่งผลให้ธุรกิจนี้ยังเติบโตได้อีกมาก หากมีทำเลที่เหมาะสม
***สนใจติดต่อ 0-2951-5915, 0-7829-6315 หรือที่ www.masterpostservice.com***
นายพงศ์พันธ์ ชุติมานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท มาสเตอร์ โพส เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า เดิมตนเองได้ทำงานอยู่ในร้านไปรษณีย์เอกชนแห่งหนึ่ง จนมีความรู้ในเรื่องระบบ และการบริหารงานต่างๆ สุดท้ายจึงคิดออกมาทำธุรกิจด้านนี้เอง ซึ่งในปัจจุบันร้าน มาสเตอร์ โพส เซอร์วิส มีการให้บริการด้านการวางระบบธุรกิจไปรษณีย์เอกชน และธุรกิจจุดชำระค่าบริการ
โดยธุรกิจด้านไปรษณีย์เอกชนของมาสเตอร์ โพส ได้ให้บริการด้านรับฝากส่งงานไปรษณีย์แบบครบวงจร เช่น ไปรษณีย์ธรรมดา, ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ, พัสดุไปรษณีย์, ธนาณัติ, ไปรษณีย์ต่างประเทศ เป็นต้น ส่วนธุรกิจจุดชำระค่าบริการ หรือ Master Pay ให้บริการด้านการรับจ่ายค่าสาธารณูปโภคของหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงรับชำระบิลต่างๆ ของธนาคารต่างๆ ด้วยระบบออนไลน์ เช่น ค่าประปานครหลวง ค่าไฟฟ้านครหลวง, ค่าโทรศัพท์พื้นฐานทุกระบบ, ค่าโทรศัพท์มือถือทุกระบบ, ค่าผ่อนชำระสินเชื่อและบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจเสริม ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายประกันภัยรถยนต์ ประเภทที่ 1-3 และพ.ร.บ. ประกันภัย บุคคลที่ 3 กับบริษัทประกันภัยมากถึง 10 บริษัท และธุรกิจเสริมอื่นๆ เช่น ธุรกิจถ่ายเอกสาร เข้าเล่ม เคลือบบัตร รับ-ส่ง แฟกซ์ เป็นต้น
“เมื่อเรามีความเชี่ยวชาญ ในการวางระบบต่างๆ ให้กับร้านไปรษณีย์เอกชนมาแล้ว ทำให้เรามองถึงการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ ที่ในขณะนี้ทางมาสเตอร์ โพส มีสาขาทั้งหมด 11 สาขา ในกทม.และปริมณฑล เช่น สาขารังสิต, วุฒิธากาศ และ พระราม 2 เป็นต้น”
ส่วนการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ร้านไปรษณีย์เอกชน มาสเตอร์ โพส เซอร์วิส แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ 1.ลงทุนแฟรนไชส์ไปรษณีย์มาสเตอร์โพส 150,000 บาท ได้จุดรวมชำระเงิน Master Pay รวมอยู่ด้วย 2.แฟรนไชส์ไปรษณีย์ มาสเตอร์ โพส 200,000 บาท ได้รวมจุดชำระเงิน Master Pay และชุดธุรกิจเสริม Copy Center และ3. แฟรนไชส์จุดชำระเงิน Master Pay 60,000 บาท นั้น สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเฉพาะแฟรนไชส์จุดชำระเงินเพียงอย่างเดียว
“ธุรกิจแฟรนไชส์ของมาสเตอร์โพส เซอร์วิส ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือผู้ที่ต้องการทำเป็นธุรกิจในกิจการของตนเองที่มีอยู่แล้ว อย่างผู้ที่มีร้านมินิ มาร์ท ก็สามารถนำแฟรนไชส์ Master Pay ไปเสริมได้ โดยจุดที่แตกต่างจากจุดชำระเงินทั่วไปคือ สามารถรับชำระบิลที่เกินกำหนดชำระ ได้ด้วย ซึ่งจุดชำระเงินทั่วไปทำไม่ได้”
สำหรับรายได้ที่แฟรนไชส์ซีจะได้รับ โดยรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากธุรกิจบริการต่างๆ ภายในร้านเป็นหลัก เช่น งานไปรษณียภัณฑ์ รายได้จะมาจากการบวกเพิ่มจากค่าบริการปกติของบริษัทไปรษณีย์ไทย เฉลี่ยอยู่ที่ 10-60% ของค่าธรรมเนียมจากไปรษณีย์ไทย ขึ้นอยู่กับประเภทการใช้บริการ, จุดชำระค่าบริการ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการส่งข้อมูล ไปยังบริษัท ต่างๆ ที่รับชำระค่าบริการ เพราะทางมาสเตอร์ โพส มีระบบออนไลน์ มารองรับเพื่อความสะดวกรวดเร็วให้กับสาขา ซึ่งผลตอบแทนเริ่มตั้งแต่ 5-15 บาท/หนึ่งรายการชำระ, ผลตอบแทนจากการขาย พ.ร.บ. ประกันภัยบุคคลที่ 3 และประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 25-38% ของมูลค่าพ.ร.บ. และผลตอบแทนจากการทำธุรกิจเสริม ร่วมกับการเปิดไปรษณีย์เอกชน เช่น ธุรกิจถ่ายรูปด่วนดิจิตอล ถ่ายเอกสาร รับส่งแฟกซ์ เคลือบบัตร เข้าเล่ม เป็นต้น
นายพงศ์พันธ์ กล่าวถึงโอกาสในธุรกิจนี้ ว่าถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีผู้ที่ลงทุนทำธุรกิจไปรษณีย์เอกชนค่อนข้างมาก โดยมีทั้งแบบ Stand Alone ใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่ไม่ทันสมัย และแบบแฟรนไชส์ ที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ทำให้มีการแข่งขันสูง แต่ในขณะที่บางพื้นที่ ธุรกิจนี้ยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีข้อจำกัดของบริษัท ไปรษณีย์ไทย ที่มีเรื่องของเวลาเปิด-ปิด จำนวนสาขาที่ให้บริการยังมีน้อย ยังไม่เข้าถึงในบางพื้นที่ ส่งผลให้ธุรกิจนี้ยังเติบโตได้อีกมาก หากมีทำเลที่เหมาะสม
***สนใจติดต่อ 0-2951-5915, 0-7829-6315 หรือที่ www.masterpostservice.com***
