‘เจ๊เปีย’น้ำจิ้มสุกี้ครบรส จี๊ดจ๊าดถึงใจสไตล์ลูกทุ่ง

น้ำจิ้มสุกี้ยี่ห้อ “เจ๊เปีย” ในตลาดกรุงเทพฯ คงไม่เป็นที่คุ้นหูคุ้นตามากนัก แต่หากไปถามชาวจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง จะรู้จักเป็นอย่างดี ด้วยความเป็นผู้ผลิตรายเก่าแก่ อายุกว่า 10 ปี และรสชาติถูกปาก ถูกใจ แก่ผู้ได้ลองลิ้ม

จุดเด่นของน้ำจิ้มสุกี้ “เจ๊เปีย” จากการบอกเล่าของ “กุลนิษฐ์ หลวงคำ” เจ้าของธุรกิจ และเจ้าของสูตร ระบุว่า รสชาติจะจัด และเข้มข้นกว่าของเจ้าอื่นๆ เน้นออก 3 รส ได้แก่ เผ็ด เปรี้ยว และหวาน ความอร่อยมาจากส่วนผสมลงตัว และใช้วัตถุดิบสดใหม่ รวมถึง สามารถประยุกต์ไปใช้ประกอบอาหารอื่นๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะซอสผัก หรือซอสจิ้ม โดยส่วนผสมประกอบด้วยพริก น้ำส้ม น้ำตาล งา และเกลือ การผลิตปลอดจากสารกันเสียใดๆ ทั้งสิ้น

ที่มาของสูตร กุลนิษฐ์ เล่าย้อนว่า ก่อนทำน้ำจิ้มออกขาย ทดลองชิมน้ำจิ้มสุกี้ที่มีอยู่ในท้องตลาดทั้งหมด เพื่อมาปรับปรุงน้ำจิ้มสุกี้ของตัวเอง ให้ได้รสชาติที่คิดว่าดีที่สุด ระยะแรก มีทั้งรสเผ็ดน้อย เผ็ดกลาง และเผ็ดจัด ผลปรากฏว่า รสเผ็ดน้อย ได้รับความนิยมต่ำที่สุด และสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภค มักเติมพริก กับมะนาวเพิ่มในน้ำจิ้มสุกี้เสมอ จึงเปลี่ยนมาทำเฉพาะรสเผ็ดจัด ซึ่งกลายเป็นผลดี ช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ว่า หากต้องการน้ำจิ้มสุกี้รสเข้มข้นต้องเป็นยี่ห้อนี้

ส่วนแรงบันดาลใจให้ทำน้ำจิ้มสุกี้ขาย เพราะเป็นคนชอบทำอาหาร และเห็นว่า สุกี้เป็นเมนูที่ง่าย และสะดวก แค่มีน้ำจิ้มอร่อยๆ ก็ทำกินกันเองในครอบครัวได้ ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองไปกินร้านในห้างสรรพสินค้า

ทั้งนี้ การตลาด เริ่มจากด้วยจุดเล็กๆ ส่งตามตลาดสดใน จ.กาญจนบุรี ก่อนที่ขยายตัวแทนส่งไปยังจังหวัดใกล้เคียง และกระจายสู่จังหวัดใหญ่ ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ

เจ้าตัว ระบุว่า พยายามหาความรู้ นำมาพัฒนาสินค้าอยู่เสมอ เช่น ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ การผลิตให้ได้มาตรฐานอาหารควบถ้วนทั้ง อย. มผช GMP รวมถึงพัฒนาน้ำจิ้มให้เก็บไว้ได้นานกว่า 1 ปี โดยไม่ต้องพึ่งสารกันเสีย เคล็ดลับมาจาก ความสะอาดในการผลิต การเลือก และทำความสะอาดวัตถุดิบ

“ตอนเริ่มเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ใน จ.กาญจนบุรี และตามต่างจังหวัด ร้านสุกี้ยังไม่มากนัก เจ๊เปียก็คิดง่ายๆ ว่า เขาน่าจะอยากทำกินกันเองในบ้าน ตอนแรก ก็ทำแค่ไม่กี่หม้อ ใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุง ไปฝากขายร้านในตลาด พอลูกค้าซื้อไปกิน ก็บอกต่อกันปากต่อปาก จนยอดสั่งมากขึ้นเรื่อยๆ เราก็พัฒนาสินค้า ทั้งการผลิต และคุณภาพสินค้า จนเมื่อ 5-6 ปีหลัง ก็มีเครื่องหมายการค้าอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็ใช้ชื่อตัวเองมาตั้ง เพราะลูกค้าติดชื่อแล้วว่า เป็นของเจ๊เปีย”

จากที่แจ้งเกิดด้วยน้ำจิ้มสุกี้ “เจ๊เปีย” ออกสินค้าอื่นๆ ตามมาอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มไก่ และน้ำพริกรสชาติต่างๆ ทั้งหมดคิดค้น และพัฒนาสูตรด้วยตัวเองทั้งหมด โดยมีสินค้าเด่นๆ อาทิ น้ำพริกสูตรเจ สำหรับกลุ่มลูกค้ามังสวิรัติ และรับเทศกาลกินเจ ซึ่งมั่นใจว่า เป็นเจ้าแรกใน จ.กาญจนบุรี

ด้านช่องทางการขาย เน้นผ่านตัวแทนร้านค้าส่งขนาดใหญ่ตามตลาดสดต่างๆ ระดับราคากลางๆ ไม่ถูกจนไปแข่งกับสินค้าล่าง และไม่สูงเกินผู้บริโภคยอมรับได้ โดยน้ำจิ้มสุกี้ ขนาดขวด 250 กรัม ส่ง 20-22 บาท และกำหนดขายปลีก 25-30 บาท ส่วนขนาดขวด 580 กรัม ส่ง 40-42 บาท และกำหนดขายปลีก 45-50 บาท

เจ๊เปีย ระบุว่า ตั้งแต่เริ่มธุรกิจมา ยอดขายเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยปีที่แล้ว (2548) ยอดขายรวมราว 3.8 ล้านบาท ส่วนปีนี้ หลังผ่าน 6 เดือนแรก ยอดเพิ่มขึ้นอีกกว่า 50% และแม้ขณะนี้ น้ำจิ้มสุกี้จะมีคู่แข่ง ทั้งรายเก่า และรายใหม่ รวมถึงรายใหญ่อีกจำนวนมาก แต่ยังเชื่อมั่น แนวโน้มยังไปได้ดี เพราะอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว พฤติกรรมผู้บริโภค นิยมทำอาหารกินกันเองในครอบครัวมากขึ้น เพื่อความประหยัด โอกาสของธุรกิจเครื่องปรุงอาหารน่าจะยิ่งกว้าง ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมาพอสมควร มีกลุ่มลูกค้าขาประจำในพื้นที่ ซึ่งผู้ผลิตรายใหญ่ไม่สามารถลงมาเจาะถึง เชื่อว่า ธุรกิจจะคงเดินต่อไปได้ด้วยดี

ส่วนหลักการทำธุรกิจนั้น เน้นขายขาดด้วยเงินสด แม้จะกำไรต่อหน่วยน้อย แต่ตัดปัญหาหนี้ค้าง อีกทั้ง ยังช่วยให้การเงินมีสภาพคล่องตัวสูง ส่วนการผลิตจะไม่ตุนสต็อกมากเกินไป เพราะจะทำให้ ทุนจม และหากสินค้าตัวใด ไม่ทำกำไร อย่าฝืนตลาด จะหยุดทันที แล้วไปออกสินค้าตัวใหม่แทน

* * * * * * * *

โทร.034-647-267 , 0-1995-6513