ผลิตภัณฑ์ หมูแผ่น และปลาหมึกกรอบ ที่บรรจุภายในถุง ภายใต้แบรนด์ ฮันเซ่ นี้ ไม่ได้ทำจากหมูหรือ ปลาหมึก แต่อย่างใด แต่ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากแป้งถั่วเหลือง ซึ่งเกิดมาจากแนวคิดของ นายสามารถ จ่างวิทยา ที่เดิมครอบครัวทำโรงงานผลิตฟองเต้าหู้ ต้องประสบปัญหาขายสินค้าไม่ได้มาก เพราะฟองเต้าหู้ มีการนำไปทำอาหารได้เพียงไม่กี่อย่าง จึงเป็นที่มาของแนวคิดการนำฟองเต้าหู้มาดัดแปลงเป็นอาหารสำเร็จรูปออกจำหน่าย
สำหรับอาหารสำเร็จรูปที่ได้จากฟองเต้าหู้ ในครั้งนี้ เป็นการนำฟองเต้าหู้มาทอด และปรุงแต่งกลิ่น รสชาติ และสี ให้ดูเหมือนกับหมูแผ่น และปลาหมึกกรอบ โดยมีอยู่ด้วยกัน 4 รส ประกอบด้วย หมูแผ่น ปลาหมึก ปลาหมึกเผ็ด และสมุนไพร (สมุนไพรที่ใช้จะเป็นพริกแกง และตะไคร้) มีการเติมเม็ดงา เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร
นายสามารถ เล่าว่า ได้เริ่มทำถั่วเหลืองแผ่นอบกรอบ หรือฟองเต้าหู้ทอด ปรุงแต่งกลิ่น รส เลียนแบบเนื้อสัตว์ มาได้ประมาณ 1 ปี หลังจากที่ตนเองได้เข้ามาดูแลกิจการของครอบครัว ได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งโรงงานแห่งนี้ได้ดำเนินกิจการมาได้ประมาณ 10 ปี แต่ระยะหลังไม่สามารถทำยอดขายได้ เพราะฟองเต้าหู้ไม่สามารถนำทำอาหารได้มากนัก ทำให้ต้องปรับขนาดโรงงานให้เล็กลง เมื่อเข้ามาดูกิจการต้องการให้กิจการกลับมาดีเหมือนเดิมและมียอดขายเพิ่มขึ้น โดยนำโรงงานมาจดทะเบียนเป็นบริษัท และมีการเพิ่มไลน์การผลิตเพื่อกระตุ้นยอดขาย
โดยเกิดแนวคิดว่านำฟองเต้าหู้มาทำเป็นอาหารอื่นๆ ดูว่าทำอะไรได้บ้าง ด้วยการนำฟองเต้าหู้มาแปรรูปเป็นอาหารสำเร็จรูป เริ่มจากดูลักษณะของฟองเต้าหู้ว่าคล้ายอะไรบ้าง เมื่อปรุงแต่งกลิ่น รส และคล้ายอะไร และทำสิ่งนั้น ในช่วงแรกจึงออกมาเป็นหมูแผ่น และปลาหมึกรอบ จุดขายที่น่าสนใจของฟองเต้าหู้ คือ ทำมาจากถั่วเหลืองและมีคุณภาพทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เหมาะกับผู้ที่รักษ์และใส่ใจในสุขภาพ
ช่องทางการจำหน่าย ในช่วงเริ่มต้น มีผู้รับไปจำหน่ายและไปติดยี่ห้อของตัวเอง และส่งขายปลีกตามร้านอาหารเจ และร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ ถั่วเหลืองแผ่นอบกรอบ ‘ฮันเซ’ โดยบรรจุขายในถุงขนาด 80 กรัม ราคา ขายส่ง 26 บาท และขายปลีก 30-35 บาท โดยทางร้านจะเป็นผู้ตั้งราคา ซึ่งสินค้าจะขายจำนวนมากในช่วงเทศกาลกินเจ 10 วัน ซึ่งจะมียอดขายเกินกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งปีที่ขายได้ ซึ่งถ้าดูจากยอดขายตลอด 1 ปีทีผ่านมา ดูทรงตัว ยอดขายเฉลี่ยใกล้เคียงกันทุกเดือน
“จากยอดขายจะเห็นได้ว่าจะขายได้ดีเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจ และขายอยู่เฉพาะร้านอาหารเจ ต้องการจะขยายตลาดให้กว้างมากขึ้น เพื่อเข้าไปสู่ตลาดขนมขบคี้ยว เพราะข้อได้เปรียบของเราคือเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง ซึ่งจะได้เปรียบขนมขบเคี้ยว ที่ขายตามท้องตลาด ที่ส่วนใหญ่จะทำมาจากมันฝรั่ง ที่มีแต่แป้ง และน้ำมัน ในขณะนี้ ที่เราทำจากถั่วเหลือง 100 % ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่า”
ในระหว่างนี้ เป็นช่วงของการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้สินค้าดูน่าสนใจ จะได้ขยายตลาดเข้าไปสู่ตลาดโมเดิร์นเทรดได้ แต่ยังติดปัญหาเรื่องเงินทุน เพราะเครื่องจักรที่นำมาใช้ในการทำซองบรรจุภัณฑ์ นั้นต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ขณะนี้ ได้ดำเนินการขอความช่วยเหลือ จากหน่วยงานที่สนับสนุนเอสเอ็มอี ในระหว่างนี้ ยังใช้บรรจุภัณฑ์ ในรูปแบบเดิมอยุ่ อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการปรับเปลี่ยน บรรจุภัณฑ์ อาจจะต้องลดปริมาณลง แต่ราคาคงจะไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่มลูกค้า เป็นกลุ่มผู้ปกครองที่ใส่ใจสุขภาพ และต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้กับบุตรหลาน และกลุ่มผู้ใหญ่ที่ใส่ใจเรื่องของสุขภาพ ส่วนราคาเมื่อเทียบกับขนมขบเคี้ยว ราคาจะแพงกว่า แต่ไม่มาก ส่วนต้นทุนวัตถุดิบของเราจะสูงกว่า เพราะถั่วเหลืองราคาสูงกว่า มันฝรั่งหลายเท่าตัว ซึ่งเชื่อว่า จากคุณประโยชน์ และความแปลกใหม่ของผลิตภัณฑ์ ทำให้เราเข้าไปแข่งกับตลาดขนมขบเคี้ยวได้
“ความเหมือนเมื่อเทียบกับหมูแผ่น หรือ ปลาหมึก นั้นดูภายนอก เหมือน แต่เมื่อได้กิน เนื้อสัมผัสของหมู กับฟองเต้าหู้จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และรสชาติไม่เหมือนกันเนื้อหมูมีการหมักซอส ผงพะโล้ หรือ น้ำตาล ในขณะที่ฟองเต้าหู้ของเราไม่มี ซึ่งความเหมือนตรงนี้ เราให้แค่ 70% การทำให้เหมือนเพียงนำมาเป็นข้ออ้างอิงเท่านั้น แต่จริงต้องการจะขายในลักษณะของผลิตภัณฑ์จากฟองเต้าหู้มากกว่า ที่ผ่านมา ลูกค้าที่ซื้อที่ร้านอาหารเจ จะทราบโดยอัตโนมัติ เพราะร้านอาหารเจไม่ขายเนื้อสัตว์อยู่แล้ว แต่ถ้าวางขายทั่วไปลูกค้าเข้าใจว่าเป็นหมูแผ่น”
สนใจโทร. 0-2224-4771,0-1559-6097