“พาณิชย์”เปิดตัวเครื่องหมาย Thai Select เตรียมให้เฉพาะร้านอาหารไทยที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพและมาตรฐานที่กำหนด หวังใช้เป็นตัวโปรโมตร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ป้องกันถูกเลียนแบบ จนทำให้ภาพลักษณ์ร้านอาหารไทยเสียหาย
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในตลาดโลก และที่ผ่านมา มักจะมีปัญหาการลอกเลียนแบบสินค้ากันมาก กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการส่งออกจึงได้แก้ไขปัญหาด้วยการใช้เครื่องหมาย Thailand Brand ตีตราในตัวสินค้าเพื่อเป็นการยืนยันแก่ลูกค้าว่าสินค้าผลิตในประเทศไทยจริง
ทั้งนี้ การให้ Thailand Brand ได้มอบให้กับสินค้าส่งออกหลายประเภท รวมถึงอาหาร และร้านอาหารไทยที่อยู่ในต่างประเทศ เนื่องจากอาหารไทยเป็นที่นิยม ก็มีคนชาติอื่นหันมาทำร้านอาหารไทย มีการระบุว่าเป็น Thai Cuisine แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ก็ทำให้ภาพลักษณ์อาหารไทยเสียหาย จึงมีความจำเป็นต้องมีการให้เครื่องหมายรับรอง Thai Select แก่ร้านอาหารไทยเป็นการเฉพาะขึ้นมา
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า การให้ Thai Select กับ Thailand’s Brand นั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งเครื่องหมาย Thailand’s Brand ถือเป็นเครื่องหมายรับรองที่ให้แก่สินค้าคุณภาพที่ผลิตในประเทศไทย แต่ในตลาดต่างประเทศมีปัญหาการลอกเลียนแบบสินค้ากันมาก โดยเฉพาะสินค้าของประเทศไทย ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ จึงทำให้ต้องใช้เครื่องหมายนี้ ยืนยันแก่ลูกค้าว่าสินค้าผลิยในประเทศไทยจริง
“ที่ผ่านมาทางกรมฯ ได้ให้ Thailand’s Brand แก่สินค้าส่งออก หลายประเภท รวมทั้งอาหารด้วยเช่นเดียวกับร้านอาหารไทยที่อยู่ในต่างประเทศ เนื่องจากอาหารไทยเป็นที่นิยม ก็มีคนชาติอื่นหันมาทำร้านอาหารไทย และระบุว่าเป็น Thai Cuisine แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ก็ทำให้ภาพลักษณ์อาหารไทยเสียหาย เราจึงจำเป็นต้องมีการให้เครื่องหมายรับรอง Thai Select แก่ร้านอาหารไทย ซึ่งจะเน้นร้านที่มีคุณภาพเท่านั้น” นางจันทรากล่าว
ทั้งนี้การให้เครื่องหมาย Thai Select มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานร้านอาหารไทยที่มีคุณภาพในต่างประเทศ (Q Mark) ,ใช้เป็นเครื่องมือในการทำประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนจดจำ และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในต่างประเทศตระหนักถึงคุณภาพร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้อาหารไทยเป็นที่นิยมในสากล
ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่จะสมัครขอใช้เครื่องหมาย Thai Select ได้นั้น จะต้องเป็นร้านอาหารไทยในต่างประเทศ โดยแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.Traditional Thai Cuisine ได้แก่ ร้านอาหารไทยที่ให้บริการอาหารไทยที่ปรุงตามตำรับ และยังคงเอกลักษณ์ตามประเภทของอาหารนั้นๆ แบ่งเป็น Quick Service และ Table Service (Full Service) 2. Modern Thai Cuisine ได้แก่ อาหารไทยที่ประยุกต์จากตำรับ โดยผสมผสานกับอาหารของชาติอื่น หรือมีวิธีการเสริฟ และตกแต่งอาหารแตกต่างจากต้นตำรับ 3.Special Thai Cuisine ได้แก่ อาหารไทยที่ขายเฉพาะประเภท เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านสุกี้แบบไทย เป็นต้น และ 4. ร้านอาหารที่มีเครือข่าย (Chain Restaurant) ที่มีเมนูอาหารไทยที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับรัฐบาลไทยให้เฉพาะเมนูอาหารไทย
เมื่อทางกรมส่งเสริมการส่งออกได้มอบเครื่องหมาย Thai Select ไปแล้วจะมีมาตรการในการดูแลรักษามาตรฐานของผู้ที่ได้รับเครื่องหมายแล้ว ซึ่งร้านอาหารไทยที่ต้องการเครื่องหมายดังกล่าวจะต้องผ่านหลักเกณฑ์พื้นฐานและหลักเกณฑ์เฉพาะตามประเภทอาหารและธุรกิจ โดยจะต้องผ่านเกณฑ์พื้นฐานก่อน เช่น มาตรฐานสุขอนามัย พ่อครัวแม่ครัวต้องมีคุณสมบัติตามกำหนด ต้องใช้วัตถุดิบจากประเทศไทย มีรายการอาหารไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของรายการอาหารทั้งหมดที่ให้บริการ เปิดดำเนินกิจการไม่น้อยกว่า 6 เดือน มีการตกแต่งร้าน อาหารต้องมีคุณภาพมีการนำเสนออย่างเหมาะสม เป็นต้น และมีขั้นตอนการดำเนินงานอย่างชัดเจน และโปร่งใส
สำหรับเครื่องหมาย Thai Selact ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2549 ที่โตเกียว โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อทำการประชาสัมพันธ์เครื่องหมายดังกล่าว ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารที่กรมฯ จัดทั้งในและต่างประเทศ เช่น งานแสดงสินค้าอาหารในต่างประเทศ 26 งาน รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ให้แก่ร้านอาหารไทยในตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย
นอกจากนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เครื่องหมาย Thai Select ทางกรมฯ ได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ในกลางปีนี้ โดยจะเชิญเจ้าของร้านอาหารไทยที่ได้ Thai Select มาร่วมงาน Thaifex 2006 มาร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจร้านอาหาร เช่น พบผู้ผลิตอาหาร, Intertrader เพื่อหาทางพัฒนาการผลิตและการกระจายสินค้าอาหารไทยไปต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้พบสถาบันการเงินเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและขยายกิจการ พบผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดธุรกิจร้านอาหารและแฟรนไชส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อนำเสนออาหารเมนูใหม่ๆ เป็นต้น รวมถึงการจัดงาน Thainess to the World เพื่อต้องการส่งเสริมการส่งออกสินค้า บริการ การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกัน โดยกรมส่งเสริมการส่งออก BOI การท่องเที่ยวฯ การบินไทย และสถาบันอาหาร โดยในปีนี้ได้จัดไปแล้วที่ประเทศ ญี่ปุ่น ดูไบ อิตาลี กัมพูชา และเยอรมัน
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในตลาดโลก และที่ผ่านมา มักจะมีปัญหาการลอกเลียนแบบสินค้ากันมาก กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการส่งออกจึงได้แก้ไขปัญหาด้วยการใช้เครื่องหมาย Thailand Brand ตีตราในตัวสินค้าเพื่อเป็นการยืนยันแก่ลูกค้าว่าสินค้าผลิตในประเทศไทยจริง
ทั้งนี้ การให้ Thailand Brand ได้มอบให้กับสินค้าส่งออกหลายประเภท รวมถึงอาหาร และร้านอาหารไทยที่อยู่ในต่างประเทศ เนื่องจากอาหารไทยเป็นที่นิยม ก็มีคนชาติอื่นหันมาทำร้านอาหารไทย มีการระบุว่าเป็น Thai Cuisine แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ก็ทำให้ภาพลักษณ์อาหารไทยเสียหาย จึงมีความจำเป็นต้องมีการให้เครื่องหมายรับรอง Thai Select แก่ร้านอาหารไทยเป็นการเฉพาะขึ้นมา
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า การให้ Thai Select กับ Thailand’s Brand นั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งเครื่องหมาย Thailand’s Brand ถือเป็นเครื่องหมายรับรองที่ให้แก่สินค้าคุณภาพที่ผลิตในประเทศไทย แต่ในตลาดต่างประเทศมีปัญหาการลอกเลียนแบบสินค้ากันมาก โดยเฉพาะสินค้าของประเทศไทย ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ จึงทำให้ต้องใช้เครื่องหมายนี้ ยืนยันแก่ลูกค้าว่าสินค้าผลิยในประเทศไทยจริง
“ที่ผ่านมาทางกรมฯ ได้ให้ Thailand’s Brand แก่สินค้าส่งออก หลายประเภท รวมทั้งอาหารด้วยเช่นเดียวกับร้านอาหารไทยที่อยู่ในต่างประเทศ เนื่องจากอาหารไทยเป็นที่นิยม ก็มีคนชาติอื่นหันมาทำร้านอาหารไทย และระบุว่าเป็น Thai Cuisine แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ก็ทำให้ภาพลักษณ์อาหารไทยเสียหาย เราจึงจำเป็นต้องมีการให้เครื่องหมายรับรอง Thai Select แก่ร้านอาหารไทย ซึ่งจะเน้นร้านที่มีคุณภาพเท่านั้น” นางจันทรากล่าว
ทั้งนี้การให้เครื่องหมาย Thai Select มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานร้านอาหารไทยที่มีคุณภาพในต่างประเทศ (Q Mark) ,ใช้เป็นเครื่องมือในการทำประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนจดจำ และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในต่างประเทศตระหนักถึงคุณภาพร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้อาหารไทยเป็นที่นิยมในสากล
ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่จะสมัครขอใช้เครื่องหมาย Thai Select ได้นั้น จะต้องเป็นร้านอาหารไทยในต่างประเทศ โดยแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.Traditional Thai Cuisine ได้แก่ ร้านอาหารไทยที่ให้บริการอาหารไทยที่ปรุงตามตำรับ และยังคงเอกลักษณ์ตามประเภทของอาหารนั้นๆ แบ่งเป็น Quick Service และ Table Service (Full Service) 2. Modern Thai Cuisine ได้แก่ อาหารไทยที่ประยุกต์จากตำรับ โดยผสมผสานกับอาหารของชาติอื่น หรือมีวิธีการเสริฟ และตกแต่งอาหารแตกต่างจากต้นตำรับ 3.Special Thai Cuisine ได้แก่ อาหารไทยที่ขายเฉพาะประเภท เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านสุกี้แบบไทย เป็นต้น และ 4. ร้านอาหารที่มีเครือข่าย (Chain Restaurant) ที่มีเมนูอาหารไทยที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับรัฐบาลไทยให้เฉพาะเมนูอาหารไทย
เมื่อทางกรมส่งเสริมการส่งออกได้มอบเครื่องหมาย Thai Select ไปแล้วจะมีมาตรการในการดูแลรักษามาตรฐานของผู้ที่ได้รับเครื่องหมายแล้ว ซึ่งร้านอาหารไทยที่ต้องการเครื่องหมายดังกล่าวจะต้องผ่านหลักเกณฑ์พื้นฐานและหลักเกณฑ์เฉพาะตามประเภทอาหารและธุรกิจ โดยจะต้องผ่านเกณฑ์พื้นฐานก่อน เช่น มาตรฐานสุขอนามัย พ่อครัวแม่ครัวต้องมีคุณสมบัติตามกำหนด ต้องใช้วัตถุดิบจากประเทศไทย มีรายการอาหารไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของรายการอาหารทั้งหมดที่ให้บริการ เปิดดำเนินกิจการไม่น้อยกว่า 6 เดือน มีการตกแต่งร้าน อาหารต้องมีคุณภาพมีการนำเสนออย่างเหมาะสม เป็นต้น และมีขั้นตอนการดำเนินงานอย่างชัดเจน และโปร่งใส
สำหรับเครื่องหมาย Thai Selact ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2549 ที่โตเกียว โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อทำการประชาสัมพันธ์เครื่องหมายดังกล่าว ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารที่กรมฯ จัดทั้งในและต่างประเทศ เช่น งานแสดงสินค้าอาหารในต่างประเทศ 26 งาน รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ให้แก่ร้านอาหารไทยในตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย
นอกจากนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เครื่องหมาย Thai Select ทางกรมฯ ได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ในกลางปีนี้ โดยจะเชิญเจ้าของร้านอาหารไทยที่ได้ Thai Select มาร่วมงาน Thaifex 2006 มาร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจร้านอาหาร เช่น พบผู้ผลิตอาหาร, Intertrader เพื่อหาทางพัฒนาการผลิตและการกระจายสินค้าอาหารไทยไปต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้พบสถาบันการเงินเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและขยายกิจการ พบผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดธุรกิจร้านอาหารและแฟรนไชส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อนำเสนออาหารเมนูใหม่ๆ เป็นต้น รวมถึงการจัดงาน Thainess to the World เพื่อต้องการส่งเสริมการส่งออกสินค้า บริการ การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกัน โดยกรมส่งเสริมการส่งออก BOI การท่องเที่ยวฯ การบินไทย และสถาบันอาหาร โดยในปีนี้ได้จัดไปแล้วที่ประเทศ ญี่ปุ่น ดูไบ อิตาลี กัมพูชา และเยอรมัน