ถังเก็บน้ำดักไขมันไฟเบอร์ ชิงตลาดถังสแตนเลส

ถังเก็บน้ำ สินค้าจำเป็นที่อยู่คู่บ้าน อพาร์ทเม้นท์ และสำนักงาน เพราะปัจจุบัน ที่อยู่อาศัย ที่มีตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป จะต้องมีถังน้ำเก็บน้ำ และปั้มน้ำขึ้นมาใช้ และถังเก็บน้ำจะมาแทนโอ่งและแท้งน้ำที่ใช้กันในต่างจังหวัด ทำให้ตลาดถังเก็บน้ำเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ธุรกิจบ้านจัดสรร เติบโต ถังเก็บน้ำจะมียอดขายเพิ่มขึ้นด้วย


นายอุทัย จารุปราโมทย์ รองผู้จัดการ หจก.เจ.อาร์.เอ็ม.โปรดักท์ กล่าวว่า ผู้ผลิตถังไฟเบอร์กลาส มีอยู่ด้วยกันไม่มากนักในประเทศไทย และห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ.อาร์.เอ็ม.โปรดักท์ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตถังเก็บน้ำ และถังดักไขมัน ป้อนให้กับแบรนด์ดังหลายแบรนด์ อาทิ การัต และอีก7-8แบรนด์ ซื้อถังไฟเบอร์กลาสจากเราและนำมาติดแบรนด์ของตนเอง ในปีนี้ เราได้ผลิตออกมาในแบรนด์ของเราเอง ชื่อว่า เจ.อาร์.เอ็ม

ส่วนถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาส เป็นถังเก็บน้ำ ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพราะด้วยคุณสมบัติ ที่แข็งแรงทนทาน อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ทำความสะอาดง่าย และราคาถูกกว่า ถังเก็บน้ำจากสแตนเลส ที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในขณะนี้ ซึ่งราคาของถังเก็บน้ำไฟเบอร์ จะราคาแพงกว่าถังเก็บน้ำพลาสติกโพลีเอสเตอร์ PE แต่หลังจากภาวะราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เม็ดพลาสติกมีราคาเพิ่มขึ้นทำให้ ปัจจุบัน ถังเก็บน้ำโพลี และถังเก็บน้ำไฟเบอร์มีราคาเท่ากัน

โดยถังไฟเบอร์กลาส ประกอบไปด้วย ถังเก็บน้ำ ถังดักไขมัน ถังบำบัดน้ำเสีย บ่อดักไขมัน ขนาดของถังเก็บน้ำ 500 ลิตร - 4,000 ลิตร ส่วนถังบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่สุดประมาณ 60,000 ลิตร เน้นขายในประเทศ 90% ส่วนตลาดส่งออก จะมีตัวแทนไปส่งออกไปจำหน่ายอีกที่หนึ่ง ในแถบประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ ลูกค้าในประเทศ ประกอบด้วย กลุ่มบ้านจัดสรร รองลงมากลุ่มหน่วยงานราชการ อบต. ซึ่งจะมีการสั่งซื้อเข้ามาทุกปี โดยเฉพาะปีไหนแห้งแล้ง พออีกปีหนึ่งจะขายถังเก็บน้ำได้หลายใบ และ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม โรงงานผลิตถังขนาดใหญ่ที่สามารถบรรจุได้ถึง 100,000 ลิตรได้ ซึ่งเป็นที่ต้องการของกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ในขณะที่โรงานอื่นยังไม่สามารถผลิตได้

สำหรับราคาของถังไฟเบอร์ ไม่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน ในเรื่องของวัตถุดิบ แต่จะมีผลพลอยได้ จากการที่ประเทศจีนทุ่มตลาดใยแก้ว แข่งกับตลาดยุโรป ทำให้ราคาใยแก้วมีราคาถูกลงและมีใยแก้วตกค้างอยู่ในตลาดโลกเป็นจำนวนมาก ราคาใยแก้วจึงมีราคาถูกอยู่ในช่วงนี้ และเราสามารถผลิตเครื่องจักรได้เองภายในประเทศไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ประหยัดไปได้จำนวนมาก เครื่องที่เราผลิตได้ มีราคาเพียง 1 ล้านกว่าบาท

ในขณะเครื่องจักรที่สามารถผลิตถังขนาด หลายหมื่นลิตรได้มีราคาหลายสิบล้านบาทตลาดถังเก็บน้ำ ในขณะนี้ แข่งกันอยู่ 3 ตลาด คือ ถังเก็บน้ำสแตนเลส มาเป็นอันดับหนึ่ง ถังเก็บน้ำโพลี มาเป็นอันดับสอง และอันดับสาม ถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาส รายได้ของบริษัทประมาณ 3-4 ล้านบาทต่อเดือน ถังขนาด ที่ขายดีที่สุดถังขนาด 500-2000 ลิตร ซึ่งถังเก็บน้ำ และถังดักไขมัน ยอดขายในสัดส่วนใกล้เคียงกัน

 

"จากประสบการณ์ ผลกระทบภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมา ทำให้เรามีบทเรียนจากความล้มเหลวของธุรกิจบ้านจัดสรร จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับตลาดนั้นมากนัก แต่หันมาหาตลาด หน่วยราชการ อบต. แทน เพราะ งบประมาณที่แน่นอนที่หน่วยงานอบต. และจากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นบริษัทได้มีการขยายงาน โดยได้รับเงินกู้จาก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SME BANK"

โทร.0-3441-2350