xs
xsm
sm
md
lg

โซฟานอนแบบย่อส่วน สร้างดีไซน์เอาใจน้องหนู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สำหรับลูกหลานอันที่เป็นรักแล้ว ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักจะยอมควักกระเป๋าแบบไม่เสียดาย เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เสมอ จึงเกิดสินค้ามากมาย เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเด็กโดยเฉพาะ ไม่เว้นแม้แต่โซฟาปรับนอน อย่าง “KID’s BOFA “ อาศัยแนวคิดธุรกิจนี้เช่นกัน ย่อส่วนขนาด พร้อมสร้างจุดเด่นด้วยดีไซน์และสีสันสดใส กลายเป็นสินค้าไทยที่โดนใจไประดับสากล

ปราถนา จิโนรส เจ้าของธุรกิจ อธิบายถึงไอเดียโซฟาสำหรับเด็ก เนื่องมาจากเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ภายใต้แบรนด์ “BOFA” มายาวนานกว่า 20 ปี โดยสินค้าเด่น คือ โซฟาแบบปรับนอน (Sofa Bed) ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตเจ้าแรกของประเทศไทย

“หลังจากโซฟาแบบปรับนอน ได้การตอบรับที่ดีมาก ทั้งจากตลาดในประเทศ และต่างประเทศ จนมีเสียงถามเข้ามาจำนวนมากว่า น่าจะทำโซฟาแบบปรับนอน สำหรับเด็กด้วยนะ เพราะเด็กๆ จะชอบเล่นโซฟาแบบนี้ จึงเป็นการจุดประกายความคิดให้เรา”

ระบุตลาดพ่อแม่ทุ่มเพื่อลูก

เจ้าของธุรกิจ เผยต่อว่า เมื่อได้ประกายความคิดดังกล่าว ได้สำรวจวิจัยพฤติกรรมลูกค้า ทำให้พบว่า ทุกวันนี้ พ่อแม่ให้ความใส่ใจกับลูกของตัวเองอย่างมาก ยอมควักกระเป๋าเพื่อลูกในอัตราสูง ทำให้มั่นใจในโอกาสทางธุรกิจ

โซฟาเด็ก “KID’s BOFA “ ออกแบบเน้นสีสดใส ไม่ว่าจะเป็นแดง ส้ม เขียว ฯลฯ รวมถึงปรับโฉม เป็นรูปใบหน้าสัตว์ต่างๆ หรือรถยนต์ เป็นต้น รวมถึง เพิ่มลูกเล่นเสริมต่างๆ อาทิ มีลิ้นชักในส่วนฐาน เป็นต้น

ด้านวัสดุที่มาทำโซฟาเด็ก จะเหมือนกับโซฟาของผู้ใหญ่ทั้งหมด เพียงแต่นำมาย่อส่วน โดยมีทั้งหนังแท้ หนังเทียม เช่นเดียวกับอุปกรณ์ภายในสำหรับปรับพับโซฟา เป็นมาตรฐานเดียวกับของผู้ใหญ่ จึงไม่มีปัญหาการรองรับน้ำหนัก ซึ่งเป็นอุปกรณ์ดังกล่าว เป็นผลงานที่ผลิตได้เองแล้วในประเทศ จากเดิมต้องนำเข้าจากญี่ปุ่นเท่านั้น จึงนับเป็นข้อได้เปรียบอีกประการ เพราะทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงได้

กดราคาต่ำ บุกขายวงกว้าง

ทั้งนี้ เริ่มออกตลาดเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว โดยได้ตอบรับอย่างดี เพราะนอกเหนือจากกลุ่มลูกค้าที่กะเก็งไว้ คือ กลุ่มพ่อแม่ และเด็กเล็กถึงเด็กโตแล้ว ยังได้ลูกค้ากลุ่มเด็กวัยรุ่น ที่โดนใจกับสไตล์การออกแบบ นอกจากนั้น ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด ความกว้างยาวประมาณ 69 x 69 ซม. ทำให้ได้กลุ่มคนที่มีข้อจำกัดของขนาดพื้นที่ห้องมาเสริมด้วย

ด้านราคา ตั้งไว้ที่ ในประเทศ 1,800 บาท และส่งออก 39 เหรียญสหรัฐ หลังหักต้นทุนทั้งหมดแล้ว เหลือกำไรประมาณ 15% จากราคาขาย เจ้าของธุรกิจ อธิบายจุดนี้ว่า ราคานี้ นับว่าไม่สูงมาก เพราะต้องการเป็นแมสโปสดักส์

โดยมีช่องทางจำหน่าย ในประเทศ ผ่านดีลเลอร์กว่า 200 ราย ส่วนต่างประเทศ ขายส่งไปยังแคนาดา ญี่ปุ่น เป็นต้น รวมถึงออกงานแฟร์เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านต่างๆ โดยยอดขายโซฟาเด็ก คิดเป็นสัดส่วนกว่า 30% จากรายได้รวมธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ของบริษัททีเดียว

ส่วนแผนธุรกิจต่อไป จะออกแบบใหม่ ด้วยการจำลองโซฟาเด็กให้มีเหมือนของโซฟามาตรฐานทั่วไป ในทุกๆ รูปแบบ พร้อมกับเพิ่มลูกเล่นให้กับสินค้ามากยิ่งขึ้น

ชี้ปัญหาโดนเลียนแบบ-ตัดราคา

ปรารถนา ระบุปัญหาของธุรกิจที่พบ ถ้าเป็นในประเทศ จะโดนเลียนแบบ ให้ภายนอกดูเหมือนทุกประการ แล้วมาขายตัดราคาต่ำกว่า 30% แม้จะยื่นจดลิขสิทธิ์ไว้ทุกผลิตภัณฑ์ แต่ก็ไม่ช่วยให้รอดพ้นได้ แนวทางแก้ไข ถ้าแบบใดโดนเลียนแบบแล้ว จะนำออกมาขายลดราคาล้างสต็อก พร้อมทิ้งแบบโมเดลเลิกผลิตแบบนั้นไปเลย และออกแบบใหม่มาทดแทน เวลานี้ บริษัทฯ จะมีแบบใหม่เฉลี่ยทุก 3-4 เดือน

ด้านการส่งออก ปัญหาทุกวันนี้ มีผู้ผลิตโซฟาเด็กจากประเทศจีน และมาเลเซีย ใช้ข้อได้เปรียบจากค่าแรงงาน และค่าวัสดุที่ถูกกว่ามาเป็นคู่แข่งขัน ขายถูกกว่าประมาณ 10% ดังนั้น จึงเน้นออกแบบสินค้าให้มีความหลากหลายเหนือคู่แข่งมาเป็นจุดขายทดแทน

“จากที่จีน มาตัดราคา เราหันมาพัฒนารูปแบบ ให้เป็นจุดขายแทน เช่น ปรับนอนได้หลายรูปแบบ มีคอฟฟี่บาร์ข้างๆ ทำให้ลูกค้าประเมินแล้ว คุ้มค่ากว่า ในราคาที่สูงขึ้นเพียง 10%”

อย่างไรก็ตาม กังวลการส่งออกของธุรกิจไทยในอนาคต เพราะจีนกำลังเข้าไปตีตลาดทั่วโลก จึงอยากฝากให้ภาครัฐวางแนวทางช่วยเหลือลดต้นทุนการผลิตให้ผู้ประกอบการไทย เพื่อแข่งขันกับจีนได้ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการด้านภาษี หรือค่าเงินบาทแข็งตัว ในขณะที่ สำหรับผู้ประกอบการเอง ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย โดยสินค้าส่งออก ต้องคำนึกถึงคุณภาพ กับราคาให้เหมาะสมกัน อีกทั้ง มีรับผิดชอบส่งงานได้ตรงกำหนด

กำลังโหลดความคิดเห็น