ถ้ามีโอกาสเดินผ่านไปยังโซนสุโขทัย สวนลุมไนท์บาซาร์ อาจจะสะดุดกับผลงาน ตุ๊กตาสัตว์ มีรูปแบบแตกต่าง แปลกตา นำเสนอในท่วงท่าเหนือธรรมชาติ สื่อผ่านหน้าตาแสนกวน ทำจากเศษผ้า และวัสดุอุปกรณ์เหลือใช้นานาชนิด
เจ้าของผลงานดังกล่าว คือ จุฑาลักษณ์ ธงชัย หรือ “ป่าน” บัณฑิตใหม่จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยแรงบันดาลใจต่อเนื่องจากการทำวิทยานิพนธ์ ซึ่งนำงานประติมากรรมมาประยุกต์ ไม่จำกัดต้องยึดติดกับการปั้นด้วยดินเหนียว
“ป่านชอบงานด้านปักเย็บ เลยนำมาประยุกต์เข้ากับงานประติมากรรม โดยเริ่มจากทำเป็นแมว เพราะส่วนตัว ก็เลี้ยงแมวอยู่ด้วย โดยการออกแบบให้ดูเป็นสัตว์ที่เหนือจริง แต่ก็ยังดูรู้ว่า มันเป็นสัตว์ชนิดใด ซึ่งการออกแบบ ป่านจะอาศัยความชอบเป็นหลัก ผสมกับจิตรกรรมที่เราชอบงานที่สีสัน และมีความแปลก”
สำหรับขั้นตอนการทำ เริ่มจากการร่างแบบคร่าวๆ และขึ้นโครงด้วยเส้นลวด แล้วตัดเย็บผ้ามาคลุมภายนอก ตามด้วยการยัดนุ่ม นำวัสดุต่างๆ ซึ่งไม่มีข้อจำกัดมาตกแต่งภายนอก อาทิ กระสวยด้ายมาทำเป็นลูกตา หรือเข็มมุดร้อยลูกปัดใช้เป็นหนวด ฯลฯ บางชิ้นจะมีฐานหล่อด้วยปูนปลาสเตอร์ โดยเฉลี่ยต่อชิ้นใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน แล้วแต่ขนาด
“เรื่องชนิดผ้าไม่มีจำกัดเลย ขึ้นอยู่กับเราจะเลือกอะไรมาใช้ มีทั้งซื้อมา หรือบางทีก็เอาเศษผ้ามาใช้ ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ ก็ไม่มีข้อจำกัด เพราะป่านจะร่างแบบคร่าวๆ ไว้ แล้วมาสร้างสรรค์ต่อ แล้วต่อวัตถุดิบที่จะหาได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเอามาจากของเหลือใช้รอบๆ ตัว”
ด้วยฝีมือ และไอเดียบรรเจิดอยู่กับตัว ไม่แปลกที่หลังจากจบการศึกษา จะมีบริษัทเอกชนหลายๆ แห่ง สนใจดึงตัวไปร่วมงาน ทว่า สาวจากรั้วจามจุรี เลือกที่จะสร้างธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง โดยเปิดร้านชื่อ “Noah ‘s Ask” ร่วมกับเพื่อน (ศุภโชค ถังทอง) อยู่ในโซนสุโขทัย สวนลุมไนท์บาซาร์ เมื่อประมาณเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี่เอง เพราะไม่อยากจะทำงานประจำซ้ำซากจำเจ
ทว่า เนื่องจากงานนี้ เริ่มต้นแนวคิดทางศิลปะ คนที่จะซื้อสินค้าประเภทนี้ จะเป็นเฉพาะกลุ่มจริงๆ ขายได้แค่ นักท่องเที่ยวชาวตะวันตก และญี่ปุ่นเท่านั้น ส่วนชาติในอาเซียน และชาวไทย จะเห็นแค่แปลก แต่ไม่สนซื้อหา จุดนี้เป็นปัญหา ที่ต้องยอมรับว่า ขาดด้านการตลาด จึงกำลังพยายามปรับงานให้นอกจากแปลกแล้ว สามารถใช้งานได้ด้วย อาทิ ประยุกต์เป็นเฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์สำหรับตกแต่งสถานที่
“งานพวกนี้ มันเริ่มจากงานประติมากรรมประยุกต์ ซึ่งเราอยากจะทำตามที่คิดไว้จริงๆ ยังไม่ได้มองที่พาณิชย์มากนัก ลูกค้าบางคนสนใจมาก ซื้อโดยไม่มีเงื่อนไข ส่วนใหญ่ชิ้นที่ขายได้ จะเป็นงานประหลาดมากๆ เช่น ทำเป็นหมาไส้แตก แต่ลูกค้าบางคน ก็จะถามว่า ซื้อไปทำอะไร ป่านก็ตอบ ได้แค่เป็นของแต่งบ้าน ทำให้ต้องกลับมาคิดว่า ต้องพยายามปรับรูปแบบ ให้ใช้งานได้ด้วยนะ”
เมื่อถามถึงจุดเด่น เจ้าของแนวคิด ระบุ แต่ละชิ้นจะไม่ซ้ำแบบกัน เพราะเป็นงานทำมือ และอาศัยความคิดสร้างสรรค์ในเวลานั้นๆ ไม่มีรูปแบบตายตัว รวมแล้ว มีมากกว่าร้อยแบบ ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบสัตว์ประเภทต่างๆ มีทั้งชิ้นใหญ่ และเล็ก ราคาขายเริ่มตั้งแต่ 300 บาทถึงสูงสุด 3,000 บาท
ผลตอบรับหลังจากเปิดร้านมาประมาณ 3 เดือน เฉลี่ยรายได้ยังไม่หักค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 บาท / เดือน ซึ่งถือว่ายังไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับค่าเช่าพื้นที่ราคาสูงในปัจจุบัน แต่เนื่องจากค่าวัสดุค่อนข้างต่ำ เพราะส่วนใหญ่เป็นของเหลือใช้ และทุกขั้นตอนทำด้วยตัวเอง ไม่ต้องจ่ายค่าจ้างให้ใคร จึงพอจะหมุนเวียนกิจการไปได้
จุฑาลักษณ์ ยังเผยอีกว่า ขณะนี้ สินค้ายังไม่ถูกลอกเลียนแบบ แต่กังวลเช่นกัน พยายามคิดว่า ถ้าจะถูกเลียนแบบ ก็จะโดนทีละชิ้น หากไม่หยุดคิด สร้างสินค้ารูปแบบใหม่ๆ ขึ้นมาสม่ำเสมอ ก็จะทำให้หนีผู้เลียนแบบไปได้เสมอ ๆ
ส่วนความคาดหวังต่อไป อยากจะผลิตชิ้นงานให้ได้ครบวงจร สำหรับเป็นอุปกรณ์แต่งบ้าน อยู่ภายในแนวทางเดียวกัน และถ้าเป็นไปได้ อยากได้ออเดอร์จากต่างชาติ ซึ่งคิดว่า น่าจะถูกใจกับงานลักษณะนี้ แต่ปัญหาที่ผ่านมา ทำเลที่ตั้งร้านยังอยู่ในมุมค่อนข้างอับเกินไป ขณะนี้ จึงพยายามย้ายไปอยู่ในโซนที่ลูกค้าต่างชาติจะเห็นสินค้าได้ง่ายขึ้น
**************
โทร.0-1292-5094