จ.สมุทรสงคราม แหล่งท่องเที่ยวเดินทางสะดวกที่หลายคนประทับใจ จากเสน่ห์แห่งวิถีชีวิตที่คงรูปแบบความเป็นไทยได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นตลาดน้ำอัมพวา หรือดอนหอยหลอด กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กลุ่มคนหนุ่มสาว สร้างธุรกิจสินค้าที่ระลึกประจำจังหวัด มีเอกลักษณ์ และรูปแบบสอดคล้องกับธรรมชาติท้องถิ่นได้กลมกลืน
“ผมเป็นคน จ.สมุทรสงคราม เวลาเดินทางกลับบ้าน ของฝากส่วนใหญ่ที่จะหาซื้อฝากเพื่อน หนีไม่พ้นแค่พวกอาหารสด กะปิ หรือน้ำปลา ส่วน souvenir (สินค้าที่ระลึกพื้นเมือง) ประจำจังหวัด หาซื้อไม่ได้เลย ทั้งที่ ดอนหอยหลอด ตลาดน้ำอัมพวา ล่องแม่น้ำแม่กลองดูหิ่งห้อย ล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเปี่ยมศักยภาพ สามารถนำมาคิดต่อยอดพัฒนาเป็นสินค้าที่ระลึกได้ทั้งนั้น” ธนภัทร์ รวมสุข เจ้าของธุรกิจ เริ่มต้นเล่าถึงแรงบันดาลใจ
“ตัวผมทำงานด้านศิลปะอยู่แล้ว เลยชวนเพื่อนมาทำเสื้อยืด ใช้แบรนด์ว่า ‘หอยหลอด’ เมื่อประมาณ 5 – 6ปีที่แล้ว ออกแบบลายสกรีนตัวหอยหลอดให้ดูน่ารัก วางขายที่ดอนหอยหลอด ลงทุนประมาณ 40,000 บาท ขายได้วันละ 6,000 -7,000 บาท ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จดีมาก แต่เนื่องจากทุกคนมีประจำ พอสินค้าหมดก็เลยเลิก”
กระทั่ง อิ่มตัวกับงานประจำ เลยชักชวนน้องสาว และเพื่อนๆ กลับมาทำงานนี้อีกครั้ง โดยเพิ่มแบรนด์ “หิ่งห้อย” กับออกสินค้าใหม่ อาทิ กระเป๋าสะพาย รวมถึงเข้าเป็นโอทอปของจังหวัด และไปเปิดตัวในงานเทศกาลลิ้นจี้ ประจำจังหวัดเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว
“บูทของเราสนใจ ผู้คนมาก โดยเฉพาะการตกแต่งร้าน ส่วนสินค้าก็ขายได้เรื่อยๆ มีคนสนใจจะรับไปขาย ทำให้ผมกลับมาคุยกับเพื่อนๆ ว่า จะต่อยอดอย่างไร เลยคิดทำในรูปแบบกึ่งแฟรนไชส์ ผู้สนใจเป็นตัวแทน เราจะขายส่ง ในราคาลด 25-30% ยอดสั่งเริ่มต้น 20,000 - 30,000 บาท โดยเราจะเข้าไปจัดรูปแบบร้านให้ และกำหนดว่า ภายในร้านต้องขายเฉพาะสินค้าของเรา”
ธนภัทร์ เผยว่า สินค้าได้การตอบรับที่ดีขึ้นตามลำดับ ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่าย 1 ราย อยู่ในบริเวณตลาดน้ำอัมพวา และฝากขายตามเกสต์เฮ้าส์ และร้านอาหารบริเวณริมแม่น้ำแม่กลอน อีก 5 แห่ง ส่วนการผลิต จะออกแบบ แล้วว่าจ้างกลุ่มแม่บ้านในท้องถิ่น
นอกจากนั้น คณะหนุ่มสาวกลุ่มนี้ สานขยายธุรกิจต่อไป ด้วยการลงขันรวมกว่า 200,000 บาท เปิดร้าน “ธารามาตย์” เพื่อเป็นโชมรูทแสดง และขายสินค้าที่ระลึกของตัวเอง บริเวณตลาดน้ำอัมพวา
“หลังจากเริ่มมีตัวแทน พวกเราเลยอยากมีร้านเป็นของตัวเอง เพื่อเป็นร้านต้นแบบ ให้มีรูปแบบชัดเจน โดยขอเช่าบ้านญาติของผม ซึ่งปิดร้าง ไม่ได้ทำอะไร มากว่า 20 ปี เดิมเป็นร้านขายทองของคนจีน ซึ่งเรานำมาปรับปรุง ใช้เวลากว่า 6 เดือน และเปิดเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมานี่เอง”
สำหรับจุดเด่นของร้าน “ธารามาตย์” อยู่ที่การตกแต่งบ้านเก่าให้ดูทันสมัย กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ซึ่งอยู่กับแม่น้ำ นอกจากนี้ นำเฟอร์นิเจอร์ของเก่าภายในบ้านบ้างชิ้น มาเป็นประดับตกแต่ง และที่สำคัญ เปิดชั้น 2 ให้ลูกค้า สามารถเดินขึ้นไปดื่มด่ำกับบรรยากาศของตลาดน้ำอัมพวาในมุมสูง ซึ่งถือเป็นร้านแรกและร้านเดียวที่มีบริการนี้
ขณะที่สินค้า เพิ่มความหลากหลาย ด้วยงานเซรามิก และเครื่องประดับ อาทิ สร้อย รองเท้า เป็นต้น ส่วนเสื้อยืด ออกแบบแตกต่าง และเพิ่มคุณภาพเนื้อผ้า เพื่อยกระดับราคา วางลูกค้าคนละกลุ่มกับเสื้อยืดฝากขายผ่านตัวแทน เพื่อตัดปัญหาแยกลูกค้ากันเอง
“ผมมองว่า คนมาเที่ยวตลาดอัมพวา มีทุกระดับ การมีสินค้าคุณภาพ เท่ากับเป็นอีกทางเลือกให้ลูกค้า เช่น เสือยืดที่ตัวแทนขายตัวละ 165 บาท แต่ที่ร้านจะเป็นผ้าอีกระดับ ขายตัวละ 275 บาท ขึ้นอยู่กับลูกค้าจะต้องการสินค้าแบบใด”
แม้ว่าจะเปิดตัวไม่นาน ผลตอบรับสำเร็จอย่างรวดเร็ว เจ้าของธุรกิจหนุ่ม บอกว่า เป้าเริ่มแรกหวังให้ขายได้วันละ 5,000 บาท มองลูกค้าหลักคือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทว่า เท่าที่ผ่านมา ขายเฉพาะศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เฉลี่ยวันละหมื่นกว่าบาท นอกจากจะได้ลูกค้านักท่องเที่ยวแล้ว คนในท้องถิ่น ก็ให้ความสนใจไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตาม เขาออกตัวไว้ว่า เนื่องจากเพิ่งเปิดตัว และมีความแปลกใหม่ ทำให้เกิดกระแสตอบรับสูง แต่ในระยะยาว ผลตอบรับจะดีเช่นนี้ หรือไม่ คงต้องรอดูสักระยะ
ทว่า เพื่อพยายามรักษากลุ่มลูกค้าไว้ เตรียมจะเพิ่มชนิดสินค้าในร้านให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมถึง ชั้น 2 จะเปิดขายกาแฟ และเครื่องดื่ม คาดว่าจะเริ่มได้ช่วงต้นเดือนมี.ค. นี้
ส่วนปัญหาของธุรกิจ ไม่พ้นถูกลอกเลียนแบบ โดยเฉพาะเสื้อยืดลายหอยหลอด และหิ่งห้อย แม้จะจดเครื่องหมายการค้าไว้แล้ว ก็ยังถูกนำไปดัดแปลง เลียนแบบ ซึ่งแนวทางแก้ไข เตรียมจะนำผลงาน ตั้งแต่ยุคเริ่มแรก จนถึงผลงานในปัจจุบัน มาจัดแสดงเป็นแกลลอรี่ บนชั้น 2 ของร้าน เพื่อให้ลูกค้าเห็นที่มาที่ไปของธุรกิจ และที่สำคัญยังเชื่อมั่นในไอเดียของทีมงานที่จะคิดโครงการ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อหนีคู่แข่งไปเรื่อยๆ
*************
โทร.0-1696-4797
