สถาบันอาหารเผยตลาดต่างประเทศ เริ่มเบนเข็มซื้อปลาเผาะจากเวียดนามมาไทย หลังตรวจพบสารปนเปื้อน ชี้ไทยพร้อมส่งออกปลาเผาะล็อตแรกกว่า 100 ตัน ในขณะที่ความต้องการในตลาดต่างประเทศสูงถึง 440 ตัน/เดือน ด้านทูตอิหร่าน พอใจโครงการแลกเปลี่ยนสัตว์น้ำเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นโครงการที่ใกล้เคียงกัน คาดจะตกลงเจรจาซื้อขายกันไม่ยาก
นายปณิธาน วัชรานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจตัวไม่ เพื่อการส่งออก “ปลาเผาะ” ว่า ที่ผ่านมาทางสถาบันได้ร่วมกับกรมประมงให้ความรู้กับชาวบ้านบริเวณจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขง โดยใช้จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดนำร่องประสบผลสำเร็จในการทดลองเพาะเลี้ยงปลาเผาะในช่วงแรกจำนวน 4 แสนตัว ขณะนี้ปลาเผาะได้โตเต็มที่ พร้อมส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้ โดยตั้งเป้าเพาะเลี้ยงปลาเผาะให้ถึง 4 ล้านตัวภายในปี 2549
ทั้งนี้ในปัจจุบันประเทศเวียดนาม ถือเป็นคู่แข่งสำคัญในการส่งออกปลาเผาะ ไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป ที่ตลาดยังเปิดกว้าง และรับซื้อปลาเผาะอีกเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากช่วงหลัง ประเทศที่นำเข้าปลาเผาะ เริ่มมองหาตลาดใหม่อย่างประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากทางประเทศใน แถบยุโรป ได้ตรวจพบสาร “Malachite” ที่ตกค้างอยู่ในตัวปลา โดยเป็นสารก่อมะเร็งกับผู้บริโภค ดังนั้นถือเป็นโอกาสอันดีที่ไทยจะเริ่มพัฒนาพันธุ์ปลาชนิดนี้อย่างจริงจัง เพื่อการส่งออก
“แนวโน้มการบริโภคปลาเผาะของชาวต่างชาติมีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้นหากไทยมีการสนับสนุนการเลี้ยงปลาเผาะให้กับชาวบ้านตามลุ่มแม่น้ำโขงอย่างจริงจัง คาดว่าในปีๆ หนึ่งปลาเผาะจะสามมารถสร้างรายได้ให้ประเทศหลายพันล้านบาท โดยดูจากประเทศเวียดนามที่มีมูลค่าการส่งออกปลาเผาะเมื่อปีที่ผ่านมาสูงถึง 20,000 ล้านบาท ส่วนในประเทศไทย ขณะนี้ตลาดในต่างประเทศมีความต้องการรับซื้อปลาเผาะกว่า 440 ตัน/เดือน” นายปณิธานกล่าว
สำหรับการพัฒนาการเพาะเลี้ยงปลาเผาะเพื่อการส่งออกนั้น นายปณิธานได้ วางโครงการที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับปลาเผาะ โดยจะนำปลาเผาะมาวิจัย และสกัดสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะการสกัดสารโอเมก้า 3 ออกมาจากตัวปลาเพื่อผลิตเป็นอาหารเสริม และส่งออกไปยังต่างประเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับปลาเผาะ แทนที่การแล่เนื้อปลา (Filet) เพื่อการส่งออกเท่านั้น รวมถึงยังสามารถลดการนำเข้าอาหารเสริมที่มีราคาจากต่างประเทศได้อีกด้วย
ด้านMr. Mohsen pakaein เอกอัครราชทูตอิหร่าน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ตนมีความสนใจผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำของไทยเป็นอย่างมาก เพราะพื้นฐานชาวอิหร่านก็นิยมบริโภคปลากัน และทางประเทศอิหร่านก็มีโครงการแลกเปลี่ยนเพื่อโปรโมทสัตว์น้ำเศรษฐกิจเพื่อการส่งออกเช่นกัน ดังนั้นการเจรจาแลกเปลี่ยนสัตว์น้ำเศรษฐกิจจากโครงการดังกล่าว