xs
xsm
sm
md
lg

ปลาสลิดบางบ่อเลื่องชื่อ จับทอดกรอบส่งขายทั่วโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จักรวาล - มัลลิกา กิตติพรนนท์ สองสามีภรรยา เจ้าของบริษัท สลิดไทยฟู้ดโปรดักส์ จำกัด
เมื่อปลาสลิดสดถูกแปรสภาพเป็นปลาสลิดทอดกรอบ บรรจุถุงเพื่อการส่งออก ทำให้กลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ชื่นชอบรับประทานปลาสลิด แต่ไม่ชอบการทอด รวมถึงคนรุ่นใหม่ เนื่องจากสามารถรับประทานเป็นอาหารทานเล่นได้ แถมยังสามารถคงความสด กรอบของเนื้อปลาสลิดได้ รวมถึงไม่อมน้ำมันที่เป็นสาเหตุของการเหม็นหืนอีกด้วย

จากพนักงานบริษัท ได้ลาออกมาทั้งๆ ที่ยังไม่มีธุรกิจหรืองานรองรับ มีเพียงใจที่มุ่งมั่นอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง คือ นางมัลลิกา กิตติพรนนท์ ทั้งๆ ที่ในช่วงลาออกมายังไม่รู้ว่าจะทำธุรกิจอะไร จึงได้เริ่มจากการหยิบจับสินค้าที่อยู่ใกล้ตัว คือปลาสลิด ที่เป็นธุรกิจเก่าแก่ของครอบครัวสามี รับเป็นยี่ปั๊วปลาสลิดในจ.สมุทรปราการ ทำให้มีเครือข่ายกับผู้เลี้ยงปลาสลิดอยู่หลายราย โดยเฉพาะปลาสลิดของอำเภอบางบ่อที่เลื่องชื่อ
ปลาสลิดทอดกรอบ ที่ยังสามารถคงความกรอบ สด ใหม่
ดังนั้น มัลลิกา จึงได้เริ่มจากการนำปลาสลิดมาทอด และบรรจุลงถุง ทั้งๆ ที่ไม่เคยทอดปลามาก่อนในชีวิต เริ่มจากการใช้ 2 เตา ในการทอด แต่ปัญหาใหญ่ในช่วงแรกคือปลาสลิดที่ทอดจะอมน้ำมันมาก ทำให้เก็บได้ไม่นาน และมีกลิ่นเหม็นหืน เก็บได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้ มัลลิกา กับนายจักรวาล กิตติพรนนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สลิดไทยฟู้ดโปรดักส์ จำกัด ผู้เป็นสามี ได้ช่วยค้นคว้าหาข้อมูลตามสถาบันต่างๆ เกี่ยวกับการแปรรูปอาหารทั้งหมด เพื่อหาวิธีที่จะทำให้ปลาสลิดทอดสามารถเก็บไว้ได้นานและยังคงรักษารสชาติความสดใหม่ไว้ให้ได้นานที่สุด โดยปราศจากการใส่สารกันบูด หรือสารเคมีใดๆ ที่ทำลายสุขภาพของผู้บริโภค

“ที่ผ่านมาเราวิ่งเข้า-ออก ที่ม.เกษตรอยู่ตลอด เพื่อหาข้อมูลและเทคโนโลยีการถนอมอาหารประเภททอด อ่านหนังสือเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราใช้เวลาศึกษาค้นคว้าข้อมูลประมาณ 1 ปีเศษ จึงมาลงตัวที่เทคโนโลยี "MAP" (Modify Atmosphere Packed) หรือการดัดแปลงบรรยากาศภายในซองบรรจุ ให้ถูกแทนที่ด้วยไนโตรเจน เพื่อเก็บคุณภาพอาหารให้อยู่ได้นานที่สุด ส่งผลให้อายุของปลาสลิดทอดกรอบของเรามีอายุนานยิ่งขึ้นจาก 3 เดือนเป็น 9 เดือน ซึ่งต่อไปจะจะพัฒนาในเรื่องของแพคเกจไปเรื่อยๆ เพื่อให้สามารถเก็บได้นาน 1-2 ปี”

บรรจุที่ออกแบบ พร้อมเป็นของฝากถูกใจผู้รับ
หลังจากได้ปลาสลิดทอดกรอบที่ไม่อมน้ำมัน รวมถึงยังได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาปลาสลิดให้นานออกไปได้แล้ว ทำให้ช่องทางการจำหน่ายของปลาสลิดทอง มีช่องทางการจำหน่ายที่กว้างขึ้น โดยเริ่มจากตามร้านอาหารชื่อดังได้สั่งไปปรุงเป็นอาหารชนิดอื่นๆ เช่น ปลาสลิดผัดกระเพรา แกงเขียวหวานปลาสลิด ต้มโคล้งปลาสลิด และสปาเก็ตตี้ปลาสลิด หรือจะนำไปรับประทานเล่นเป็นอาหารว่างก็อร่อยไปอีกแบบ

เพื่อไม่ให้ลูกค้าจำเจในรสชาติแบบดั้งเดิมของปลาสลิดที่หารับประทานได้ทั่วไปตามท้องตลาด ทางบริษัทฯ จึงได้คิดค้นรสชาติให้มีความหลากหลายมากขึ้นถึง 4 รสชาติ คือ รสต้มยำ, พริกไทยดำ, 3 รส, และน้ำพริกเผา แต่ทุกรสชาติจะผ่านการหมักด้วยตะไคร้ ที่นอกจากจะช่วยรสกลิ่นคาวแล้ว ยังมีประโยชน์ช่วยลดอาการท้องอืดได้อีกด้วย
ถุง ที่ใช้บรรจุออกแบบเป็นพิเศษ และใช้วัสดุที่ช่วยให้ปลาสลิดทอดกรอบ เก็บได้ยาวนานขึ้น
ส่วนการทำการตลาดในต่างประเทศ ถือเป็นช่องทางการจำหน่ายที่ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารที่ต้องผ่านขึ้นตอน และได้รับมาตรฐานในเรื่องความปลอดภัยที่แต่ละประเทศ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าสากลมากที่สุด โดยปลาสลิดทอง นอกจากจะได้รับมาตรฐานจาก อย. (องค์การอาหารและยา) แล้ว ยังได้รับมาตรฐาน USFDA (United States Food & Drug Administration) ซึ่งเปรียบเหมือน อย. ของประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้เป็นใบเบิกทางในการส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันประหลาดสลิดทอดกรอบของไทยสามารถส่งไปยังประเทศ สหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐนิวยอร์ค, แอลเอ และชิคาโก ส่วนในปี 2549 นี้ จะเริ่มขยายตลาดมากขึ้นอย่างประเทศออสเตรเลีย และในภูมิภาคเอเชีย โดยขณะนี้ได้มีการรองรับในเรื่องของแพคเกจไว้แล้ว โดยได้ผลิตแพคเกจที่มีทั้ง 3 ภาษาหลัก คือ ไทย อังกฤษ และจีน เพื่อลดความยุ่งยากในการนำเข้า

“ปัจจุบันเรามีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1 ตู้คอนเทนเนอร์/เดือน โดยใช้ปลาสลิดบางบ่อประมาณ 500 กิโลกรัม/วัน ซึ่งสามารถแบ่งสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศประมาณ 15-20% และในต่างประเทศ 80% โดยลูกค้าในต่างประเทศส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร และร้านขายของชำ ส่วนราคาขายจะอยู่ที่ 85-95 บาท ส่วนในปีนี้คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นอีก ถึง 300% เพราะทางบริษัทฯ จะรุกตลาดต่างประเทศมาก รวมถึงจะกู้เงินจาก เอสเอ็มอีแบงก์เพิ่มขึ้น เพื่อมาลงทุนในเรื่องเครื่องจักร เพื่อให้ได้กำลังการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด"

***สนใจติดต่อ บริษัท สลิดไทยฟู้ดโปรดักส์ จำกัด โทร. 0-2701-2231 หรือ 0-1753-6583***
กำลังโหลดความคิดเห็น