เอกชนไทย รองรับการขยายตัวด้านการบิน ตามนโยบายรัฐให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาคเอเชีย เปิดธุรกิจบริการซ่อมชิ้นส่วนอากาศยาน ในเมืองไทย เป็นครั้งแรก หวังดึงลูกค้าที่ใช้บริการในประเทศสิงคโปร์ ทั้งไทยและเทศหันมาใช้บริการ เพราะได้เปรียบค่าบริการที่ถูกกว่า
นายณัฐฐานันท์ จันทร์ตรี ประธานกรรมการบริษัท ไทย แอร์โรไดนามิคส์ จำกัด (TADL) เจ้าของกิจการซ่อมอากาศยานเอกชนรายแรกของไทย เปิดเผยถึงแนวคิดในการเปิดธุรกิจซ่อมอากาศยาน ว่า หลังจากได้ประสบการณ์กว่า 13 ปี ที่ได้ร่วมดำเนินงานกับบริษัทแอร์โรเจ็ท จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับชิ้นส่วนเครื่องบินที่ดำเนินกิจการทั้งในสหรัฐอเมริการ และประเทศไทย โดยบริษัทฯ ได้เป็นตัวแทนจำหน่าย อาทิ เช่น เก้าอี้ โดยสาร ประตู บันไดเครื่องบิน มีบริษัทการบินไทย จำกัด เป็นลูกค้าหลัก
ทั้งนี้ หลังจากการได้คลุกคลีอยู่ในวงการเครื่องบิน เล็งเห็นว่าธุรกิจบริการซ่อมชิ้นส่วนอากาศยานในประเทศไทย ยังไม่มีใครเปิดให้บริการ ซึ่งรัฐบาลไทยได้มีนโยบายสนับสนุนที่จะให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเชีย และการซ่อมบำรุงที่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งในธุรกิจการบิน ที่ผ่านมาประเทศไทยต้องเสียดุลการค้า โดยนำเครื่องบินไปซ่อมในต่างประเทศ
โดยได้ก่อตั้ง บริษัท ไทย แอร์ โรไดนามิคส์ จำกัด ขึ้น ในช่วงต้นปี 2548 ให้บริการซ่อมบำรุง เครื่องยนต์ Gas Turbine รวมทั้งการดูแลชิ้นส่วนเครื่องยนต์ในอุตสาหกรรมการบิน โดย TADL ได้รับการรับรองมาตรฐาน โดยมี Certificate จาก ยุโรป และสหรัฐอเมริกา และประเทศไทย ได้แก่ ICAO Compliant, JAA 145 Compliant, FAA145 Compliant, ISO 9000 and Thailand DOA Certificated
สำหรับโรงงานอยู่ที่ ลำลูกกาคลอง 7 ปทุมธานี ซึ่งมีพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร โดยโรงงานจะรับซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ ดังต่อไปนี้ Honey well T53, T55,T56,T58,T700, PT6, Component, Airframe,Avionics system, accessory และ spare part,inventory ซึ่งโรงงานซ่อมอากาศยานแห่งนี้ จะซ่อมได้เฉพาะ เฮลิคอปเตอร์ ในรุ่นดังกล่าวเท่านั้น โดยโรงงานแห่งนี้ ได้ใช้งบลงทุนไปประมาณ 450 ล้านบาท
โดยลูกค้าของบริษัท ประกอบไปด้วย กองทัพ กองบินตำรวจ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ จำเป็นต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ ที่ผ่านมารัฐบาลต้องส่งไปซ่อมที่ประเทศสิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งการซ่อมในประเทศไทย ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ประมาณ 30 % เมื่อเทียบกับราคาในสหรัฐอเมริกา
บริษัทตั้งเป้ายอดรายได้ในปีแรกประมาณ 1,000 ล้านบาท รายได้หลักในปีแรกจะมาจากการประมูลงานด้านอากาศยาน จากกองทัพ และลูกค้าจากต่างประเทศ ประกอบด้วย อินโดนีเซีย ปากีสถาน และสิงคโปร์ ซึ่งส่วนใหญ่ประเทศเหล่านี้จะใช้ศูนย์ซ่อมที่ประเทศสิงคโปร์ แต่การเข้ามาซ่อมในประเทศไทยจะเสียค่าซ่อมที่ถูกกกว่า เพราะค่าแรงที่สิงคโปร์ แพงมาก
"ทั้งนี้ มีข้อตกลงกันว่า ถ้าราคาของเราถูกกว่า ในต่างประเทศอย่างน้อย 15 % ทางกองทัพ จะต้องซ่อมกับทาง TADL ในปีหน้า จะมีลูกค้าจากกองทัพอากาศประมาณ 12 ลำ ส่งมอบภายใน 3 ปี โดยปัจจุบัน กองทัพจะมีเฮลิคอปเตอร์ประมาณ 1,000 ลำ"
คาดว่าในอนาคตจะมีเอกชนหันมาเล่นเครื่องบินเล็กและเฮลิปคอปเตอร์กันมากขึ้น เหมือนกับในต่างประเทศ โดยศูนย์ซ่อมนื้จะรองรับการขยายตัวดังกล่าวได้ และเชื่อว่าจะมีเอกชนไทยอีกหลายรายสนใจที่จะทำธุรกิจนี้ แต่ยังขาดความรู้และประสบการณ์ ในอนาคตตามนโยบายที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในเอเชีย การแข่งขันในธุรกิจนี้อาจจะมีเพิ่มสูงขึ้น
------------------------------------
สนใจติดต่อได้ที่ 0-2440-0323-6
