xs
xsm
sm
md
lg

“จอย-วราลักษณ์” จากนางแบบสู่ผู้บริหารเซนส์ออฟจอยสปา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธุรกิจสปาแจ้งเกิดในบ้านเรามาได้ 3-4 ปีแล้วเห็นได้จากมีผู้ประกอบการรายใหม่แห่เปิดตัวตามกระแสกันเป็นว่าเล่น หนึ่งในนั้นมี “เซนส์ออฟจอย สปา” ของนางแบบสาว “จอย วราลักษณ์ วาณิชย์กุล” ที่หันมามาเอาดีทางธุรกิจด้วยการเปิดร้านสปาของตัวเองเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนมีนาคม 2548 ที่ผ่านมา ตั้งอยู่ที่อาคารจัสมิน สุขุมวิท 23 ภายใต้งบลงทุนกว่า 12-13 ล้านบาท

“จุดเริ่มต้นของธุรกิจสปามาจากที่บ้านทำธุรกิจมาตลอด และเราก็อยากทำธุรกิจของตัวเอง ก่อนเปิดจึงต้องทำการบ้านหนักเกือบ 1 ปีและมีการปรึกษาคอนซัลท์เพื่อขอคำแนะนำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจสปา พร้อมกันกับกระแสเรื่องสปาไทยยังมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น และเป็นธุรกิจหลักของประเทศอยู่” เป็นคำกล่าวของนางวราลักษณ์ วาณิชย์กุล นางแบบในฐานะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซนส์ออฟจอย สปา จำกัด

เธอ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันธุรกิจสปากำลังเป็นที่นิยมในตลาดและมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้น อีกทั้งคนวัยทำงานต่างตื่นตัวดูแลรักษาสุขภาพและความสวยงามมากขึ้น ดังนั้นบริษัทฯจึงได้ลงทุนกว่า 12-13 ล้านบาทในการเปิดร้านเซนส์ออฟจอย สปา ซึ่งบริษัทฯได้เช่าพื้นที่จากแคลิฟอร์เนีย ว๊าว และเริ่มเปิดดำเนินการไปเมื่อเดือนมีนาคม 2548 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า ปัจจุบันมียอดลูกค้ามาใช้บริการวันธรรมดา 50 คนและวันหยุด 60-70 คน ขณะที่จำนวนสมาชิกมีประมาณ 1,400 ราย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 รายในปีหน้า โดยในส่วนของการคืนทุน บริษัทฯคาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลา 15-18เดือน

หลักในการทำงาน คือ ทำในสิ่งที่ตัวเองรักหรือทำสิ่งที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข ซึ่งจะส่งผลให้คนอื่นก็จะได้รับความสุขเช่นกัน โดยทั้งงานอาชีพนางแบบและธุรกิจสปาเป็นสิ่งที่รักและอยากทำ ดังนั้นการทำงานจึงทำ 2 อย่างควบคู่กันไป

การทำตลาดธุรกิจสปาในช่วงเริ่มต้น บริษัทฯเน้นการก้าวไปพร้อมพันธมิตร อย่างแคลิฟอร์เนีย ว๊าว ซึ่งมีการแบ่งพื้นที่บางส่วนให้เซนส์ออฟจอย และแบ่งในส่วนกำไรที่ได้จากการทำธุรกิจสปา รวมถึงการทำโค-โปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตรรายอื่นๆ เช่น เครื่องสำอางบ๊อบบี้ บราวน์และโรงพยาบาลศิริราชที่จะมาอบรมเรื่องโภชนาการอาหาร เป็นต้น

นอกจากนี้ “จอย วราลักษณ์” ยังได้มีการนำกลยุทธ์การทำตลาดแบบ “เอ็กซ์พีเรียล มาร์เก็ตติ้ง” มาประยุกต์ใช้ในโปรแกรมใหม่ “ลุค แอนด์ ฟิล ไลก์ อะ ซูเปอร์โมเดล โปรแกรม” โดยนำเสนอจุดขายหลัก คือ เจาะคนที่อยากมีหุ่นสวยเหมือนนางแบบให้มาทดลองใช้โปรแกรมนี้ดู ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นผู้หญิงวัยทำงานอายุ 25 ปีขึ้นไป หรือกลุ่มลูกค้าระดับบีบวก ซึ่งค่าบริการจะแบ่งออกเป็น 2 แพกเกจ ได้แก่ โกลด์แพกเกจ 15,000 บาท และไดมอนด์ แพกเกจ 20,000 บาท ซึ่งในแต่ละแพกเกจจะใช้เวลา 30 วัน ส่วนค่าบริการสปาทั่วไปจะอยู่ที่ 600-5,000 บาท หรือแบ่งเป็นแบบซิงเกิล 1,500 บาท และแพกเกจจะอยู่ที่ 9,000 บาท

“แนวโน้มการแข่งขันธุรกิจสปายังเป็นที่นิยมและขาขึ้นอยู่ ซึ่งในบ้านเรามีจุดแข็งที่โนว์ฮาว เทคนิคและฝีมือดี แต่ขาดการเทรนนิ่งที่ดีและก็ชอบก็อปปี้ท่าทาง ตรงนี้น่าจะมีศูนย์เทรนนิ่งที่ได้มาตรฐานในการผลิตคนให้มีคุณภาพ ซึ่งปัจจุบันมีคนทำธุรกิจนี้กันมากแต่จะอยู่รอดหรือไม่ต้องขึ้นกับจุดแข็งและระบบจัดการของแต่ละราย ในส่วนของเราสร้างจุดแข็งที่การบริการ โปรดักส์และระบบจัดการให้ดี”

“โปรเจคต่อไปในปีหน้า เราเตรียมนำโปรดักส์เซนส์ออฟจอยขยายช่องทางการขายให้กว้างขึ้นหรือสู่ช่องทางแมสมากขึ้น รวมถึงมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รายการในช่วงต้นปีหน้า จากเดิมมีสินค้าอยู่ 15 รายการและขายสินค้าเฉพาะในร้านเซนส์ออฟจอย”

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในระยะเวลา 3 ปีนี้ “จอย วราลักษณ์” เผยว่า ต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนทำงานมากขึ้น ปัจจุบันมีอยู่ 1,400 ราย และอยากเปิดสาขาให้ได้ 3-4 แห่งในกรุงเทพฯ โดยไม่เน้นการทำธุรกิจแบบแฟรนไชส์ แต่จะเป็นการทำธุรกิจร่วมกับพันธมิตรมากกว่า ซึ่งก็ต้องดูโลเคชั่นและลูกค้ากลุ่มเป้าหมายด้วย

จากมาดนางแบบที่เดินเฉิดฉายบนเวทีแคตวอล์กจนชื่อเสียงติดอันดับต้นๆของวงการนางแบบไทยแล้ว ส่วนบทบาทใหม่อย่างผู้บริหาร ก็ต้องมาดูว่าสวย “จอย วราลักษณ์” จะไปได้สวยเหมือนอาชีพนางแบบหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น