xs
xsm
sm
md
lg

ชุดนอนคิขุสไตล์กิโมโน เทรนด์ปลาดิบมัดใจวัยโจ๋

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ชุดนอนกิโมโน” เกิดจากความคิดและผลิตของ “สุพัตรา สินสุขอภิรมย์” ด้วยการวางตลาดอย่างแม่นยำ จับกระแสนิยมแดนปลาดิบ ประยุกต์ชุด “ยูกะตะ” มาสู่ชุดนอนสำหรับวัยใส ในราคาสบายกระเป๋า ถูกใจทั้งชาวไทย และต่างประเทศ

สุพัตรา สินสุขอภิรมย์ เจ้าของผลงาน เล่าให้ฟังว่า เรียนมาทางออกแบบสิ่งทอ ประกอบกับทำงานในวงการแฟชั่นตลอด เมื่อคิดทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับเสื้อผ้า จึงใช้ความรู้ที่สะสมมาวางแนวทางเป็นชุดนอนสำหรับวัยรุ่น ด้วยการเกาะกระแสญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงในหมู่วัยรุ่นไทย

โดยเหตุผลที่เลือกทำชุดนอน เพราะเป็นแฟชั่นที่จะอยู่ในตลาดได้ในระยะนานกว่าเสื้อผ้าแนวบูติก ซึ่งวงจรความนิยมจะสั้น ต้องเปลี่ยนแบบไปเรื่อยๆ ไม่เหมาะสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ มีเงินทุนยังไม่มาก

ส่วนการออกแบบให้คล้ายชุด “ยูกะตะ” (Yukata) ซึ่งเป็นชุด “กิโมโน” ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมสวมใส่ในฤดูร้อน โดยมานำประยุกต์ให้สวมใส่ได้สบาย เหมาะแก่การใส่นอน ตัดเย็บด้วยผ้า TC ซึ่งราคาค่อนข้างถูก เนื่องจากวางกลุ่มลูกค้าหลักคือ วัยรุ่น รวมถึง กำหนดราคาขายปลีกสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย ที่ตัวละ 250 บาท

“การออกแบบ ดิฉันจะเดินดูตลาดด้วยตัวเอง ตามสยาม หรือแหล่งวัยรุ่นต่างๆ เพื่อสำรวจความนิยมของวัยรุ่น ทำให้วางแนวได้ว่า ต้องเป็นสิ่งที่อยู่ในสมัย ซึ่งเวลานี้ กระแสญี่ปุ่นกำลังมาแรง ในขณะที่ราคาต้องไม่แพง เพราะวัยรุ่นกำลังซื้อน้อย ถ้าเราจะใช้ผ้าแพงๆ วัยรุ่นจะไม่กล้าซื้อ ไม่กล้าเล่นกับแฟชั่นแปลกๆ สนุกๆ อย่างนี้ ในขณะที่ ขนาด และรูปร่าง รวมถึงสี ก็ต้องเหมาะกับสิ่งที่เด็กๆ เขาชอบด้วย”

เจ้าของผลงาน เล่าต่อว่า จุดเด่นอีกประการ คือ ลวดลายของผ้าที่มองแล้วให้ความรู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่นจริงๆ โดยแท้จริงแล้ว เป็นผ้าชนิดเดียวกับที่ขายตามท้องตลาด มักนำไปตัดเป็นเสื้อฮาวายใส่เทศกาลสงกรานต์ แต่ด้วยการออกแบบ และวางลายผ้าเหมาะสม ช่วยให้เหมือนกับผ้าตัดชุดกิโมโน

“จริงๆ แล้ว คนออกแบบลายผ้าเหล่านี้ เขาดึงลายมาจากญี่ปุ่น แต่คนไทยนำมาตัดเป็นเสื้อผ้าแนวต่างๆ จนแทบไม่รู้เหลือความเป็นญี่ปุ่นเลย การออกแบบของดิฉัน จึงเน้นโชว์ลายผ้ามากที่สุด นำลายผ้ากลับไปหาต้นฉบับของนักออกแบบอีกครั้ง”

ทั้งนี้ ผลงานชุดนอนแบบกิโมโน เริ่มผลิตเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ด้วยเงินทุนเพียง 4,000 บาท สุพัตรา เผยว่า ระยะแรก รับผิดชอบคนเดียวทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นหาวัตถุดิบ ออกแบบ ตัดเย็บ รวมถึงไปขาย โดยเริ่มจุดแรกด้วยการเปิดบูทหน้าห้างเทสโก้โลตัส สาขาศรีนครินทร์ และเพียงแค่สัปดาห์เดียว ก็ได้คืนทุน หลังจากนั้น ย้ายไปเปิดร้านอยู่ที่สะพานพุทธ เพื่อให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น

การมาขายย่านสะพานพุทธ นอกจากจะมีวัยรุ่นไทยแล้ว ยังมีชาวต่างชาติจำนวนมาก ทำให้เธอจับกระแสได้ว่า ชุดนอนแนวกิโมโนเป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศโดยเฉพาะในแถบเอเชียเช่นกัน จึงย้ายมาปักหลักอยู่ที่สวนลุมไนท์บาซาร์ โซนสุโขทัย ซอย 4 ห้อง เอ 118 จนถึงปัจจุบัน

“แม้ว่า วัยรุ่นไทยจะนิยม แต่ว่า จะซื้อทีละแค่ตัว สองตัว ในขณะที่นักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ทั้งมาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ จะซื้อทีเป็นโหลๆ เพื่อเป็นของฝาก ทำให้รายได้เข้ามาสูงกว่า นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนรับไปขายที่ต่างประเทศด้วย อาทิ ไต้หวัน สิงคโปร์”

นอกจากชุดนอนสำหรับสาวๆ แล้ว เธอ ได้ออกแบบใหม่ เป็นเสื้อคลุมแบบ “แฮนเทน” (Hanten) สำหรับผู้ชาย ในราคาปลีกตัวละ 380 บาท ซึ่งแบบใหม่นี้ ผลตอบรับดีเช่นกัน ยอดขายเฉลี่ยสูสีกับชุดผู้หญิง โดยรวมแล้ว ธุรกิจนี้ สร้างรายได้ยังไม่หักค่าใช้จ่ายให้มากว่า 50,000 บาท / เดือน

แม้ว่าจะผลิตมากว่า 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีตราสินค้าของตัวเอง เพราะการจะทำป้ายตราสินค้า ต้องผลิตจำนวนมาก เงินทุนไม่พร้อม ส่วนปัญหาจะโดนลอกเลียนแบบ เธอกลับมองประเด็นนี้ว่า ไม่ใช่อุปสรรค เพราะจากประสบการณ์ในวงการแฟชั่น สอนให้รู้ว่า หากสามารถพัฒนาแบบใหม่ๆ ออกมาได้ คู่แข่งย่อมไม่อาจตามทัน

“ดิฉันจะบอกสามี กับลูก ซึ่งมาช่วยทำงานด้วยว่า ต้องทำใจนะ แบบเราดัง ต้องโดนก๊อปปี้แน่นอน และถ้าเราโดนก๊อปปี้ ก็ภูมิใจได้ว่า แบบของเราเตะตาเป็นที่สนใจ ซึ่งในยุทธจักรแฟชั่น ที่ดิฉันอยู่มา มันสอนให้รู้ว่า ต้องโดนก๊อปปี้แน่ ดังนั้น เราต้องพัฒนาแบบหนีไปเรื่อยๆ เมื่อใดก็ตาม ที่ยอดขายเริ่มตก ดิฉันจะกลับไปดูที่หนังสือพิมพ์รายวัน สำรวจกระแสวัยรุ่นตอนนี้เป็นอย่างไร ซึ่งมันจะสะท้อนให้เห็นว่า ตอนนี้เขาต้องการอะไร เช่น ละคร ‘แดจังกึง’ กำลังดัง ถ้าทำชุดนอนแนวเกาหลีออกมาตอนนี้ รับรองว่า ขายได้อีก แต่ปัญหาสำคัญ คือ ดิฉันคิดได้ แต่ผลิตไม่ทัน เพราะเราเป็นศูนย์กลางในทุกขั้นตอน ยังไม่สามารถกระจายได้ ขณะนี้ ก็พยายามปลูกฝังความรู้ต่าง ๆให้ลูกสาว หวังว่าต่อไป เขาจะมาช่วยสานต่อ”

สุพัตรา ทิ้งท้าย โดยเล่าแผนอนาคต ในระยะใกล้ จะพยายามขยายตลาดด้วยการไปเปิดร้านเพิ่ม แถวราชดำริ เพราะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจำนวนมาก ส่วนในระยะยาว อยากจะผลักดันให้เป็นสินค้าขายส่ง แต่ทั้งนี้ ต้องรอความพร้อมทั้งด้านการผลิต และเงินทุน

* * * * * * * * *

โทร.0-1869-7314





กำลังโหลดความคิดเห็น