น้ำนมแพะ เครื่องดื่มที่กำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากคุณประโยชน์ที่ได้จากน้ำนมแพะที่มีมากกว่านมวัว และไขมันน้อยกว่านมวัว ทำให้นมแพะกลายเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ที่รักสุขภาพ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการสนใจนำน้ำนมแพะ มาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มประเภทนมพาสเจอร์ไรท์ และสเตอริไรท์ ออกจำหน่าย ทั้งที่มียี่ห้อและไม่มียี่ห้อ และล่าสุด มีไอศกรีมน้ำนมแพะ ที่รู้จักกันในชื่อว่า ไอศกรีม "ไอซี่ จันดรา" ผลงานของ คณะเกษตรและชีวภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
นายสัตว์แพทย์ สมเกียรติ ศีลสุทธิ์ คณบดี คณะเกษตรและชีวภาพ มหาวิทยาลัยจันทรเกษม เจ้าของแนวคิดไอศกรีมน้ำนมแพะ กล่าวถึงที่มาของ ไอศกรีมน้ำนมแพะ ไอซี่ จันดรา ว่า ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ได้รับมอบหมายให้ทำโครงการวิจัยพัฒนาระบบสุขศาสตร์น้ำนมแพะ ของเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะ โดยการปรับปรุงคุณภาพของน้ำนมดิบ เพราะที่ผ่านมาเกษตรกรจะมีปัญหาเรื่องน้ำนมดิบบูดเน่าเสียได้ง่าย และปัจจุบันน้ำนมแพะที่ได้จากเกษตรกรยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายอยู่น้อยมาก โดยมากเกษตรกรจะนำมาแปรรูปและจำหน่ายกันเองภายในชุมชน
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดโปรดักส์ที่หลากหลาย ทางมหาวิทยาลัยจึงรับน้ำนมดิบจากเกษตรกรมาแปรรูป เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับโปรดักส์จากน้ำนมแพะ และเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร โดยเป็นตัวแทนรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร ปัจจุบัน แหล่งเลี้ยงแพะของเกษตรกรจะมีมากใน เขตมีนบุรี เขตหนองจอก จังหวัดลพบุรี และ จังหวัดปทุมธานี โครงการวิจัยห้วยทราย จังหวัดเพชรบุรี และพื้นที่ส่งเสริมการเลี้ยงแพะในจังหวัดภาคใต้ โดยวันหนึ่งสามารถผลิตน้ำนมแพะได้เต็มที่ประมาณ 2,000 ลิตรต่อวัน ซึ่งนมแพะที่ได้เกษตรกรจำหน่ายเองภายในชุมชน ในลักษณะของน้ำนมจีด ส่วนพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้ จะส่งขายไปยังประเทศมาเลเซีย ส่วนใหญ่ก็ยังไม่มียี่ห้อ ใช้ยี่ห้อของเกษตรกรเอง
อาจารย์สมเกียรติ กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัย ได้คิดค้นโปรดักส์จากน้ำนมแพะ ไว้หลายชนิด แต่ที่ลงตัวที่สุดและพร้อมที่จะนำออกจำหน่าย ไอศกรีมน้ำนมแพะ เป็นการใช้น้ำนมแพะสด100 % มาทำไอศกรีมในลักษณะของไอศกรีมปั่น เนื่องจากน้ำนมแพะมีราคาสูงกว่าน้ำนมวัวถึง 3 เท่าตัว ทำให้ราคาไอศกรีมสูงตามไปด้วย ดังนั้นไอศกรีม ไอซี่ จันดรา จึงวางตำแหน่งสินค้าไว้ที่ไอศกรีม กลุ่ม พรีเมียม ราคาจึงใกล้เคียงกับราคาไอศกรีม ยี่ห้อดัง ที่ขายตามห้างสรรพสินค้า แต่จุดขาย ของไอซี่ จันดรา อยู่ที่ ทำมาจากน้ำนมแพะ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่ต่างจากน้ำนมวัว ตรงที่ ไขมันต่ำ แต่มีความหอมมันมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาผู้บริโภคไม่นิยมดื่มน้ำนมแพะ เพราะว่า ผู้บริโภคยังกังวลเรื่องของกลิ่น ซึ่งเป็นความเคยชินฝั่งใจในเบื้องต้นว่า แพะมีกลิ่นแรง แต่เมื่อนำมาทำเป็นน้ำนมเกรงว่าจะมีกลิ่นแรงเช่นกัน แต่จริงแล้วน้ำนมแพะมีกลิ่นแต่ไม่แรงมาก ซึ่งผู้ดื่มน้ำนมแพะเป็นประจำจะรับได้ และผู้ผลิตน้ำนมแพะเองไม่นิยมนำนมแพะมาปรุงแต่งกลิ่นหรือรส เพราะจะทำให้รสชาดและคุณค่างทางอาหารเสียไป และต้องการให้น้ำนมแพะมีความเฉพาะตัวที่ต่างจากนมทั่วไป ในส่วนของไอศกรีม แม้จะมีการปรุงแต่งรสชาด แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ ของกลิ่นนมแพะไว้ในสัดส่วนที่ผู้บริโภคทั่วไปรับได้ เพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผลิตภัณฑ์จากน้ำนมแพะได้ดีที่สุด
ด้านการผลิต ทางมหาวิทยาลัยสร้างโรงงานผลิตไอศกรีมแบบมาตรฐานขึ้นมา โดยมีกำลังการผลิตในขณะนี้ประมาณ 100 ลิตรต่อวัน และกำลังปรับปรุงโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต โดยเครื่องจักรที่นำเข้าจากต่างประเทศนี้ จะสามารถผลิตไอศกรีมได้ 300 ลิตรต่อชั่วโมง หรือประมาณวันละ600 ลิตรถึง 1,000 ลิตร ต่อวัน การปรับปรุงโรงงาน คาดว่าจะใช้เงินเกือบ 5 ล้านบาท ในการซื้อเครื่องจักรใหม่ และการปรับปรุงโรงงานให้ได้มาตรฐาน ส่วนหนึ่งโรงงานแห่งนี้ ต้องใช้ในการประกอบการเรียนการสอนของอาจารย์และนักศึกษาในคณะเกษตรและชีวภาพด้วย
ส่วนรสชาดของไอศกรีม ไอซี่ จันดรา ประกอบด้วย 4 รสชาด ได้แก่ รสธรรมชาติ สตอเบอรี่ ชอล์กโกแลต และรสกาแฟ ราคาไอศกรีม ขนาด 4 ออน ราคา 25 บาท และ 16 ออน ราคา 80 บาท ถึง 100 บาทขึ้นอยู่กับท็อปปิ้ง ถ้าเป็นกิโลกรัมราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 200 บาท ส่วนราคาขายส่งจะลด 20 % โดยช่องทางการจัดจำหน่าย รับตัวแทนจำหน่าย ในครั้งแรกจะมีลักษณะที่เป็นตู้แช่ เพียงอย่างเดียว ที่เป็นจุดขาย ส่วนในอนาคตเมื่อมี โปรดักส์ที่ผลิตจากน้ำนมแพะมากขึ้น จะเปิดขายในลักษณะของร้านไอศกรีม ไอซี่ จันดรา พร้อมกับเปิดขายในลักษณะแฟรนไชส์ ซึ่งผลิตภัณฑ์น้ำนมแพะ จะทำตลาดในรูปของบริษัท ส่วนแบรนด์จันดรา จะไม่ได้มีเพียงไอศกรีม ผลิตภัณฑ์อื่นที่ทางมหาวิทยาลัยพัฒนาขึ้นมา ก็ใช้ชื่อว่าแบรนด์ว่า จันดรา เช่นกัน
ปัจจุบันไอศกรีม ไอซี่ จันดรา มีผู้สนใจติดต่อเพื่อรับไปจำหน่ายประมาณ 20 ราย ทางมหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะให้บริษัทเอกชนที่สนใจรับไปทำตลาดเองทั้งหมด โดยที่มหาวิทยาลัยรับหน้าที่เป็นเพียงผู้ผลิตอย่างเดียว ส่วนการออกงานแสดงสินค้าต่างๆ ทางมหาวิทยาลัย ยังคงจะทำหน้าที่ตรงนี้เอง เพราะการออกงานเหมือนกับการประชาสัมพันธ์ แนะนำไอศกรีม และแนะนำมหาวิทยาลัยด้วยไปพร้อมๆ กัน และการออกงานได้ให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิม เพื่อดูว่าผู้บริโภคชื่นชอบรสชาดแบบใด เพื่อจะได้นำกลับมาปรับปรุงในเรื่องของการผลิตต่อไป
กลุ่มลูกค้าที่วางไว้ เป็นกลุ่ม วัยรุ่น รองลงมาเป็นเด็ก และเนื่องจากน้ำนมแพะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งน่าจะได้กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นผู้ใหญ่ที่สนใจเรื่องสุขภาพ ด้วย นอกจากไอศกรีม มีโปรดักส์ ตัวอื่น อาทิ เช่น น้ำนมแพะสเตอริไรท์ และนมเปรี้ยว ไบโอ โยเกิร์ต ที่เลือกทำนมเปรี้ยว และโยเกิร์ต เพราะขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก และบริโภคได้ง่าย หลายคนที่ไม่ชอบดื่มนม ก็ยังสามารถดื่มนมเปรี้ยว หรือ รับประทานโยเกิร์ตได้ ซึ่งทำให้เรามั่นใจว่านมเปรี้ยว โยเกิร์ต และไอศกรีม นมแพะ น่าจะทำตลาดและเข้าไปแย่งส่วนแบ่งตลาดนมวัวได้ไม่ยาก ในขณะนี้ ผู้บริโภคมีความรู้เรื่องของน้ำนมแพะมากขึ้น
การพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำนมแพะ เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะ ที่เลี้ยงอยู่ในปัจจุบัน และกลุ่มผู้เลี้ยงแพะกลุ่มใหม่ ตามแผนส่งเสริมการเลี้ยงแพะ สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ ที่เลี้ยงง่าย ผู้เลี้ยงแพะมีกำไร และนมแพะที่ได้ เป็นนมที่ดีไม่แพ้นมวัว แต่ความสำเร็จของเกษตรกรในการทำฟาร์มเลี้ยงแพะ คือ การตั้งโรงงานนมแพะขนาดใหญ่รองรับ และมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมนอกจากทำโครงการวิจัยเพื่อผลิตน้ำนมแพะคุณภาพแล้ว การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวกับน้ำนมแพะเป็นผลพลอยได้จากโครงการดังกล่าว ที่ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน
***ผู้สนใจขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คณะเกษตร และชีวภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม โทร.0-1304-0500,0-2512-5192 ***