xs
xsm
sm
md
lg

สเปรย์สมุนไพรไล่หนู-แมลง ธุรกิจจากสมองเด็กเตรียมฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หนู แมลง รวมถึงสุนัข เป็นศัตรูตัวฉกาจที่สร้างปัญหามากมายให้แก่บ้านเรือน ที่พักอาศัย เช่น หนูชอบมากัดสายไฟ แมลงตอมอาหาร หรือสุนัขถ่ายมูลที่ล้อรถยนต์ หลายๆ คนแก้ไขด้วยวิธีวางกับดัก วางยาเบื่อล่อ หรือฉีดสารเคมี แต่ก็ต้องมีภาระ มาตามเก็บซากทิ้ง และต้องทนดมกลิ่นเหม็นจากสารเคมี

จากปัญหาดังกล่าว นำมาสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ “ลีโอ” จากความคิดของเด็กไทยหัวใส ด้วยการนำสมุนไพรใกล้ตัวมาสกัด ใช้งานแบบสเปรย์ โดยยึดหลัก "ไม่ฆ่าแต่ใช้วิธีไล่"


สุรางค์ ต้องประสิทธิ์ ผู้จัดการ หจก.เบญจฤทธิ์ บิซิเนส เจ้าผลิตภัณฑ์ “ลีโอ” เล่าว่า ธุรกิจนี้ เกิดจากความช่างคิดของลูกสาว และลูกชาย (น.ส.เบญจมาศ อดีตตัวแทนเยาวชนไทยเคมีโอลิมปิก ปี 1998 ปัจจุบันเป็นนักเรียนทุนมอนบูโช รัฐบาลญี่ปุ่น กับนายนพฤทธิ์ ต้องประสิทธิ์ น้องชาย ) ที่อยากจะแก้ปัญหาหนูมักเข้าไปกัดสายไฟรถยนต์ที่บ้าน โดยใช้แนวคิดนำปัญหาใกล้ตัวมาคิดวิเคราะห์เพื่อหาทางแก้โดยยึดหลัก "ไม่ฆ่าแต่ใช้วิธีไล่" ซึ่งในเวลานั้น ทั้งสองยังเรียนอยู่ชั้น ม.5 และ ม.1 ตามลำดับ ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

“ตอนนั้น ที่บ้านมีปัญหาหนูเข้าไปกัดสายไฟรถยนต์ ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด ด้วยความที่เด็กๆ สงสารไม่อยากจะกำจัดด้วยการฆ่า เบญจมาศจะเก่งเรื่องห้องแล็ป ส่วนน้องชายจะเก่งหาข้อมูล ชอบคิดค้นจึงได้เริ่มหาข้อมูลจากสื่อต่างๆ รวมไปถึงเน็ตด้วย โดยแรกๆจะทำแบบลองผิดลองถูก สูตรเริ่มแรกส่วนผสมจะเป็นน้ำมันก๊าด ลูกเหม็น ซึ่งไม่ได้ผลเท่าใดนัก จึงมาศึกษาค้นคว้าจากตำราต่างๆที่ว่า หนูไม่ชอบกลิ่นอะไร ก็มาลองผิดลองถูกใหม่อีก กระทั่งมาได้ข้อสรุปที่สมุนไพรไทย" สองคนเลยช่วยกันคิดเอาสมุนไพรมาใช้ไล่หนู ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ คอยให้คำปรึกษา และให้ใช้ห้องแล๊ปของโรงเรียน”

เริ่มแรกใช้เองในครอบครัว พร้อมทั้งเก็บข้อมูลไปด้วย และแจกจ่ายให้กับเพื่อนๆ ที่มีปัญหาในเรื่องเดียวกัน ซึ่งก็ได้ผลตอบรับดี จนหลายคนแนะว่าน่าจะทำออกมาขาย เพราะหนูเป็นปัญหาที่ทุกคนเจอ และยังเป็นการสานต่อความคิดของเด็กๆ ที่สำคัญไม่เป็นอันตรายต่อสมาชิกครอบครัว เพราะทำมาจากสมุนไพร

สุรางค์ เล่าต่อว่า ใช้เงินทุนเริ่มต้นธุรกิจนี้ประมาณแสนกว่าบาท ส่วนใหญ่เป็นค่าบรรจุภัณฑ์ ทั้งหมดเป็นทุนส่วนตัว เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 2543 โดยนอกจากผลิตภัณฑ์ไล่หนู (ลีโอแรท) แล้ว สองพี่น้องยังได้ช่วยกันคิดสูตรผลิตไล่มด แมลง และยุง (ลีโอฟลาย) และสูตรสมุนไพรไล่สุนัข (ลีโอด็อก) เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดได้ครบถ้วน โดยผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และจดอนุสิทธิบัตรไว้แล้ว

สำหรับสมุนไพรสำคัญในผลิตภัณฑ์ไล่หนู ได้แก่ กระเพรา สะระแหน่ มะกรูด นำไปสกัดเอาน้ำมันเพื่อใช้กลิ่นเปปเปอร์มินต์ โดยส่วนหนึ่งจะเป็นออยล์ เมนทอลเกล็ด และส่วนผสมอื่นที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ใช้งานในแบบสเปรย์ ฉีดครึ่งหนึ่งมีผล ประมาณ 15 ชั่วโมง

ส่วนผลิตภัณฑ์ไล่มด แมลง และยุง สมุนไพรหลัก ได้แก่ มะกรูด ขณะที่ผลิตภัณฑ์ไล่สุนัข มีสมุนไพรหลักสกัดมาจากดอกไม้กลิ่นหอมๆ หลายชนิด โดยวิธีใช้เพียงฉีดสเปรย์ยังจุดที่มีปัญหา ประสิทธิภาพในการใช้ ขึ้นอยู่กับความหนักเบาของปัญหาแต่ละกรณี ทว่า หากใช้ต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 เดือน จะเปลี่ยนพฤติกรรมของสัตว์ให้ออกจากพื้นที่เดิม เป็นการป้องกันสัตว์ทำรังภายในบ้าน

ทั้งนี้ จุดเด่นที่ใช้ทำตลาด จะแนะนำว่า สมุนไพรดังกล่าว เป็นการไล่ ไม่ได้ฆ่า จึงไม่ต้องตามเก็บซากศพหนู ดังเช่นการกำจัดโดยวางกับดักหนู อีกทั้ง เป็นผลิตภัณฑ์ทำจากสมุนไพร ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ดีกว่าใช้ “ดีดีที”

ราคาจำหน่าย สำหรับผลิตภัณฑ์ สมุนไพรไล่แมลง สุนัข และหนู คือ 95 220 และ 285 ตามลำดับ การทำตลาดในช่วงแรก เน้นไปที่กลุ่มผู้รักสุขภาพ โดยมีช่องทางจัดจำหน่าย อาทิ ร้านโกเดนเพลส ก่อนที่จะขยายกว้างขึ้น ตามร้านค้าสหกรณ์ ห้างสรรพสินค้า ร้านเลมอนฟาร์ม และทอปซูเปอร์มาร์เกต เป็นต้น

นอกจากนี้ ได้เข้าเป็นสินค้าโอทอป รวมถึง ได้รับความช่วยเหลือจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงมีโอกาสออกงานแสดงสินค้าต่างๆ ทำให้ยอดขายเพิ่มสูงต่อเนื่อง ปัจจุบัน มีรายได้หักค่าใช้จ่าย เดือนละ 6 หลักขึ้นไป

ด้านตลาดต่างประเทศ รับจ้างผลิตให้แก่ลูกค้าจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย ทว่า ยังไม่คิดจะส่งออกด้วยตัวเอง เพราะ อยากจะสร้างฐานภายในให้เข้มแข็งเสียก่อน แล้วจึงมองที่จะส่งออกต่อไป

ส่วนปัญหาของธุรกิจที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการระดับเอสเอ็มอี จึงไม่สามารถทุ่มงบทำประชาสัมพันธ์ หรือซื้อสื่อโฆษณาได้ ทำให้ลูกค้าจะรู้จักสินค้าในวงจำกัด อาศัยบอกปากต่อปากเท่านั้น

ในขณะที่การเลียนแบบ ที่ผ่านมา ยังไม่มีรายใดทำออกมาแข่งขันโดยตรง มีแต่เพียงสินค้าบางรายที่โฆษณาสรรพคุณใกล้เคียงกัน แต่ด้วยกรรมวิธี และสูตรยังแตกต่างกันอยู่

เธอ ยังกล่าวทิ้งท้ายเล่าถึงลูกๆ ว่า ทุกวันนี้ ทั้งคู่ศึกษาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และเมื่อเวลากลับมาเมืองไทยช่วงปิดเทอม ก็จะนำความรู้มาต่อยอดธุรกิจสม่ำเสมอ ซึ่งในอนาคตจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง โดยมีแนวคิดตอบสนองความจำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวันของคนทั่วๆ ไป และเป็นสินค้าใหม่ไม่เคยมีมาก่อน

* * * * *

โทร.0-2650-0878 หรือ www.leo2000.com
กำลังโหลดความคิดเห็น