จากเดิมกิจการของที่บ้านเป็นร้านเบเกอรี่ และรับทำขนมปังกรอบและขนมขาไก่ส่งตามสั่ง ระหว่างที่ทำงานในบริษัทเอกชน อนุศักดิ์ วิริยะศิริพจน์ ก็ช่วยส่งขนมให้ที่บ้านด้วย แต่ในตอนนั้นที่บ้านของเขาทำกันแบบไม่มีแบรนด์ อนุศักดิ์จึงคิดอยากลองเปลี่ยนแปลง ช่วยทำการตลาดให้ จึงลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจนี้จริงจังประมาณปี 2536
อนุศักดิ์ เปิดเผยว่า ตอนแรกๆ เปิดเป็นมุมเล็กๆ ในห้างสรรพสินค้าเดอะ มอลล์ ท่าพระ ระหว่างนั้นก็ได้เข้าอบรมธุรกิจกับโครงการ NEC ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมด้วย
“ผมก็เข้ามาช่วยที่บ้านสร้างเป็นแบรนด์ Sugaa Buttaa ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ ขายในห้างฯ ได้สักพักก็ไม่ไหว เพราะมันไม่มีวันหยุด จึงไม่ค่อยมีเวลาไปส่งลูกค้าข้างนอก เพราะผมเป็นคนส่งคนเดียว และมีคนรับของเราไปขายเยอะ จึงตัดสินใจเลิกขายในห้างฯ ดีกว่า”
เมื่อเลิกวางขายในห้างฯ อนุศักดิ์ก็ผลิตส่งตามร้านต่างๆ อย่างเดียว และมีความคิดอยากจะทำเป็นระบบแฟรนไชส์ แต่จากการอบรมกับโครงการ NEC ทำให้ความตั้งใจเดิมของอนุศักดิ์เปลี่ยนไป เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจยังไม่แข็งแรงพอ และการส่งขายตามที่ต่างๆ ก็สามารถกระจายสินค้าให้ทั่วถึงได้เช่นกัน
การหาลูกค้าของอนุศักดิ์ คือการนำขนมไปเสนอตามร้านต่างๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขนม และการออกงานแสดงสินค้าของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งในการประชาสัมพันธ์สินค้า และมีคนสนใจสั่งสินค้าไปขายเช่นกัน และบางครั้งผู้ที่ซื้อไปทานหรือได้เป็นของฝากหากสนใจจะสั่งไปขาย ก็จะโทรมาตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดอยู่ที่ถุงขนม
ปัจจุบันอนุศักดิ์จดทะเบียนพาณิชย์แบรนด์ Sugaa Buttaa เรียบร้อยแล้ว ด้วยเงินทุน 1 ล้านบาท ผลิตตามออเดอร์ที่มีเข้ามาเฉลี่ยแล้ววันละ 500 ห่อ ซึ่งมีราคาขายปลีกอยู่ที่ 20-40 บาท โดยผู้ขายจะได้กำไร 20-25 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับตัวเขาที่ได้กำไรจากการผลิตส่ง 20-25 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน
โดยตอนนี้มีร้านที่รับขนม Sugaa Buttaa เป็นประจำอยู่หลายสิบร้าน เป็นร้านที่อนุศักดิ์ส่งเองอยู่ประมาณ 20 ร้าน ร้านละ 100 ยูนิตต่อสัปดาห์ เช่น ร้านกาแฟในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น JAT, ร้านคอฟฟี่ ทรี ในปั๊มคาลเท็กซ์ ข้างจัสโก้ หลักสี่, ร้านกาแฟ "ห้องนั่งเล่น" เซ็นทรัล รามอินทรา, ร้านหอยจ๊อปูทอง เยาวราช, ร้านบงกชคลีนิก ตรงข้าม ม.เกษตรศาสตร์ ฯลฯ และที่ลูกค้ารับไปส่งต่ออีกที ซึ่งมีทั้งใช้แบรนด์ Sugaa Buttaa และทำเป็นแบรนด์ตัวเองด้วย
“ด้านการผลิตจะเป็นพ่อกับพี่ชายดูแล และมีพนักงานอีก 5-6 คน ส่วนผมจะดูแลเรื่องการตลาดและการขนส่ง ซึ่งตอนนี้เรามีขนมอยู่ 4 ชนิดด้วยกัน คือ ขนมปังอบเนย, ขนมปังอบกระเทียม, ขาไก่ และขาไก่ช็อกโกแลต ลูกค้าที่ทานส่วนมากก็จะติดใจที่ความกรอบ รสชาติกลมกล่อม และทำสดใหม่ทุกวัน แต่ที่มีบ่นๆ บ้างก็ว่าทำไมขาไก่ชิ้นใหญ่จัง แต่เรื่องรสชาติเขาก็ชอบ”
ความสดใหม่ที่ว่าคือขนมปังปอนด์ที่พ่อของเขาอบเองกับมือ ก่อนนำมาทำเป็นขนมปังอบกรอบอีกขั้นตอนหนึ่ง โดยทำรูปแบบให้แตกต่างออกไป เป็นขนมปังมีรูตรงกลาง เพื่อเพิ่มความกรอบให้ทั่วถึงทั้งแผ่น
“คู่แข่งเราเยอะ แต่ถ้ามองตัวผลิตภัณฑ์แล้วแต่ละยี่ห้อก็มีรสชาติที่แตกต่างไป แล้วแต่คนทานจะชอบรสชาติแบบไหนมากกว่า สำหรับเราเองตอนนี้ก็ต้องพยายามสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นอีก แต่ตอนนี้ก็มีคนรู้จักเราพอสมควรทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงต้องหาร้านวางขาย กระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วถึงลูกค้าให้มากที่สุด” อนุศักดิ์ กล่าว
สุดท้าย อนุศักดิ์ กล่าวถึงผู้ประกอบการธุรกิจเล็กๆ รายอื่นๆ ว่า เป็นสิ่งที่ดีในการที่หลายคนหันมาทำธุรกิจมากขึ้น แต่ธุรกิจใหม่ๆ ก็ปิดตัวลงไปเยอะเช่นกัน เนื่องจากมันมีการแข่งขันและมีปัญหาจุกจิกหลายอย่าง จึงอยากให้ทุกคนอดทน อย่าท้อถอย ถ้าสู้ต่อก็จะสามารถอยู่ได้เอง
ติดต่อ Sugaa Buttaa โทร.0-6386-9906