ดาราหันมาจับธุรกิจกันเยอะแยะ โดยส่วนมากมักจะเป็นธุรกิจด้านความสวยความงาม โดยเฉพาะเหล่าดาราหญิงสาวทั้งหลาย แต่อดีตนางงามอย่าง ปูดำ-สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์ ที่เดิมตั้งใจจะเปิดสปา กลับเปลี่ยนใจมาเปิดร้านอาหารในบ้านตัวเองที่ ซ.วิภาวดี 60 ชื่อว่า “เส้นใหญ่”
สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจร้าน “เส้นใหญ่” ว่า เมื่อถึงวันหนึ่งของวัย เห็นว่าการแสดงไม่ใช่อาชีพหลัก ก็เริ่มขบคิดว่าตัวเองเหมาะกับธุรกิจแบบไหน เริ่มต้นก็คิดเรื่องสปา เพราะเป็นนางงาม เป็นดารา ก็ต้องมีเรื่องความสวยความงาม แต่ช่วงนั้นได้เรียนปริญญาตรีที่ ม.รามคำแหง และไปต่อปริญญาโท ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ก็เรียนหนัก จะเปิดสปาต้องมีเวลาดูแลมากๆ พอดีกับที่ผู้จัดการส่วนตัวมีความรู้เรื่องทำอาหาร ที่บ้านก็ชอบหาทานเหมือนกัน จึงตัดสินใจเปิดร้านอาหาร
โดยในตอนแรกๆ ก็ไปตระเวนหาสถานที่ แต่ละสถานที่ก็ต้องเสียค่าเช่าสูง ก็เลยคิดว่าที่บ้านมีพื้นที่ว่าง น่าจะเปิดที่บ้านดีกว่า แม้จะไกลอยู่ในซอยตัน โอกาสขายได้ก็ยาก แต่ร้านที่ชอบไปทานหลายร้าน ก็เดินทางไปลำบากเหมือนกัน คิดว่าถ้าอาหารอร่อยจริง ของดีจริง คนทานก็ต้องดั้นด้นเข้ามาจนได้
“วันแรกที่เปิดร้านขายได้ 70 บาท จากคนที่เขาขับรถเข้ามาหาเพื่อนในซอยและก็แวะลองทานดู หลังจากนั้นก็มีลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ จากการบอกปากต่อปาก”
แรกๆ สรารัตน์ก็ไม่กล้าบอกเรื่องธุรกิจของเธอกับสื่อ ด้วยเหตุที่กลัวว่าร้านจะไปไม่รอด แต่ครั้นลูกค้าเยอะพอสมควร จนร้านอยู่ตัวแล้ว ก็เริ่มบอกนักข่าวให้ช่วยประชาสัมพันธ์ร้านให้ ปัจจุบันเธอบอกว่า พูดได้เต็มปากว่ามีลูกค้าประจำ โดยในช่วงเที่ยงจะมีคนเต็มร้านเกือบทุกวัน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะมีลูกค้าเข้าออกตลอด
“อาหารยอดฮิตก็เย็นตาโฟ ร้านมีโต๊ะ 30 โต๊ะ ช่วงเที่ยงก็จะเต็มทุกวัน แต่หน้าฝนอย่างนี้ลูกค้าก็จะลดลง เพราะเดินทางลำบากหน่อย เขาจะหาทานใกล้ที่ทำงานมากกว่า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของร้านจะเป็นคนทำงานที่มีหน่วยงานอยู่ใกล้ๆ เช่น การบินไทย กรมป่าไม้ กรมตำรวจ”
อาหารในร้าน “เส้นใหญ่” นั้น มีหลากหลาย ไม่ใช่แค่เย็นตาโฟ แต่ยังมีเมนูข้าวหมูอบ, ข้าวหน้าไก่, สเต็ก เป็นต้น โดยจะทำวันต่อวันไม่ให้เหลือค้างคืน ส่วนชื่อร้านที่ตั้งว่า “เส้นใหญ่” นั้นก็เพราะคนที่มาทานแรกๆ ก็เป็นคนใหญ่คนโต มียศ ที่ทำงานอยู่แถวนี้ แล้วก็เป็นการเล่นคำว่า “เส้นใหญ่” คือคนที่มาทาน หรือเจ้าของร้านกันแน่
คุณภาพของอาหารในร้านนั้น สรารัตน์ บอกว่า ซอสเย็นตาโฟของเธอไม่ใส่สี รสกลมกล่อม สะอาด ปลอดภัย ลูกชิ้นปลาก็ใช้เนื้อปลา 99 เปอร์เซ็นต์ อีก 1 เปอร์เซ็นต์เป็นไข่ขาว สะอาด อร่อย ไร้สารพิษ ซึ่งเธอเองกินของในร้านของตัวเองได้อย่างสบายใจ และไม่ว่าจะซื้ออะไรมาก็จะมีการหยดน้ำยาตรวจหาสารแปลกปลอมก่อน และสั่งโรงงานที่ผลิตของให้ไว้เลยว่าต้องปลอดภัยไร้สารพิษ ถ้าตรวจเจอเมื่อไหร่ จะยกเลิกการผลิตทันที
“ร้านเปิด 9 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น ราคาอาหารอยู่ที่ 40-100 บาท ตะเกียบเราก็สั่งทำพิเศษ ส่วนชามเมื่อก่อนใช้ชามตาไก่ แต่ดินเผาจะดูดความร้อน ชามร้อนแต่น้ำซุปไม่ร้อน จึงเปลี่ยนมาใช้ชามเมลามีน” สรารัตน์ กล่าว
ต่อมา สรารัตน์ ได้มีโอกาสเข้าอบรมในโครงการ NEC ดารากับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ทำให้เริ่มคิดทำร้านเป็นระบบธุรกิจแฟรนไชส์ จากที่ครั้งแรกอยากเปิดสาขาเอง แต่เมื่อได้ไปอบรมก็คิดว่าการเปิดแฟรนไชส์จะทำให้เหนื่อยน้อยกว่า และนอกจากการทำระบบแฟรนไชส์แล้ว ก็ยังทำซอสเย็นตาโฟขายด้วย โดยเป็นซอสที่คนมุสลิมทานได้ ตอนนี้ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการเลือกสรรแพกเกจจิ้ง เพื่อให้ซอสอยู่ได้นานโดยไม่ใส่สารกันบูด
“ตอนแรกอยากทำเป็นผง แต่ต้องลงทุนเครื่องจักรเยอะ เรายังไม่ขายดีขนาดนั้น ก็เลยเอาแค่นี้ก่อนดีกว่า”
สรารัตน์ กล่าวต่อว่า ลูกค้าแฟรนไชส์ติดต่อเข้ามาเยอะพอสมควร แต่ตอนนี้ระบบยังเซ็ทไม่เรียบร้อย จึงยังไม่ได้ตกลงกับใคร ซึ่งแฟรนไชส์นั้นจะมีเย็นตาโฟเป็นหลัก แต่ก็จะเสริมอาหารอื่นๆ เช่น ข้าวหมูอบให้ด้วย โดยขณะนี้ระบบแฟรนไชส์เสร็จไปแล้วกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ เหลืออีก 5 เปอร์เซ็นต์ คือการเลือกสรรและคำนวณงบประมาณวัสดุอุปกรณ์ เช่น หม้อ จานชาม โต๊ะ เป็นต้น
“ไม่อยากคิดราคาแฟรนไชส์ให้เว่อร์ แม้เราจะมีคุณภาพสูง แต่ถ้าขายแฟรนไชส์แพงมากก็คงสร้างความลำบากให้แฟรนไชซี เราไม่เอาค่าวิชามากมาย ให้เขาอยู่ได้ แต่เราเข้าไปดูแลว่าเขาเพี้ยนคอนเซ็ปต์เราหรือเปล่า และก็ไม่จำเป็นต้องมีสาขาทั่วประเทศ มีไม่กี่ร้านแต่คุณภาพดีดีกว่า” สรารัตน์ กล่าว
หากมีปัญหาอะไร สรารัตน์ก็จะปรึกษาอาจารย์ที่กรมฯ อยู่ตลอด โดยปัญหาส่วนมากที่เธอเจอก็เกิดจากบริวาร
“ต่อให้เราบอกอะไร สั่งอะไรไว้ ลับตาเราเขาก็ทำตามแบบเขา ตามความคล่องตัวของเขา อาจารย์ก็พยามสอนว่าต้องมีแรงจูงใจ เด็กเขาอายที่จะขายของ อายที่จะพูด บริวารสำคัญมาก ต้องหาคนที่รักงานจริงๆ เราก็ต้องเล่าปัญหาเหล่านี้ให้แฟรนไชส์ฟังด้วย”
“ปูก็มุ่งมั่นกับธุรกิจ ยึดหัวหาดให้ดีเสียก่อน แล้วดูแลสาขาให้ดีด้วย คนคิดว่าดาราเปิดร้านก็จะตูมสักพักก็เงียบหาย ปูก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น” สรารัตน์ กล่าวสรุป
ร้าน “เส้นใหญ่” ซ.วิภาวดี 60 โทร.0-1484-4444