การนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดของคนเรา ยามพักผ่อน จึงต้องการความสบายทั้งกายและใจ บนฟูกนุ่มๆ ได้หมอนข้างมากอดสักใบ ผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนก็มีความสำคัญพอสมควรทีเดียว เพราะเป็นสิ่งที่สัมผัสกับร่างกายยามนอน หากได้ผ้าที่นุ่มสบาย สีและลวดลายที่สบายตา ก็จะทำให้พักผ่อนได้สบายมากขึ้น
และด้วยเหตุผลที่ว่านั่นคือของใช้พื้นฐานที่คนเราต้องใช้นอนกันอยู่ทุกวัน ทำให้ ภานิชา จิรภาคย์ และวรินทร เพิ่มกิจไพศาล ผู้เป็นน้องสะใภ้ สนใจทำธุรกิจนี้ โดยใช้เงินทุนเริ่มต้นจากคุณพ่อ ไปประมาณ 2 แสนบาท
ภานิชา กล่าวว่า ครอบครัวมีกิจการโรงงานผลิตวัตถุดิบผ้ายืด ซึ่งทำมา 30 กว่าปีแล้ว ส่วนที่บ้านของวรินทร ก็มีกิจการโรงงานการ์เม้นท์ จึงคิดกันว่าน่าจะลองทำปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนจากผ้ายืด โดยใช้เวลากว่า 2 ปี ในการทดลองทดสอบเนื้อผ้ายืดแบบต่างๆ ว่าอันไหนดีที่สุดที่จะนำมาใช้ทำผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ซึ่งต้องการความนุ่ม สบาย ซักแล้วไม่เป็นขุย โดยทั้งสองคนทดลองใช้ด้วยตัวเองเป็นปี จนมาลงตัวที่ผ้าคอตต้อน 100 เปอร์เซ็นต์ ที่สามารถซักด้วยเครื่องได้
“หลังจากซักครั้งแรกแล้ว เนื้อผ้าจะหดลงประมาณ 3-5 เปอร์เซ็นต์ แต่ขนาดที่เราทำไว้จะเผื่อการหดไว้ด้วย จึงไม่ต้องกลัวว่าหลังซักผ้าปูจะเล็กกว่าที่นอน แล้วด้วยความหนาบางของฟูกที่นอนแต่ละบ้านที่ไม่เท่ากัน เราก็เลยทำขอบเผื่อไว้เหมือนกัน โดยมีอีลาสติกรัดขอบ เพื่อความง่ายในการปูที่นอนและความแน่นหนาด้วย”
ปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนของพวกเธอ มีชื่อแบรนด์ว่า “I mix U match” มาจากการที่อยากให้ลูกค้าได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ในการจับคู่สีสันลวดลายของปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนได้เอง ดังนั้น จึงไม่ได้จัดไว้เป็นชุดแบบเดียวกัน แต่ขายแยกชิ้น โดยการจับคู่อาจจะเข้ากันได้ดีหรืออาจจะแตกต่างกันไปเลยโดยสิ้นเชิง แต่ก็ตามแต่ผู้ซื้อจะชอบนั่นเอง
“คอลเลกชั่นแรกของ “I mix U match” ที่ออกมาเป็นช่วงหน้าร้อน เราจึงใช้โทนสีหวาน สดใส สบายตา มีทั้งแบบสีล้วนและมีลวดลายเล็กน้อย ซึ่งเป็นลายกราฟฟิกกับลายดอกไม้” ภานิชา กล่าว
ทั้งนี้ “I mix U match” ยังอยู่ในช่วงการทดลองตลาด โดยมีเป้าหมายเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 22 ปีขึ้นไป ที่มีไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง คือเรียบง่ายแต่มีสไตล์ โดยวางราคาขายปลีกไว้ที่ 270-3,000 บาท และเปิดตัวครั้งแรกด้วยการออกบูทแสดงสินค้าในงานแอลล์ และ แอลล์ เดคอเรชั่น 2005 เมื่อวันที่ 17-19 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีพอสมควร มีผู้คนให้ความสนใจมากกว่าที่พวกเธอคิดไว้
“หลังจากงานแอลล์ เดคอร์แล้ว ก็วางแผนไว้ว่าจะเอาไปเสนอวางขายในห้างสรรพสินค้าต่างๆ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก แล้วก็ออกงานแสดงสินค้าด้วย ที่มองไว้งานต่อไปก็คืองาน BIG ซึ่งอยู่ระหว่างการติดต่อ เพราะมองตลาดต่างประเทศไว้ด้วย แต่ตอนนี้คงต้องสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในไทยก่อน”
ภานิชา กล่าวต่อว่า ตนยังทำงานประจำเป็น Client Service ในบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง ซึ่งก็ได้นำประสบการณ์หลายอย่างมาใช้ในการทำธุรกิจของตัวเอง เช่นการติดต่อลูกค้า ซึ่งเป็นการบริหารแบรนด์เล็กๆ แบรนด์หนึ่ง เหมือนที่ดูแลแบรนด์ให้ลูกค้า
"คุณวรินทรเขาดูแลรับผิดชอบแบรนด์ “I mix U match” เยอะกว่า เพราะพี่ทำงานประจำด้วย แต่ก็จะปรึกษากันว่าจะทำอะไรยังไง ส่วนมากด้านการผลิตและการติดต่อประสานงานจะเป็นคุณวรินทรดูแล ส่วนพี่ก็ช่วยคิดเรื่องแบบบ้าง เพราะเราทำงานด้านโฆษณาก็จะได้ใช้พวกความคิดสร้างสรรค์เยอะ แต่เราก็มีดีไซเนอร์ด้วย"
เป้าหมายต่อไปที่ทั้งสองคนมองไว้คือการส่งออก การสร้างแบรนด์ให้อยู่ไปได้เรื่อยๆ และแตกไลน์เพิ่มเติมออกไป ไม่ใช่แค่ชุดผ้าปูที่นอนอย่างเดียว ทั้งนี้ ยังไม่ได้คิดว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อะไร แต่ก็คงใช้วัตถุดิบผ้ายืดเป็นหลักเหมือนเดิม
"การออกมาทำธุรกิจของคนรุ่นใหม่เป็นสิ่งที่ดี เพราะการเป็นลูกจ้างคนอื่นมันมีกฎระเบียบมากมาย แต่ในธุรกิจเราเองเรามีจินตนาการอะไรก็ใส่เข้าไปได้ ถึงอย่างนั้นเราก็ควรเห็นคนอื่นเขาทำมาก่อน ควรเป็นลูกจ้างเขาดูก่อน เพื่อสั่งสมประสบการณ์ และลองผิดลองถูก" ภานิชา กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อ “I mix U match” โทร.0-1493-3388
