xs
xsm
sm
md
lg

ครีมหน้าเด้ง “J.ANGEL RICE” นวัตกรรมใหม่สูตรจากข้าวหอมมะลิ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข้าวหอมมะลิของไทยเป็นข้าวที่ได้รับการยอมรับของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในเรื่องรสชาติ และคุณภาพ แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า วิตามินที่สกัดจากจมูกข้าวหอมมะลินั้น มีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมเช่นกัน โดยผู้ประกอบการ จาก จ.ราชบุรี ได้นำจุดเด่นนี้ มาสร้างธุรกิจครีมบำรุงผิว ภายใต้แบรนด์ “J.ANGEL RICE”

ศิริลักษณ์ ลิมป์พาณิชย์กุล เจ้าของกิจการ หจก.แองเจิลไรซ์ และผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากน้ำมันจมูกข้าว “J.ANGEL RICE” เปิดเผยว่า ครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าแปรรูปจากข้าว อยู่ใน จ.ราชบุรี มานานกว่า 20 ปีแล้ว และเกิดความสนใจนำข้าวมาสกัดเอาจมูกข้าวมาทำเป็นเครื่องสำอางบำรุงผิว เนื่องจากรู้ว่า ในจมูกข้าว อุดมด้วยแร่ธาตุ โดยเฉพาะมีวิตามินอีปริมาณสูง ในรูปของโทคอล ( Tocopherol & Tocotrienol ) สารแกมม่าออไรซานอล ( Gamma-Oryzanol) และกลุ่มสารเซราไมด์ (Ceramide) ซึ่งสารเหล่านี้ มีคุณค่าต่อเซลล์ของผิวหนัง อาทิ ปกป้องผิวหนังจากแสงยูวีเอ และยูวีบี สาเหตุของฝ้า กระ มะเร็งผิวหนัง และยังบำรุงผิวพรรณให้คงความชุ่มชื้นฟื้นฟูผิว ไม่ให้แห้งแตก และเหี่ยวย่น

จากนั้น ได้นำข้าวที่มีอยู่มาทดลองสกัดวิตามินจากจมูกข้าวด้วยกรรมวิธีพิเศษ แล้วผสมกับครีมเบส (Cream base) และใช้กันเองก่อนในครอบครัว หลังจากนั้น เห็นว่าผิวดีขึ้น ทำให้เห็นโอกาสว่า น่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เป็นธุรกิจใหม่ได้

“เมื่อเราเห็นความมหัศจรรย์ของจมูกข้าว รู้สึกตื่นเต้น และภูมิใจในสิ่งที่ค้นพบมาก และอยากให้คนไทย ได้เห็นว่า ข้าวมีคุณประโยชน์มากมาย ไม่ใช่แค่เป็นอาหาร แต่ยังนำมาสกัดเป็นวิตามินบำรุงผิวได้ด้วย ซึ่งคุณสมบัตินี้ ทุกคนอาจมองข้ามมาตลอด”

เบื้องต้นใช้ทุนผลิตหลักหมื่น ตั้งแบรนด์ว่า “J.ANGEL RICE” เน้นสร้างสินค้าให้ได้มาตรฐานที่ตลาดยอมรับ ด้วยการนำสินค้าไปจดอนุสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ใหม่กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตรายแรกในประเทศไทย อีกทั้ง ยังผ่านการตรวจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง มอก. 152-2539 อีกทั้ง โรงงานที่ผลิตได้มาตรฐาน GMP และยังได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอทอป 5 ดาว ระดับประเทศด้วย

จุดเด่นของสินค้านั้น เธอบอกว่า เนื่องจากเป็นครีมสกัดจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีเจือปน ทำให้ใช้ได้กับทุกคน ทุกผิว ไม่ต้องกังวลว่า จะแพ้ และเนื้อครีมนุ่ม ดูดซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะ โดยคุณสมบัติจะช่วยบำรุงผิวให้ขาวเนียนเรียบ ใน 1-3 เดือน ถ้าใช้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนปัญหา คือ สินค้านี้ จำเป็นที่ต้องอาศัยการแนะนำคุณสมบัติ หากไปวางไว้เฉยๆ ลูกค้าจะไม่สนใจเลย ซึ่งส่วนตัวไม่สามารถจะลงทุนด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้มากนัก ทำให้สินค้าไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ส่งผลให้ยอดขายยังต่ำ ต่อเดือนยังไม่ถึงร้อยขวด

ปัญหาอีกประการ จากที่วางกลุ่มลูกค้าเป็นคนไทย ทำให้ตั้งราคาขายปลีก ขวดละ 590 บาท ซึ่งในวงการเครื่องสำอางจะรู้กันว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับสินค้ายี่ห้ออื่น ๆ ประเภทเดียวกัน แต่ทว่า การตั้งราคาถูกกลับเป็นผลเสีย ทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อถือ คิดว่า ไม่ใช่สินค้าเกรดเอ

“ถ้าลองใช้จะรู้ว่า คุณภาพไม่แพ้เครื่องสำอางจากเมืองนอก ขวดละ 4,000 – 5,000 บาท ซึ่งยี่ห้อดังๆ พวกนี้ เขาจะมีงบทุ่มกับการตลาดสูงมาก ทำให้ชื่อติดตลาด ส่วนราคาขายปลีกสูงกว่าต้นทุนผลิตมากกว่า 100 เท่า ในขณะที่ของเรา ต้นทุนยังสูง ราคาส่งให้ตัวแทนจำหน่าย จะลดให้มากกว่า 50% ยังทำไม่ได้เลย”

เจ้าของผลิตภัณฑ์ เผยต่อว่า ช่องทางจัดจำหน่ายทุกวันนี้ยังมีตัวแทนน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเน้นออกงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งได้รับผลตอบรับดี เพราะมีโอกาสแนะนำสินค้าแก่ลูกค้าโดยตรง ส่วนแผนการตลาดต่อไป จะพยายามลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง และเน้นประชาสัมพันธ์มากขึ้น โดยเบื้องต้น ได้นำสินค้าไปโพสต์ในเว็บไซต์แนะนำสินค้าสาธารณะต่างๆ และในอนาคตถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะส่งออกต่างประเทศด้วย

สำหรับข้าวที่นำมาสกัดใช้ข้าวหอมมะลิ ซึ่งเธอบอกว่า เป็นความภูมิใจอีกอย่าง ที่นำข้าวไทย ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจของชาติมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกร และในอนาคตอยากให้สินค้านี้ สร้างตำนานให้ข้าวไทยเป็นที่รู้จัก และจดจำของคนในชาติและชาวต่างประเทศ

“ถ้าพูดถึงตำนานแหล่งกำเนิดสินค้า ถ้าเป็นโสม ต้องนึกถึงเกาหลี หรือนาฬิกาชั้นนำของโลก ต้องเป็นสวิส และนับแต่นี้ ถ้าทุกคนถึงนึกข้าวหอมมะลิของไทย ก็อยากให้นึกถึงผลิตภัณฑ์วิตามินน้ำนมจมูกข้าวของไทยด้วยเช่นกัน”

* * * * *

สนใจซื้อผลิตภัณฑ์และต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายติดต่อคุณส้มโทร. 0-6316-9983, 0-6327-4643, 0-3421-7944 หรือต้องการดูรายละเอียดของสินค้าและวิธีการสั่งซื้อดูได้ใน

www.angelrice.com  ********
กำลังโหลดความคิดเห็น