ธุรกิจโมเดลกระดาษ 3 มิติ ในต่างประเทศ ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีมานานแล้ว แต่สำหรับเมืองไทยได้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายหนึ่งที่ได้ศึกษาธุรกิจนี้อย่างจริงจัง ภายใต้ความเชื่อที่ว่า “ธุรกิจนี้หากคนไทยตั้งใจทำจริงๆ แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย” ส่งผลให้ปัจจุบันโมเดลกระดาษ 3 มิติของ บ.At Model กลายเป็นเอสเอ็มอีไทยรายแรกที่โกยรายได้จากโมเดลกระดาษในรูปลักษณ์ของสถาปัตยกรรมไทยจากชาวต่างชาติมานานกว่า 2 ปีแล้ว แถมยังสามารถใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนได้อีกด้วย
แสงเดือน กิตติจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท AT Model จำกัด เล่าถึงที่มาของธุรกิจโมเดลกระดาษ 3 มิติ ว่า เดิมเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายสินค้าประเภทนี้ให้กับบริษัทหนึ่ง แต่จะเป็นโมเดลของสถานที่ในต่างประเทศทั้งหมด จึงคิดว่าสินค้าประเภทนี้ถ้านำมาประยุกต์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองไทยบ้าง ก็น่าจะทำได้ จึงคิดทำธุรกิจดังกล่าวขึ้นมาโดยสินค้าส่วนใหญ่จะเน้นความเป็นไทย และสถานที่สำคัญของโลก เช่น วัดพระแก้ว, ปราสาทพระเทพบิดร, ทัชมาฮาล, หอไอเฟล, ปราสาทหินพนมรุ้ง, โลหะปราสาท ของวัดราชนัดดา, หอนาฬิกา Big Ben, Post Box&Post Man, ST’Peter, วัดอรุณฯ, นครวัดนครธม และรถตุ๊ก ตุ๊ก เป็นต้น
“ก่อนที่เราจะได้ออกมาเป็นโมเดลในแต่ละชิ้นนั้น เราต้องทำการบ้านอย่างหนัก คือต้องยกทีมออกแบบเดินทางไปดูสถานที่จริง พร้อมเก็บรายละเอียด ข้อมูลต่างๆ มาให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้งานที่มีสีสันเหมือนกับสถานที่จริงให้มากที่สุด ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละแห่งสีจะแตกต่างกัน เช่น ถ้าเราไปดูนครวัดฯ ในช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ภาพที่ทุกคนชินตาสีของนครวัดฯ จะเป็นสีส้ม เนื่องจากถูกแสงแดดตกกระทบ แต่จริงๆแล้วสีอิฐของนครวัดฯ จะเป็นมีเทา ซึ่งโมเดลของเราก็จะเน้นช่วงเวลากลางวัน ส่งผลให้โมเดลนครวัดฯ ของเราจะมีสีเทา ซึ่งเป็นสีที่แท้จริงของอิฐในนครวัดฯ”
นอกจากการเก็บรายละเอียดในเรื่องรูปลักษณ์ต่างๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นแล้ว ทาง At Model ยังศึกษาข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ของสถานที่นั้นๆ ด้วย เพื่อทำเป็นเอกสารแนบไปกับชุดประกอบโมเดลกระดาษ 3 มิติ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยหวังให้ลูกค้าได้รับความรู้จากผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทฯ อีกทางหนึ่ง
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
ที่ผ่านมาลูกค้าของโมเดลกระดาษ 3 มิติ ของ At Model จะเป็นชาวต่างชาติ ที่เห็นคุณค่าสถานที่ท่องเที่ยวและศิลปวัฒนธรรมของไทย แต่ปัจจุบันก็เริ่มมีลูกค้าคนไทยหันมาสนใจบ้าง ซึ่งผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทฯ นอกจากจะเป็นงานไทยแล้ว ยังได้ส่งผลงานในรูปแบบสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศด้วย เพื่อต้องการให้สินค้าครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ได้มากที่สุด รวมถึงการออกแบบให้มีความเป็นสากลนั้น ก็เพื่อรองรับตลาดส่งออก โดยขณะนี้สินค้าได้ส่งออกไปแล้วหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ บราซิล สเปน เยอรมัน และกัมพูชา เป็นต้น ซึ่งการจำหน่ายในต่างประเทศจะเป็นลักษณะตัวแทนจำหน่ายรายเล็กๆ เท่านั้น โดยสนนราคาอยู่ที่ 89-750 บาท จำนวนชิ้นอยู่ที่ประมาณ 1,000-3,000 ชิ้น ส่วนลูกค้าที่ต้องการนำไปเป็นของขวัญในรูปแบบที่ประกอบเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทางบริษัทฯ ก็มีบริการประกอบให้ โดยคิดราคาชิ้นละประมาณ 100-300 บาท
เทรนด์ปีนี้เน้น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
สำหรับการออกแบบทาง At Model มีทีมงานออกแบบประมาณ 8 คน ซึ่งล้วนแต่เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง และรักในงานศิลปวัฒนธรรมไทย ซึ่งจะเน้นการออกแบบให้เหมือนสถานที่จริงให้มากที่สุด ทำให้บางครั้งผู้ที่เห็นผลงานมักจะไม่เชื่อว่าเป็นโมเดลที่ทำจากกระดาษ แต่จะมองว่าทำงานเรซิ่น หรือไม้ รวมถึงการออกแบบที่สร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า คือ การออกแบบกล่องโมเดลให้เป็นฐานพร้อมตั้งโมเดลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างสวยงาม ส่วนผลงานในปีนี้ แสงเดือน บอกว่า จะเน้นผลิตโมเดลใหม่ๆ ออกมา โดยศึกษาจากเทรนด์ของลูกค้าปีนี้ที่เริ่มหันมาสนใจสินค้าที่เกี่ยวกับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกกันมากขึ้น
เป็นสื่อสอนให้นักเรียนตามชนบท
เมื่อรูปแบบและการออกแบบผลิตภัณฑ์ของบริษัท At Model ได้ผ่านการศึกษาข้อมูลมาอย่างละเอียดแล้ว โดยได้ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เป็นสำคัญ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ At Model ใกล้เคียงกับสถานที่ท่องเที่ยวจริงมากที่สุด ส่งผลให้สามารถเป็นสื่อการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล ที่นอกจากจะมีของเล่นที่ท้าทายสติปัญญาแล้ว ยังสามารถให้ความรู้กับเด็กๆ ได้
“ผลิตภัณฑ์ของเรามีความเหมือนจริงมาก ทำให้สามารถกลายเป็นสื่อการเรียนการสอนได้ไม่ยากนัก แถมยังเป็นการเปิดโลกกว้างให้กับเด็กในโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลได้ ซึ่งที่ผ่านมามีครูชาวกระเหรี่ยงสนใจสินค้าของเราแต่มีเงินเพียง 100 บาท ก็ซื้อไม่ได้ ทางเราก็ได้บริจาคไป ซึ่งเราก็คิดว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีประโยชน์ในการพัฒนาความรู้ของเยาวชนไทย ดังนั้นหากมีหน่วยงานราชการหรือผู้ที่สนใจจะซื้อไปบริจาคให้กับตามโรงเรียนก็จะคิดในราคาพิเศษ”
คิดย่อส่วนสินค้าให้ง่ายต่อการขนส่ง
การที่ต้องการให้โมเดลมีความใกล้เคียงกับสถานที่จริงให้มากที่สุด ทำให้ขนาดกล่อง และขนาดของโมเดลกระดาษเมื่อทำการประกอบเสร็จสิ้นแล้วมีขนาดใหญ่ ทำให้ยากต่อการขนส่ง โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อผลิตภัณฑ์กลับไปยังประเทศของตนเอง มักจะติดปัญหาเนื่องจากกล่องผลิตภัณฑ์มีขนาดใหญ่ ทำให้ทาง At Model คิดทำสินค้าให้มีขนาดเล็กลง แต่ยังคงเน้นรายละเอียดเดิมอยู่ ซึ่งการย่อขนาดของสินค้าลงนอกจากจะสะดวกในการขนส่งแล้ว กลุ่มลูกค้าที่เป็นเด็กก็สามารถเข้าถึงสินค้าของ At Model ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์โมเดลกระดาษ 3 มิติ ของ At Model ได้วางจำหน่ายที่ร้าน B2S ทุกสาขา และร้านมุมสบาย บริเวณหลังการบินไทย สำนักงานใหญ่ โดยได้ตั้งเป้าขยายช่องทางจำหน่ายไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยการหาตัวแทนจำหน่ายในแต่ละจังหวัด เพื่อลดขั้นตอนการทำตลาดในต่างจังหวัด
***สนใจผลิตภัณฑ์โมเดลกระดาษ 3 มิติโทร 0-2930-0697-8, 0-1626-4777 หรือที่ www.3d-paper-models.com***