ด้วยเพราะประสบปัญหาไม่ได้รับชำระเงินค่าออกแบบของเล่นและเฟอร์นิเจอร์เด็ก จากบริษัทผู้ผลิตและจำหน่าย ทำให้ บริษัท แอนท์ อินทูดีไซน์ จำกัด ตัดสินใจลงมือเป็นผู้ผลิตเอง ด้วยความมั่นใจในประสบการณ์ด้านการออกแบบที่มีมากกว่า 20 ปี และแม้ธุรกิจจะมีปัญหาแต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ ยังมีแรงสู้ต่อจนธุรกิจเริ่มมีหนทางที่ดีขึ้นในวันนี้
ธิดา ธิดาวีร์ เจ้าของบริษัท แอนท์ อินทูดีไซน์ จำกัด (ANT INTO DESIGN CO.,LTD.) เปิดเผยว่า บริษัทเคยออกแบบของเล่นและเฟอร์นิเจอร์เด็ก ให้กับบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายมานานแล้ว แต่มีปัญหาเพราะเขาไม่ชำระค่าตอบแทนตามสัญญา ทั้งๆ ที่สินค้าก็ขายได้ จึงกลายเป็นแรงผลักดันให้เริ่มลงมือผลิตเอง โดยเปิดบริษัทมา 4 ปีแล้ว แต่เริ่มทำตลาดจริงจังประมาณ 1 ปี ด้วยเงินลงทุนทั้งหมด รวมตั้งแต่เริ่มต้นลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ ก็กว่า 5 ล้านบาทแล้ว
ANT เริ่มทำตลาดด้วยการคุยกับคนรู้จัก ให้ช่วยนำไปวางขายในร้าน ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดี แต่เนื่องด้วยการทำงานที่ขาดระบบ ทำให้ควบคุมต้นทุนไม่ได้ บริษัทจึงแย่ลงไปช่วงหนึ่ง แล้วก็มาขยับขึ้นอีกครั้ง ตอนที่เพื่อนคือคุณวิไลพร ศรีพุ่มไข่ ชวนไปออกบูธในงานแสดงสินค้าของตกแต่งบ้าน ที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เมื่อปลายปี 2547
“ในงานเราได้รับการตอบรับดีมาก จากตอนแรกที่คิดว่าสินค้าของเรามีตลาดส่งออกเป็นหลัก ราคาค่อนข้างแพง คนในประเทศไม่น่าจะบริโภค แต่ปรากฏว่าของขายได้ดีจนไม่พอขาย ทำให้เราเริ่มขยับตัวเอง ลงทุนเพิ่ม พอออกบูธครั้งที่ 2 ผลตอบรับก็ดีเหมือนเดิมอีก เพราะลูกค้าบอกว่าสินค้าเราดีไซน์แปลกไม่เหมือนใคร” ธิดา กล่าว
แต่แม้จะมีผู้ให้ความสนใจมากมาย ANT ก็ยังไม่มีหน้าร้านของตัวเอง ทั้งนี้เพราะไม่ต้องการแบกภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายเรื่องร้าน
“เราเป็นในลักษณะของผู้ออกแบบและผู้ผลิต การขายจึงจะเป็นในแบบการขายให้ผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีกมากกว่า แต่ตอนนี้ยังไม่มีออเดอร์จากต่างประเทศ แต่จากการแสดงสินค้าในงาน BIG&BIH ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อเดือนเมษายน 2548 ก็มีลูกค้าทั้งตัวแทนในประเทศและลูกค้าต่างประเทศโดยตรงมาคุยบ้างแล้ว ทั้งในแถบเอเชียและยุโรป”
ทั้งนี้ การประชาสัมพันธ์ตัวเองของ ANT จะเป็นการออกบูธและผ่านเว็บไซต์เป็นหลัก ซึ่งการออกบูธจะได้ทั้งตัวแทนจำหน่ายและการขายปลีก โดยจะออกบูธในงานแสดงสินค้าที่เป็นแบบบีทูบี คือหาออเดอร์ แต่ในระหว่างปีก็จะมีการขายปลีกตามงานที่พิจารณาแล้วว่าเหมาะกับสินค้าของ ANT ด้วย
“ช่วงที่ธุรกิจแย่ ก็ต้องพยายามปรับตัว โดยการปรับปรุงระบบการจัดการให้ชัดเจน ด้านการตลาด ต้องมีการขายเงินสดหรือขายย่อยบ้าง ไม่ใช่นั่งรอออเดอร์อย่างเดียว เพราะเราต้องการเงินหมุนเวียน และต้องควบคุมต้นทุนให้ได้ หลังจากปรับปรุงด้านระบบแล้ว ก็ช่วยให้บริษัทดีขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่วางเป้าหมายไว้ เพราะเราเพิ่งจะทำมาได้แค่ปีเดียว คงต้องค่อยๆ เป็นไป”
ด้านเป้าหมายทางการตลาด ธิดา ประมาณการไว้ว่า ปีแรกจะต้องมียอดขายประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับทิศทางเศรษฐกิจด้วย เพราะสินค้าของ ANT อยู่ในหมวดสินค้าฟุ่มเฟือย แม้ในต่างประเทศ สินค้าสำหรับเด็กจะอยู่ในหมวดสินค้าจำเป็น
"สินค้าของเด็กจะแบ่งเป็นของเล่นและเฟอร์นิเจอร์ แต่ ANT อยู่ระหว่างทั้งสองอย่างนี้ คือเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เด็กสามารถเล่นได้ และใช้แต่งห้องเด็กได้ด้วย ตลาดจึงยังไม่ชัดเจน เป็นเหมือนการทดลองหาตลาดใหม่ แต่สินค้าที่ผ่านมาคือที่คั่นหนังสือ ค่อนข้างมีฟังก์ชั่นที่ชัดเจน พ่อแม่จะซื้อให้ลูกเพราะอยากให้ลูกรักหนังสือ รักการอ่าน จึงค่อนข้างได้รับความสนใจเยอะที่สุด ส่วนดีไซน์ล่าสุดจะเป็นแนวการก่อสร้าง เพราะเวลาเด็กๆ เห็นเครน เห็นรอก เหล่านี้เขาจะชอบ เราก็ดีไซน์จากพฤติกรรมของเด็ก”
ธิดา กล่าวถึงกำลังการผลิต ว่า ตอนนี้อยู่ที่ 1,000 เซ็ทต่อเดือน มีพนักงาน 20 คน โดยการผลิตใช้ไม้ยางพาราและวัตถุดิบภายในประเทศทั้งหมด ใช้สีปลอดสารพิษ เริ่มต้นการผลิตด้วยการขึ้นชิ้นงานหลักด้วยเครื่องจักร จากนั้นจึงใช้แรงงานคนในการขัดเกลาเนื้อไม้ไม่ให้มีเสี้ยน การลงสี การซิลค์สกรีน ฯลฯ ซึ่งกำลังการผลิตในขณะนี้ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า แต่ถ้าหากต้องการมากกว่าจำนวนที่ ANT ผลิตได้ ก็ต้องจ้างโรงงานอื่นผลิต ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้มาตรฐาน แต่ทั้งนี้ก็ต้องกลับมาเก็บงานละเอียดด้วยมือที่ ANT อีกครั้ง
“เรามีความคิดเรื่องการขยายกำลังการผลิต แต่หลักคือเราต้องหาแหล่งทุนสนับสนุน ซึ่งปัจจุบันเรายังไม่อยู่ในสถานภาพที่กู้เงินธนาคารได้สะดวกนัก เพราะธนาคารพาณิชย์ต้องดูหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดูรายได้ที่ผ่านมาเป็นหลัก แต่เราเพิ่งผลิตเองได้ไม่นาน รายได้ที่มันเป็นตัวเลขก็ยังไม่เพียงพอกับที่ธนาคารต้องการจะเห็น หรืออย่างโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนของรัฐ ผลิตภัณฑ์แบบเราก็ยังไม่อยู่ในรายชื่อที่สามารถทำได้ ก็หวังว่าหลังจากงานนี้ไป เราจะได้ตกลงธุรกิจกับบริษัทอื่นๆ แล้วก็ได้สินเชื่อจากธนาคารมาขยายกำลังการผลิตได้”
“เนื่องจากที่ตั้งของบริษัทอยู่ในสถานที่ที่ผู้คนค่อนข้างลำบาก คือที่ ต.บ้านระกาศ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ความตั้งใจของบริษัท จึงต้องการให้แรงงานในแถบนั้นมีงานทำ เด็กๆ ที่เรียนหนังสือไม่จบ เราก็ชักชวนมาทำงาน เพราะต้องการให้เขามีรายได้และเติบโต ไม่ใช่หยุดอยู่แค่นั้น ถ้าเราสามารถขยายธุรกิจได้ เราก็จะสามารถช่วยชาวบ้านได้ ในขณะที่เราเองก็มีรายได้ด้วย เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน อยากให้โตไปด้วยกัน” ธิดา กล่าว
ติดต่อ ANT INTODESIGN โทร.0-2347-5502, 0-6306-3060 และ 0-4707-6760 หรือ www.antproduct.com


