สิ่งของธรรมดาๆ รอบๆ ตัว ถ้าใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไป ก็สามารถเปลี่ยนเป็นสินค้าทำเงินได้ทั้งนั้น ประโยคกล่าวอ้างนี้ ใช้ได้ดีกับผลงานของ “ดนัย นับดี” ที่นำสายยางธรรมดาๆ มาประยุกต์เป็นโคมไฟ ที่สวยแปลกตา ภายใต้ แบรนด์ "บ้านเพิร์ธ”
ดนัย เล่าว่า จากที่มีธุรกิจส่วนตัวด้านติดต่อวีซ่าให้ชาวต่างชาติอยู่แล้ว แต่อยากจะประดิษฐ์สินค้าใหม่ขึ้นมาสักชิ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้การประกอบอาชีพ โดยมีแนวคิดหลักจะใช้วัสดุที่มีขายอยู่ในท้องตลาด มาประยุกต์เพิ่มมูลค่าให้เกิดเป็นสินค้าใหม่
“ใจผมอยากจะทำสินค้าอะไรขึ้นมาสักอย่าง แต่เราเป็นคนเมือง ก็คงไม่มีวัสดุธรรมชาติตามท้องถิ่น ก็เริ่มจากคิดว่าจะทำจากสิ่งของที่มีขายอยู่ทั่วๆ ไป เวลาผมไปเดินห้างฯ จะสังเกตสิ่งของต่างๆ เห็นสายยาง เดี๋ยวนี้ ทำเป็นหลายสี ผมคิดว่า น่าจะมาทำอะไรได้ กับเห็นเชือกไนลอนสำหรับมัดของ เดี๋ยวนี้ ก็ทำออกมาเป็นลายสลับสีต่างๆ เลยนำมาประยุกต์รวมกัน ให้ได้เป็นสินค้าใหม่ขึ้นมา เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า”
การออกแบบเป็นโคมไฟนั้น มาจากไอเดียที่เห็นจุดเด่นของสายยาง คือ มีความใส เลยลองไปซื้อโคมไฟหัวเสาประตูบ้าน แล้วตัดสายยางมาติดด้วยการใช้ไฟจี้ให้ปลายสายยางละลาย เมื่อลองเปิดไฟ พบว่า สายยางเกิดการเรืองแสง แต่การติดด้วยวิธีดังกล่าว จะมองเห็นรอยไหม้จากการจี้ไฟ จึงเปลี่ยนมาใช้กาวซิลิโคน ซึ่งมีคุณสมบัติเหนียว และคงทน ส่วนฐานของโคมไฟ ก็จะพันด้วยเชือกไนลอน
“พอทำเสร็จ ลองเปิดไฟ ก็ได้โคมไฟที่สวย และสิ่งที่นอกเหนือจากคิดไว้ คือ หน้าตัดของสายยางแต่ละอัน จะเป็นประกายเรืองแสง มีความสวยในตัวเอง แรกๆ ติดแค่สีเดียวล้วน หรือสลับสองสี แล้วเพิ่มลายออกแบบมาเรื่อยๆ จากนั้น ก็เอาไปถามเพื่อนฝูง เขาก็บอกว่าสวย และแปลกดี ไม่นึกว่า สายยางธรรมดาๆ จะทำมาได้แบบนี้”
เจ้าของไอเดีย บอกว่า จุดเด่นนอกเหนือจากความแปลก และสวยงามแล้ว สายยางยังคงทน สีไม่จาง และล้างทำความสะอาดได้ ขณะนี้ มี 3 แบบ คือ ทรงกลมแบบตั้งโต๊ะ , แบบทรงกลมใช้แขวน และแบบทรงกระบอก ทั้ง 3 แบบมีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ราคาขายปลีก ขนาดใหญ่ 1,500 บาท , เล็ก 850 บาท โดยต้นทุนการผลิตเฉพาะวัสดุประมาณ 40-50% ใช้เวลาทำประมาณ 5 ชม.ต่อหนึ่งชิ้น ( => คลิกเพื่อดูตัวอย่างสินค้าโคมไฟ “บ้านเพิร์ธ” )
แต่ทั้งนี้ ผู้ซื้อจะกลัวโคมไฟร้อนทำให้สายยางละลายเกิดเป็นอันตราย แต่จากที่ทดลอง ความร้อนของแสง ไม่แรงถึงกับทำให้สายยางละลายได้ เคยทดลองเปิดไฟติดต่อกัน 2 วัน 2 คืน ก็ไม่มีปัญหา สำหรับหลอดไฟที่ใช้ ถ้าเป็นขนาดใหญ่ จะใช้ขนาด 40 วัตต์ ส่วนเล็กจะใช้ 25 วัตต์ ด้วยเหตุผลว่า ถ้าใช้วัตต์เกินกว่านี้ จะทำให้แสงจ้านเกินไป และถ้าต่ำกว่านี้ สายยางจะไม่เรืองแสง
“ปัญหายังติดที่ลูกค้าบอกว่าแพง เขาไม่ได้คิดว่า มันเป็นงานไอเดีย แฮนด์เมด กว่าจะตัดสายยางทีละชิ้นให้เท่ากัน และต้องให้หน้าตัดเรียบ ไม่เป็นรอยคลื่น แต่ส่วนมากเขาจะมองว่า เป็นแค่สายยางธรรมดาๆ เอามาติดกาวง่ายๆ แต่ถ้าผมมีวัตถุดิบราคาถูกลงมา ก็น่าจะลดราคาลงได้ แต่ตอนนี้ ใช้วัสดุที่ขายในท้องตลาดทั่วไปมาทำ ไม่ได้สั่งจากโรงงาน ต้นทุนจึงสูง”
ด้านการผลิตขณะนี้ ทำเป็นอุตสาหกรรมเล็กๆ ในครัวเรือน เฉลี่ยแล้วต่อวันทำได้ 6-7 ชิ้น ใช้แบรนด์ว่า “บ้านเพิร์ธ” นำมาจากชื่อของลูกชาย ซึ่งจดทะเบียนการค้าเป็นที่เรียบร้อย และได้ยื่นจดสิทธิบัตรแล้ว กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ คือ วัยรุ่น และคนที่ชอบงานศิลปะ
“ตอนนี้ ยังไม่มีใครเลียนแบบ และจริงๆ ผมก็ไม่ได้กลัวที่ใครจะมาเลียนแบบหรอก เพราะถ้าเขาลองไปทำ จะรู้ว่า คุ้มกับแรง และเวลาที่ทำไหม เพราะแค่นั่งตัด ๆ ติดๆ อย่างเดียวก็รวบหลายชั่วโมง ขนาดใหญ่ต้องใช้สายยางตัดประมาณ 400 ชิ้น”
ดนัย เผยว่า เริ่มทำงานนี้มาประมาณเกือบ 1 ปี ใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 1 แสนบาท โดยที่ผ่านมา ไม่ได้ทำการตลาดจริงจังนัก ส่วนมากจะทำให้เพื่อนๆ กระทั่ง เริ่มคนพบเห็น ทำให้ได้ออเดอร์จากการบอกปากต่อปาก และเพิ่งเปิดตัวสินค้าอย่างจริงจังครั้งแรก ในงาน “มหกรรมแก้จน” ที่ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1 – 6 เม.ย. ที่ผ่านมานี่เอง ส่วนก้าวต่อไป กำลังจะเปิดหน้าร้านที่ตลาดบองมาเช่ ปลายเดือนเมษายนนี้ และคิดเช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า เพื่อจำหน่ายด้วย
นอกจากนี้ แผนในอนาคต จะออกแบบสินค้าเกี่ยวกับของตบแต่งบ้านใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ โดยยึดหลัก ต้องไม่เหมือนใคร โดยนำสิ่งของใกล้ตัวมาประยุกต์เช่นเดิม อาทิ ผลงานล่าสุด เป็นโคมไฟที่ทำจากแจกันที่ทุบให้แตก หุ้มด้วยกระดาษฟอยล์ ด้านในประดับด้วยรูปปั้น คล้ายจำลองเหตุการณ์ไปขุดเจอโบราณวัตถุ เป็นต้น
******
=> คลิกเพื่อดูตัวอย่างสินค้าโคมไฟ “บ้านเพิร์ธ”
* * * * *
โทร. 0-9920-1232 , 0-2973-8906 หรือ www.perth-trading.com
