“ดอกไม้รังไหม” ตรา “NOOJEEN” (หนูจีน) หัตถกรรมชั้นเยี่ยมของกลุ่มประดิษฐ์ดอกไม้จากรังไหม บ้านหนองบัวพัฒนา ต.บัวลาย จ.นครราชสีมา เป็นสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้านแท้ๆ ด้วยการนำรังไหมเปล่าประโยชน์ในท้องถิ่น มาสร้างมูลค่าเพิ่ม กลายมาเป็นโอทอป 5 ดาวระดับประเทศ 2 ปีซ้อน และก้าวไปสู่ตลาดส่งออกต่างประเทศได้อย่างน่าชื่นชม
จุดเริ่มต้นของ “ดอกไม้รังไหม” นั้น “นางหนูจีน ศรีนัมมัง” ประธานกลุ่มฯ เล่าให้ฟังว่า เดิมในท้องถิ่นจะมีรังไหมที่ถูกทิ้งเปล่าประโยชน์ เนื่องจากเป็นรังไหมที่ตัดเอาดักแด้ออกไปขยายพันธุ์ กับรังไหมที่นำไปตีราคาเปอร์เซ็นต์รังไหม ถูกตัดเอาดักแด้ออก ทำให้เส้นใยขาด สาวเป็นเส้นไหมไม่ได้ ชาวบ้านที่มีอาชีพหลัก คือ การทำนา จึงใช้เวลาว่าง นำรังไหมเหลือทิ้งเหล่านั้น มาแปรรูปเป็นดอกไม้ประดิษฐ์
“เริ่มแรก มีสมาชิก แค่ 5-6 คน ช่วยกันคิดช่วยกันทำเองภายในกลุ่ม โดยจะใช้วิธีนำดอกไม้ธรรมชาติจริงๆ มาคลี่ดู แล้วค่อยๆ หัดทำตามให้เหมือนจริงที่สุด เป็นการเรียนจากธรรมชาติ ใช้แค่มือกับกรรไกรประดิษฐ์ ไม่มีเครื่องจักรเข้ามาช่วยเลย ช่วงแรกก็ทำได้ 2-3 แบบ ก็ลองไปขายที่งานวัด”
จากการออกตระเวนจำหน่ายตามงานต่างๆ ดอกไม้รังไหม ของบ้านหนองบัวพัฒนา จึงได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น ซึ่งหน่วยงานภาครัฐในจังหวัด มองเห็นความสามารถของกลุ่มชาวบ้านนี้ จึงเข้ามาสนับสนุน อาทิ ด้านการบริหารจัดการ , การบัญชี และเงินทุน เป็นต้น จนก่อตั้งเป็นกลุ่มอาชีพ เมื่อปี 2533 และได้พัฒนากลุ่มมาจนถึงปัจจุบัน
นางหนูจีน บอกว่า จุดเด่นที่ทำให้สินค้าเป็นที่โดนใจ มาจากความเหมือนจริง ใช้สีธรรมชาติในการย้อม อีกทั้งเป็นงานทำมือล้วนๆ การทำต้องใช้ผู้มีความชำนาญสูง เฉลี่ยต่อคนจะทำได้แค่ 2 ดอกต่อวันเท่านั้น ประกอบกับทางกลุ่มมีแนวคิดในการยกระดับศักยภาพของกลุ่มโดยตลอด เช่น พัฒนาบุคลากร มีการศึกษาดูงาน มีเครื่องหมายการค้าของกลุ่มเอง ใช้ว่า “NOOJEEN” (หนูจีน) พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งสีสัน รูปแบบ และบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น ทำให้นอกจากสินค้าจะมีความสวยงามแล้ว ยังมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ในการส่งออกตลาดต่างประเทศได้ด้วย
“ป้าพยายามบอกสมาชิกว่า เราจะอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องพยายามยกระดับสินค้า ทำให้เราพัฒนาสินค้า จนได้เครื่องหมาย มผช. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน) พร้อมทั้งจดเครื่องหมายการค้า และเข้าประกวดสินค้า และการออกแบบต่างๆ เสมอ จากความพยายามนี้ ทำให้ได้โอทอป ระดับ 5 ดาว 2 ปีซ้อน และปีนี้ ก็จะพัฒนารักษามาตรฐานไว้ต่อไป”
สำหรับช่องทางจัดจำหน่าย จะผ่านทางเว็บไซต์ www.thaitambon.com และมีหน้าร้านอยู่ที่บ้านหนองบัวพัฒนา จ.นครราชสีมา ส่วนในกรุงเทพฯ หาได้ที่ OTOP SHOP อาคารกรมส่งเสริมการส่งออก กับงานแสดงสินค้าโอทอปต่างๆ ด้านกลุ่มลูกค้าหลัก คือส่งออกต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น , สหรัฐฯ , ออสเตรเลีย , อังกฤษ และเยอรมนี เป็นต้น โดยส่งออกผ่านอินเตอร์เทรดเดอร์ รายได้รวมของกลุ่ม ประมาณกว่าหกหลักต่อเดือน ปัจจุบัน มีสมาชิก 35 คน กับเครือข่ายที่รับงานไปทำอีกกว่า 90 คน
เธอ อธิบายให้ฟังว่า วัตถุดิบรังไหม หาได้ใน จ.นครราชสีมา ขณะนี้ มีทั้งหมดว่า 60 แบบ ราคาจำหน่ายต่อดอก ส่ง 65 บาท ปลีก 70 บาท ถ้าจัดเป็นช่อก็จะมีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันบาท สินค้าที่ขายดีที่สุด คือ ดอกว่านแสงอาทิตย์ กับดอกไม้ที่จะใช้ประจำเทศกาลต่างๆ อาทิ ดอกมะลิ ในวันแม่ หรือดอกกุหลาบ สำหรับวันวาเลนไทน์ เป็นต้น => (คลิกดูตัวอย่างสินค้าดอกไม้รังไหมได้ทีนี่)
“รังไหม สามารถนำมาทำดอกไม้ได้ทุกชนิด แต่ก็มีข้อจำกัดจะทำได้เฉพาะดอกไม้ ที่เป็นดอกเล็กๆ แต่เรากำลังพัฒนาสินค้าต่อไป ด้วยการนำวิธีผลิตกระดาษสามาใช้ โดยจะนำเศษรังไหมไปต้มแล้วมารีดเป็นแผ่น เหมือนการทำกระดาษสา เพื่อใช้ทำเป็นใบไม้ แทนใบไม้ยางที่ใช้อยู่ ให้เป็นดอกไม้รังไหมจริงๆ ทั้งใบทั้งดอก อีกทั้ง จะใส่กลิ่นดอกไม้ให้เหมือนของจริงด้วย”
* * * * * *
=> คลิกดูตัวอย่างสินค้าดอกไม้รังไหมได้ทีนี่
โทร.044-495-109 , 0-9987-1394 หรือ www.thaitambon.com