xs
xsm
sm
md
lg

ย่ำ “ถนนสายไม้” สัมผัสเสน่ห์แห่งภูมิปัญญาไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นประจำทุกปี ซอยประชานฤมิตร จะมีงานระดมสุดยอดร้านค้าจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านทำด้วยไม้จากทั่วประเทศ มาออกร้านประชันสินค้าให้เลือกซื้อในราคาพิเศษ ภายใต้ชื่องาน “ถนนสายไม้” ซึ่งปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 7 แล้ว ในวันที่ 5 และ 6 มี.ค. ซึ่งบรรยากาศและสีสันภายในงาน “ผู้จัดการออนไลน์” ได้เก็บมาฝาก

เหตุผลที่ซอยนี้เป็นแหล่งรวมของเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีข้อมูลเล่าต่อกันมา แต่เดิมพื้นที่แถบบางโพ เป็นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำเจ้าพระยาเหมาะแก่การเพาะปลูก บริเวณนี้จึงขนัดไปด้วยสวนผลไม้ และมีชนต่างถิ่นหลายกลุ่ม ทั้งไทย จีน ญวน เข้ามาอาศัยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 โดยชาวจีน ส่วนหนึ่งย้ายจากย่านวัดสระเกศ สะพานขาว บางลำพู ได้นำอาชีพเกี่ยวกับการทำเฟอร์นิเจอร์ และงานฝีมือช่างไม้ติดตัวมาด้วย ประกอบกับพื้นที่ชุมชนอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นเส้นทางล่องแพซุง แพไม้ จากเหนือสู่เมืองกรุง อีกทั้งมีโรงเลื่อยตั้งอยู่รายตาบริเวณท่าน้ำ จึงเป็นธรรมดา เมื่อมีแหล่งวัตถุดิบ และไม้แปรรูปอยู่ใกล้ๆ ชาวชุมชนจึงยึดอาชีพแกะสลักไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ และกลายเป็นกลุ่มก้อนที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ย่านนี้จึงเป็นแหล่งรวมร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ และช่างไม้ฝีมือดีมากมาย

สำหรับที่มาของการจัดงานนี้ จากเมื่อก่อน ร้านค้าต่างคนก็ต่างทำ ไม่ได้มีการรวมกลุ่มจัดตั้งกันเป็นประชาคมแต่อย่างใด จนเมื่อปี 2541 ทางสำนักงานสวัสดิการสังคมและเขตบางซื่อเข้ามาให้การสนับสนุน จึงมีการรวมกลุ่มกันขึ้นเป็นกลุ่มประชาคมประชานฤมิตรและจัดทำซุ้มประตูทางเข้าถนนสายไม้โดยได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์สุดสาคร ชายเสม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านจิตรกรรม ประติมากรรมช่วยออกแบบให้ สุดท้ายจึงได้จัดงานถนนสายไม้ครั้งแรกขึ้นเมื่อวันที่ 30-31 มกราคม 2542

“ในปีแรกที่จัด ถือว่าประสบผลสำเร็จจนเกินคาดจริงๆ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ แม้ถนนสายนี้จะมีความยาวเพียงแค่ 1 กิโลเมตรกว่าๆ แต่ก็มีคนให้ความสนใจมาชมงานและซื้อสินค้ากลับไปอย่างล้นหลาม จึงทำให้ถนนสายนี้กลายเป็นที่รู้จักของคนกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งชาวต่างชาติ เป็นแหล่งที่มีสินค้าประเภทงานไม้มากและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จนกระทั่งทางกทม.นำเอาไปเป็นแม่แบบและจดทะเบียนเป็นงานประเพณีประจำกรุงเทพฯ คือถ้าเกิดในปีไหนที่ทางประชาคมฯไม่ได้จัดกทม.ก็จะลงมาจัดเอง” นายประสิทธิ์ สืบจากลา ประธานประชาคมประชานฤมิตร และเจ้าของร้านประสิทธิ์เฟอร์นิเจอร์และค้าไม้ กล่าว

ส่วนงบที่ใช้ในการจัดงานส่วนใหญ่ได้มาจากการเรี่ยไรจากสมาชิกประชาคมฯซึ่งก็แล้วแต่ศรัทธาของแต่ละคน และมีจากทางกทม.มาช่วยบ้าง หลังจากจัดงานไปแล้วทางประชาคมฯ ก็มีการจัดตั้งกองทุนที่ได้จากการจำหน่ายสินค้าซึ่งเป็นทุนกองกลางไว้สำหรับช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศที่เดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ ด้วย

“ในแต่ละปีเราจะมีการจัดบูทจำหน่ายสินค้าร่วมกัน ซึ่งคาดว่าในปีนี้ที่มีกำหนดการว่าจะจัดในปีนี้ จัดให้ยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา เน้นให้เป็นถนนสายไม้มากกว่าเดิมคือเท่าที่ผ่านมาจะมีการจำหน่ายสินค้าอย่างอื่นปะปนด้วยเนื่องจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกนี้ก็ไม่ได้ค้าไม้หมด แต่ครั้งนี้เราจะอนุโลมให้มีการเปิดร้านอย่างอื่นแค่ 10-15 % ทางด้านผู้ประกอบการแต่ละร้านเท่าที่สำรวจดูทุกคนมีความพึงพอใจมากกับการจัดงานนี้ ทำให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้น”

ทั้งนี้ งานจะจัดขึ้นเพียง 2 วันเท่านั้น ตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้า ถึงเที่ยงคืน นายประสิทธิ์ บอกว่า แม้จะอยากจัดมากกว่า 2 วัน แต่เนื่องจากซอยนี้ มีระยะทางยาว เข้าออกได้แค่ 2 ทาง หากจัดนานเกินไปจะส่งผลกระทบต่อการจราจร

สำหรับการเดินทางมาเที่ยวงาน "ถนนสายไม้" ในปีนี้ ค่อนข้างสะดวกกว่าที่เป็นมา เนื่องจากมีรถไฟฟ้าใต้ดินมาเป็นทางเลือกเพิ่ม โดยลงที่สถานีบางซื่อ ก็จะมีรถจากคณะจัดงาน รอบริการส่งถึงสถานที่ฟรี

หลังจากพาตัวเองแหวกฝูงชนเข้าซอยประชานฤมิตรด้านถนนประชาราษฎร์ เบื้องหลัง “ประตูหัวช้าง” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของซอย ตลอดความยาวกว่าหนึ่งกิโลเมตร ไปออกปากซอยอีกฟากตรงถนนกรุงเทพฯ – นนทบุรี ร้านค้ามากกว่า 300 ร้านตั้งแผงเรียงรายเต็มพรึ่ดสองฟาก โดยปกติในซอยนี้ ก็จะมีร้านค้ากว่า 200 ร้าน ซึ่งในจำนวนนี้มีอาชีพค้าไม้ถึงกว่า 170 หลังคาเลยทีเดียว และถึงวันมีงานเช่นนี้ ยิ่งหายห่วง สินค้าไม้จากแหล่งอื่นๆ จะมาร่วมรอให้เลือกชอปมากมายจนลายตา ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ ราคาหลักแสน จนกระทั่งของตกแต่งบ้านราคาไม่กี่บาท

ด้านรูปแบบสินค้าไม้ในงานก็มีทั้งแบบทันสมัย ประยุกต์ให้เป็นสากล และแบบอนุรักษ์ดั่งเดิมทำด้วยแฮนด์เมดล้วนๆ หลายร้านหอบสินค้ามาจากต่างจังหวัดเพื่อจะขายงานนี้โดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น กลุ่มพุทธศิลปะแกะสลักไม้ จากจังหวัดเชียงใหม่ เล่าให้ฟังว่า โดยปกติจะขายไม้แกะสลักชิ้นเล็กๆ อยู่ในย่านไนท์บาร์ซ่า แต่ไม้สักแกะสลักชิ้นใหญ่ที่นำมาขายนี้ เป็นงานประณีตบรรจง ช่างแต่ละคนใช้เวลาทำกันเป็นปีๆ รอมาขายที่นี้ครั้งเดียว ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ ถ้าไม่มีคนซื้อก็ต้องเก็บกลับ รอจนปีหน้าจึงนำมาวางขายอีก

เสน่ห์อีกประการ ซึ่งคงจะหาไม่ได้จากงานแฟร์ใดๆ ในโลก เนื่องจากซอยแคบและยาวกว่ากิโลเมตร รถห้องน้ำจึงจอดให้บริการได้แค่จุดเข้าและออก ถ้าเดินอยู่กลางซอยจะวิ่งออกมาคงไม่ทัน ทุกร้านในซอยนฤมิตร จึงพร้อมใจเปิดห้องน้ำให้ผู้มาชมใช้บริการ ความอบอุ่นเอื้ออาทรเช่นนี้ จะหาได้จากงานนี้แห่งเดียว

ผู้จัดงานยังกระตุ้นคนให้สนุกกับการจับจ่ายมากขึ้น ด้วยการจัดช่วง “นาทีทอง” เลือกซื้อสินค้าในราคาถูกพิเศษ ระหว่างสิบเอ็ดโมงถึงเที่ยง และ ในช่วงบ่ายสามถึงบ่ายสี่ ที่แรงกายเริ่มล้าเพราะอากาศร้อน และกำลังเงินเริ่มถดถอย เพราะจ่ายมาตั้งแต่เช้า ซึ่งแผนนี้ก็ได้ผลจริงๆ คนสนองศรัทธาอุดหนุนไม่ขาดสาย แม้ว่าต้องแลกกับเหงื่อไหลไคลย้อยกันสักนิดก็ตาม

ในส่วนกิจกรรมอื่นๆ ด้านประตูเข้าทั้งสองทาง จัดเวทีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย โดยกลุ่มเยาวชนในเขตบางซื่อ นอกจากนั้น ยังมีการประกวดแกะสลักไม้ ซึ่งรวบรวมสุดยอดช่างกว่า 20 คนจากทั่วประเทศมาเข้าประลอง และหากใครกำลังอยากเล็งหาอาชีพเสริม ก็มีฝึกอบรมระยะสั้นคอยบริการ

นอกจากงานถนนสายไม้ จะเปิดเป็นเวทีซื้อขายสินค้าแล้ว ผู้มาชมงานหลายคน ยังมาเปิดไอเดีย และมองหาลู่ทางประกอบอาชีพใหม่ๆ หลายรายได้คู่ค้าทางธุรกิจ และจากผลสำเร็จตลอด 6 ปีที่ผ่านมา รวมถึงปีนี้ความสำเร็จก็ไม่ได้ลดลง เชื่อแน่ว่าซอยประชานฤมิตร และงานถนนสายไม้ จะคงเป็นอีกหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจพื้นฐานของชาติไทยไปอีกนานเท่านาน









กำลังโหลดความคิดเห็น