คนไทยรู้จักน้องอร อรอนงค์ (ปัญญาวงศ์) อายะกุล จากการเป็นนางสาวไทย ที่ใช้ความสามารถด้านการร่ายรำ เอาชนะใจคณะกรรมการจนได้ครองตำแหน่ง และเป็นสาวเหนือที่อ่อนหวานงดงามแบบไทย เธอเรียนนาฏศิลป์มาตั้งแต่วัยเยาว์ จนจบปริญญาตรีจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขานาฎยศิลป์ไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมีใจรักศิลปะการร่ายรำของไทยอยู่ไม่มีเปลี่ยน การเปิดโรงเรียนสอนนาฏศิลป์จึงเป็นเหมือนความฝันอย่างหนึ่ง แม้จะเริ่มต้นทำธุรกิจจากร้านอาหารและร้านเบเกอรี่ แต่เมื่อพร้อม สถาบันนาฏศิลป์อรอนงค์ จึงเปิดตัวขึ้น
“กิจการนี้เริ่มต้นทำก่อนร้านอาหารบ้านน้องอรนะคะ โดยเริ่มจากการสอนอย่างไม่เป็นทางการที่บ้าน ซึ่งอยู่ใกล้ตึกที่ทำร้านอาหาร เฉพาะในวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะตอนนั้นตึกยังไม่พร้อม ก็เลยเปิดเป็นร้านอาหารไปก่อน ส่วนร้านอาหารตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นไปออกบูธตามงานต่างๆ หรือรับจัดนอกสถานที่แทน หน้าร้านจะไม่มีแล้ว”
“ถ้าเปรียบเทียบกับร้านอาหาร สถาบันนาฏศิลป์นี้ก็เป็นสิ่งที่ตรงกับตัวเองมากกว่า เป็นงานที่รักและถนัดมากกว่า”
สอดแทรกมารยาทไทย พร้อมการร่ายรำ
การเรียนการสอนขณะนี้มีนักเรียนอยู่ประมาณ 20 กว่าคน และยังเปิดรับสมัครอยู่เรื่อยๆ โดยการสอน อรอนงค์ก็จะสอนเองด้วย และมีคุณครูผู้ช่วยอีกสองคน ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะทั้งทางด้านร่างกาย และอารมณ์ พร้อมกับการสอดแทรกเรื่องมารยาทไทย การกราบไหว้ การแสดงความเคารพนบนอบต่อผู้ใหญ่ ไปพร้อมกับการสอนรำ
“เราอยากให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม ดนตรี มารยาทไทย และเข้าถึงความงดงามอ่อนช้อยแบบไทย และสืบสานวัฒนธรรมอันดีนี้ไว้สู่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปในอนาคต”
หลักสูตรหลากหลาย เสริมบุคลิกภาพเด็กไทย
หลักสูตรการสอนของสถาบันนาฏศิลป์อรอนงค์ จะเริ่มต้นตั้งแต่ หลักสูตรการตั้งไข่ร่ายรำ สำหรับเด็กอายุ 3 ขวบครึ่ง ถึง 5 ขวบ ซึ่งมี 6 ระดับชั้น, หลักสูตรจดจำกระบวนท่า ซึ่งมีทั้งหมด 4 ระดับชั้น, หลักสูตรสักวาเป็นเพลง เป็นหลักสูตรสอนรำสำหรับสมาชิก โดยเน้นสอนรำเป็นเพลงๆ, หลักสูตรบรรเลงเส้นสาย เป็นการสอนดนตรีไทย เช่น ขิม, ระนาด, จะเข้, ซอ ฯลฯ, หลักสูตรระบายความสวย เป็นการสอนแต่งหน้าในโอกาสต่างๆ เพื่อเสริมบุคลิกภาพให้ดูโดดเด่น และหลักสูตรช่วยสอนน้องรำ สำหรับผู้ต้องการสอบเรียนต่อระดับอุดมศึกษา โดยเราจะรับเด็กอายุตั้งแต่ 3 ขวบครึ่งขึ้นไป
“นอกจากการรำแล้ว เด็กๆ จะได้อย่างอื่นจากการเรียนรำด้วย เช่น ช่วยสร้างสมดุลการทรงตัว กระชับกล้ามเนื้อให้แข็งแรง มีการฝึกสมาธิ ช่วยให้อารมณ์ดี จิตใจอ่อนโยน ฝึกการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ฝึกประสาทสัมผัสให้ทำงานประสานและเกี่ยวเนื่องกัน และฝึกการฟังจังหวะ ซึ่งช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง กระตุ้นสมองทั้งสองด้าน”
เตรียมเปิดตัวเป็นทางการต้นปีหน้า
“เรื่องการตลาดตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการทำแผนประชาสัมพันธ์ แต่ก็มีฝากข่าวกับพี่ๆ นักข่าวบ้าง แล้วก็มีลงโฆษณาในหนังสือด้วย โดยตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีนักเรียนประมาณ 60 คน ก่อนที่สถาบันจะเปิดอย่างเป็นทางการประมาณเดือนมกราคมปีหน้า หลังจากนั้นแล้วก็คาดว่าจะเพิ่มเป็น 100-150 คน”
“ถ้ารับนักเรียนได้มากขึ้น เราก็จะรับครูเพิ่มด้วย เพราะจะได้ดูแลเด็กได้ทั่วถึง โดยแบ่งเป็นครูสองคนต่อเด็กหนึ่งห้องเรียน”
แต่เรื่องอนาคตการขยายกิจการนั้น ยังไม่คิดในตอนนี้
“อยากทำสาขานี้ให้แข็งแรงก่อนนะค่ะ แต่เรื่องเปิดสาขาก็สนใจ ซึ่งคงต้องดูๆ ไปก่อน”
นอกจากจะเป็นสถาบันการเรียนการสอนแล้ว หากผู้ใดสนใจจะนำเด็กตัวน้อยจากสถาบันนี้ออกไปแสดงตามงานต่างๆ ก็สามารถติดต่อได้เช่นกันที่ สถาบันนาฏศิลป์อรอนงค์ ถ.เทศบาลนิมิตรเหนือ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร โทร. 0-2954-2399, 0-5099-5515 และ 0-7908-5588