เสื้อผ้า ถือเป็นหนึ่งในสี่ปัจจัยของการดำรงชีวิตทุกวันนี้ และสำคัญยิ่งในการใช้ชีวิตของคนทุกยุคทุกสมัย แต่ถ้ามองในแง่ของธุรกิจ หรือเจ้าของ การจะขายเสื้อผ้าไม่ใช่เรื่องง่าย และการดิ้นรนเป็นเถ้าแก่ร้านเสื้อผ้า ก็เป็นเรื่องยากเช่นกัน ถ้าจะไปให้ถึงดวงดาว แต่เจ้าของธุรกิจ “เสื้อยืดโปลิศ (Police)”เขาสามารถทำได้ คว้าชัยมาแล้ว และเคยร่วงสู่ดินมาแล้วเช่นกัน
นายพิสุทธิ์ เมธากิจวรุณ กล่าวถึงเส้นทางการต้องต่อสู้ดิ้นรน กว่าจะได้เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท คูโรโบ จำกัด หรือ เจ้าของร้านเสื้อตราโปลิส ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักว่า ชีวิตในวัยเด็กรับจ้างทำงานทุกอย่างอย่างไม่เกี่ยงงาน จนเปลี่ยนอาชีพเป็นเด็กขายของหน้าร้านขายเสื้อผ้า จนกระทั่งคิดที่จะขายผ้าเอง โดยนำตัวอย่างผ้าไปเสนอให้กับร้านค้า ซึ่งการออกมาทำธุรกิจด้วยตนเอง ทำให้พิสุทธิ์ได้รับบทเรียนหลายอย่าง ที่ทั้งสุข และทุกข์ ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี แต่ละครฉากนี้ก็ต้องจบลงชั่วคราว เพราะเขาถูกลูกน้องเล่นไม่ซื่อ โกงเงินเขาไปไม่น้อย จนเขาต้องตามชำระหนี้สินแทบหมดแรง
“เมื่อปี 2525 ผมเองเริ่มหาทางออกด้วยการเปิดร้านเองโดยใช้ชื่อใหม่ แบรนด์ คูโรโบ (BRAND KUROBO) เปิดอยู่ชั้น 3 สยามเซ็นเตอร์ โดยขอเช่าสิทธิ์ห้องจากนิวซิตี้ การใช้ชื่อคูโรโบ แปลว่าเด็กดำ ซึ่งลูกชายผมเกิดมาผิวดำ ส่วนชื่อเอามาจากฮ่องกง ตอนที่ผมไปดูแฟชั่นที่นั่น ซึ่งแบรนด์นี้อยู่ที่ฮ่องกงไม่ดังมากนัก เพราะเขาขายเสื้อผ้าเด็กเท่านั้น พอผมนำ BRAND KUROBO มาขายปรากฏว่าขายดี เปิดที่สยามชั้น 3 อยู่ 1 ปี ก็ถอนเสื้อ BABY SHOP ตามห้างออก และ ได้ปิดสาขาสุขุมวิทและสาขามักกะสัน โดยร้านทั้ง 2 สาขา เป็นร้านรับสั่งตัดและขายสำเร็จรูป การค้าตอนนั้นไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงตัดสินใจปิดทั้ง 2 สาขา โดยหันมาเปิด BRAND KUROBO ที่สยามเซ็นเตอร์แห่งเดียว"
แจ้งเกิด BRAND POLICE
หลังจากเปิดที่สยามเซ็นเตอร์ได้ 2 ปี เขาได้ขยายเปิด แบรนด์ โปลิส (BRAND POLICE) ที่ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์ ซึ่ง BRAND POLICE ได้รับความนิยมเช่นกัน ส่วนชื่อ BRAND POLICE นั้น มาจากลูกชายชอบเล่นรถ POLICE มาก เขาจึงได้ไอเดีย BRAND POLICE มาใช้ ส่วนสัญลักษณ์รูปคนหลายคนมาจากฮ่องกง ในสมัยนั้นหลายคนคงคุ้นหูชื่อของเสื้อโปลิส
ปิดฉากเสื้อ 3 แบรนด์ดัง
ในช่วงปี 2535-2536 แบรนด์เสื้อผ้าจากต่างประเทศเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ประกอบกับพิสุทธิ์คิดว่าเขาถึงจุดอิ่มตัวในอาชีพนี้แล้ว เขาจึงตัดสินใจเลิกทำธุรกิจเสื้อผ้า ซึ่งก่อนเลิกเสื้อผ้าทั้ง 3 BRAND เขาได้ขายสิทธิ์ห้องให้กับห้องเสื้อ JASPAL ซึ่งปัจจุบันเป็นร้าน CHAPS และ SISLEY หลังจากนั้นจึงทำการขอบคุณลูกค้า โดยขายสินค้าลดราคาพิเศษ ได้นำผ้า เสื้อ กางเกง และ สินค้าที่มีอยู่ในสต็อกมาขาย และขาย BRAND KEN FOLLETT พร้อมกับโอนทีมงานกลับตามความต้องการของเจ้าของเดิม
ฟื้นฟูธุรกิจเสื้อผ้าอีกครั้ง
เขากลับมาในแวดวงธุรกิจเสื้อผ้าอีกครั้ง ในปี 2543 ใน แบรนด์ โปลิส เพียงชื่อเดียว และบุกเบิกการขายจนเริ่มทำกำไรได้ดี จึงขยายเปิดเป็นมินิช้อป และออกบูธแสดงสินค้า เช่น ที่เมืองทองธานี ศูนย์ประชุม ไบเทค ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเป็นการโปรโมทสินค้าให้เป็นที่รู้กันว่า เสื้อโปลิส กลับมาแล้ว นับแต่นั้นเสื้อผ้า แบรนด์ โปลิส จึงถูกปลุกฟื้นคืนชีพอีกหน จนได้รับรางวัลแห่งความสำเร็จ VIP INTERNATIONAL ASIA AWARD 1989 ด้านผลิตภัณฑ์ดีเด่น
ปัจจุบันเสื้อ แบรนด์ โปลิส มีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป และมีช้อปเล็ก ๆ ขนาด 20 ตารางเมตร ร่วม 20 แห่ง มีระบบฝากขาย เพื่อป้องกันการเสี่ยงจากภาวะขาดทุนด้วย นอกจากนี้การขยายตัวในระบบ แฟรนไชส์ก็น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว มาถึงวันนี้เสื้อโปลิสมีแฟรนไชส์ซีกว่า 10 สาขาแล้ว
***ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ 0-2213-2711-5***