“กพล ทองพลับ” หรือ “DJ.ป๋อง” ชื่อนี้กลายเป็นโลโก้ สำหรับเรื่องเกี่ยวกับภูตผี ปีศาจ และสิ่งลี้ลับต่างๆ ไปเสียแล้ว ซึ่งงานที่แล้วมาของเขาก็ล้วนแต่วนเวียนอยู่ในสายนี้ทั้งสิ้น และเมื่อไม่นานมานี้ ดีเจคนดังได้เปิดร้านอาหารใหม่ ยึดคอนเซ็ปท์ขนหัวลุกไม่เปลี่ยนแปลง ในนามของ “THE SHOCK ข้าวต้มผี”
ก่อนหน้านี้ ดีเจป๋อง เคยเปิดผับ “เดอะ ช็อก” (THE SHOCK) หลังสวนจตุจักร ต่อมาเปลี่ยนชื่อร้าน และโอนให้น้องเป็นคนดูแลต่อ ส่วนเดอะ ช็อก ย้ายไปเปิดที่ พหลโยธิน ซ.12 แต่เนื่องจากทำเลไม่ดี ประกอบกับหมดสัญญา จึงเปลี่ยนมาอยู่บริเวณริมถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ดังเช่นทุกวันนี้
แต่ทั้งนี้ เริ่มแรกเปิดเป็นสวนอาหาร โดยให้น้องชายดูแล แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนดีเจป๋อง ต้องโดดเข้ามาดูแลเอง โดยปรับโฉมรูปแบบเสียใหม่ ใช้ชื่อว่า “THE SHOCK ข้าวต้มผี” ซึ่งเป็นร้านที่มีจุดเด่นด้วยการรวมเรื่องเกี่ยวกับผีไว้ด้วยกัน
“เหตุที่เลือกทำเป็นร้านข้าวต้ม เพราะถนนเส้นนี้ ยังไม่มีร้านข้าวต้มเลย เราต้องการความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร และร้านข้าวต้ม มีความเหมือนกับ “เดอะ ช็อก” นึกถึงเวลาไปงานศพ ก็จะมีการเสริมด้วยข้าวต้ม กระเพาะปลา”
“ก็คิดว่า รายการเดอะ ช็อก น่าจะเหมาะดีกับร้านข้าวต้ม แต่เป็นร้านข้าวต้มที่มีคอนเซ็ปท์แบบผีๆ เพราะผู้จัด และทีมงานที่ดูแลร้านนี้ ก็ทำรายการเกี่ยวกับผี โดยอยากได้ร้านข้าวต้มที่ไม่ใช่ตึกแถว ไม่จำเป็นต้องมีตู้กระจกโชว์เป็ดพะโล้ หมูกรอบ และก็ไม่ใช่สวนอาหารไม่ใช่ภัตตาคาร อยากให้ ‘เดอะ ช็อก ข้าวต้มผี’ เป็นจุดที่อยู่ตรงกลางระหว่างร้านข้าวต้มทั่วไป กับสวนอาหาร”
ส่วนชื่อร้าน “ข้าวต้มผี” มาจาก ข้าวต้มของทีมงานผู้จัดรายการเกี่ยวกับผี นอกจากนั้นคำว่า “ข้าวต้มกุ๊ย” ก็หมายถึง “ข้าวต้มผี” เพราะคำว่า “กุ๊ย” ภาษาจีนแปลว่า “ผี”
“SHOCK GALLERY” พิพิธภัณฑ์ความสยอง
เมื่อได้แนวทางหลักแล้ว เริ่มต้นสร้างความน่าสนใจให้แก่ร้าน ตั้งแต่ทาสีใหม่ เน้นสีแดง กับดำ เพื่อความร้อนแรง ดูแล้วน่าสนใจ และสร้างห้อง “SHOCK GALLERY” รวบรวมภาพเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ เช่น ภาพผี ภาพแปลกๆ จากทั่วทุกมุมโลกไว้ ซึ่งภาพดังกล่าวนำมาจากการสะสมของตัวเอง และจากแม็กกาซีนไทยและตปท. รวมทั้งจากเว็บไซด์ต่างๆ
ดีเจเจ้าตำรับสยองขวัญ อธิบายว่า คอนเซ็ปท์ห้องนี้ อยากได้ห้องที่ดูหรูหรา ความรู้สึกเหมือนเข้าไปในโรงหนัง มีความน่าเชื่อถือ เป็นทางการ โดยมีข้อกำหนดเหมือนพิพิธภัณฑ์ เช่น ห้ามนำอาหาร และเครื่องดื่มเข้าไปทาน ห้ามถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต สำหรับผู้ที่จะเข้าชม หากไม่ใช่แขกของทางร้าน จะต้องหยอดเงินบริจาคเพื่อการกุศล
เมนูโหด – มัน - ฮา
ทีมงานเดอะชอก ยังเติมสีสัน ด้วยการคิดค้นเมนูแปลกๆ ไม่เหมือนใคร พรัอมกับตั้งชื่อสไตล์ผีๆ เสิร์ฟในภาชนะหลุดโลก เพื่อเรียกความสนใจจากลูกค้า เช่น เมนู “โลงแตก” เป็นอาหารทะเล ชุบแป้งทอด ราดน้ำจิ้ม ด้านอาหารอาจธรรมดา แต่ใส่ลูกซ่าด้วยการเสิร์ฟในภาชนะคล้าย “โลงจำปา”
“ผมอยากได้ภาชนะที่เป็นไม้ไผ่ มีฐานไม้รอง เหมือนเป็นโลงศพ แต่หายากมาก บังเอิญ ทีมงาน ไปเจอที่สวนจตุจักร ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าจริงๆ เขาไว้ใส่อะไร ผมก็ไปสั่งทางร้าน ขอให้ทำฝาปิดเพิ่ม เพื่อให้เหมือนโลงศพ ต้องแรกๆ อาจดูไม่เหมือน แต่พอทำฝาปิด โอ้โห! นี่มันเป็นโลงจำปาเลย”
เท่านั้นยังไม่พอ ข้าวต้มก็ใส่ในหม้อดิน สื่อถึงหม้อแม่นาค ส่วนน้ำแข็ง แทนที่จะใส่ภาชนะทั่วไป ก็มาในพานดอกไม้ ที่ใช้สำหรับงานศพ ส่วนชื่ออาหารต่างๆ ก็แสบไม่แพ้กัน อาทิ ไก่ห่อนรก , มัมมี่แห่งอิยิปต์ , ไส้กระสือทอดกระเทียม , จานเด็ดปอบหยิบ และหม้อไฟประลัยกัลป์ เป็นต้น
“เมนูอาหารพวกเราก็คิดเอง บางตัวก็ใช้การผสมผสานขึ้น แล้วคิดมุขใส่เข้าไป เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปท์ร้าน ซึ่งผมต้องการให้ลูกค้า ถามอยู่แล้วว่า มันคืออะไร เพื่อให้รู้สึกเป็นกันเอง”
ลงทุนกว่า 5 ล. เปิด 3 ด. แฟนตรึม!
ดีเจป๋อง เปิดเผยอีกว่า ร้านข้าวต้มผี เปิดมาแล้ว 3 เดือน ใช้เงินลงทุน ค่าสถานที่ ค่าตบแต่ง รวมแล้วกว่า 4 - 5ล้านบาท ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นแฟนประจำของรายการวิทยุ ราคาอาหารถือว่าทั่วไป แต่ถ้าเทียบกับร้านอื่นๆ บนถนนสายนี้ เดอะช็อตฯ ถูกที่สุด ด้านการตอบรับของลูกค้าตั้งแต่เปิดมา 3 เดือน ถือว่าดี รายได้เฉลี่ย ตกวันละ 10,000 – 20,000 บาท แต่รายได้นี้ จะต้องหารเป็นค่าใช้จ่ายทั้งภายในร้านแล้ว และส่วนของค่าเช่าสถานีวิทยุด้วย
แต่ทั้งนี้ ร้านมีขนาดแค่ 300 ตร.ม. บางครั้งโต๊ะไม่พอกับลูกค้า ส่วนตัวก็รู้สึกผิดที่ไม่สามารถรองรับแขกได้ทุกคน แต่คิดว่า ถ้ารักกันจริง วันนี้ มาแล้วโต๊ะเต็ม วันหลังว่างๆ ค่อยมาใหม่ก็ได้ เพราะกังวลว่า ถ้าลูกค้ามากันเยอะ แต่ต้อนรับไม่ถ้วนถึง จะรู้สึกผิดยิ่งกว่า สู้ทำแบบพอเพียง ทำเท่าที่ทำได้ดีกว่า นอกเสียจากวันข้างหน้า บริเวณนี้ อาจให้เช่าพื้นที่ ค่อยว่ากันทีหลัง
“เงินที่ลงไป 4-5 ล้าน ผมไม่ได้ซีเรียส ว่าต้องคุ้มทุนหรือเปล่า จริงๆ เราอยากมีสถานที่หนึ่ง เป็นการรวมพลแฟนรายการ เป็นที่ทำงานด้วย และเปิดร้านอาหารด้วย วางไว้เล่นๆ ว่า 3 ปี อาจคุ้มทุน แต่ไม่ถึงก็ช่างมัน เพราะอย่างน้อยๆ เราก็ที่ไว้พบปะพูดคุยกันระหว่างเรากับแฟนรายการ และเมื่อได้เจอกัน มันก็จะเกิดการเล่าประสบการณ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลใหม่ๆ ขึ้น เพื่อนำไปใช้รายการวิทยุด้วย”
กิจกรรมในหมู่ครอบครัว “เดอะ ช็อก”
ด้านการบริหารร้านนั้น ดีเจป๋อง บอกว่า จะเป็นคนให้แนวความคิด ส่วนการดูแลภายในร้านเป็นหน้าที่ของทีมงานจากร้านเดอะช็อก ที่ติดตามกันมา แต่ส่วนตัว ถ้าไม่ติดงานนอก ก็จะเข้ามาร้านทุกวัน เพราะใช้เป็นออฟฟิสประชุมงาน สำหรับรายการวิทยุด้วย
ทั้งนี้ ภายในร้านจะการจัดกิจกรรมโปรโมชั่นแบบเล็กๆ ทำกันแบบครอบครัวเดอะช็อก เช่น ทานครบ 500 บาทได้แสตมป์ 1ดวง ครบ 10 ดวง ได้เสื้อ “เดอะช็อก” ถ้ามาฉลองวันเกิด จะมีตุ๊กตาซาตานมอบให้ นอกจากนั้น มีการเล่นเกมภายในร้าน ถ้าเป็นรอบการกุศลจะนำเงินไปช่วยบริจากการกุศล ถ้าเป็นรอบสนุกสนานก็จะมอบคูปองส่วนลดใช้ได้เฉพาะวันพระ เป็นต้น ซึ่งถ้าทางร้านจะมีกิจกรรมใดๆ ก็โปรโมท ผ่านทางรายการวิทยุ ให้แฟนๆ มารวมตัวกัน
ป๋อง กพล เผยอีกว่า ปัญหาของร้านทุกวันนี้ คือ ทำอาหารไม่ทันต่อความต้องลูกค้า เพราะครัวเล็ก พยายามแก้โดยเพิ่มบุคลากร และขยายครัว ส่วนโครงการในอนาคต อาจจะเป็นเปิดสาขาใหม่ ให้น้องๆ ทีมงานไปดูแล โดยคงคอนเซ็ปท์แบบร้านนี้ไว้
ยืดอกยอมรับหากินกับผี
ส่วนกรณี นำความเชื่อเรื่องภูตผี มาขาย มีผลกระทบกับการถือโชคลางของลูกค้าหรือไม่ ดีเจป๋อง ชี้แจงเรื่องนี้อย่างเปิดอก
“ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะมีปัญหา แต่ผมทำตรงนี้ จนเป็นสัญลักษณ์ บางคนอาจจะว่า นำเรื่องผีมาหากินหรือเปล่า ก็ยอมรับว่า เรามาถึงทุกวันนี้ได้ ก็เป็นเพราะพี่ๆ เหล่านี้ ซึ่งถือว่าผีสางนางไม้ เป็นผู้มีบุญคุณต่อเรา ผมก็ระลึก และขอบคุณเขา ส่วนลูกค้าที่มากินก็ไม่ได้ถือว่า กินอาหารจากโลงศพ แต่กลับชอบ เพราะลูกค้าก็เป็นแฟนรายการโดยตรงของเราอยู่แล้ว และปัจจุบันนี้ ธุรกิจที่จะอยู่ได้มันต้องมีคอนเซ็ปท์ ต้องมีจุดขายที่ชัดเจน ถ้าทำอะไรที่เหมือนกับคนอื่น ก็ไม่มีประโยชน์ โลกทุกวันนี้มันพัฒนาไปไกลมาก เรามองว่า ทำอะไรก็ได้ ให้ไม่เหมือนชาวบ้าน ผลรับมีสองอย่าง ถ้ารับได้ก็ “เกิด” ถ้ารับไม่ได้ก็ “ดับ” ฉะนั้น เราเลือกที่จะเสี่ยง กับการทำแบบนี้ เกิดมาทั้งที มันน่าจะมีอะไรแตกต่างกับเขาบ้าง”
* * * “THE SHOCK ข้าวต้มผี” ตั้งอยู่ที่ริมถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ โทร. 02-970 - 3738 * * *