“บ้านทรงไทยประกอบ” ของฝากตรงใจง่ายและสะดวก

จากแนวคิดอยากทำสินค้าที่ระลึกขายแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ นำมาสู่ผลงาน“ชุดบ้านทรงไทยประกอบ” ผลิตภัณฑ์จากไอเดียของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ สร้างจุดเด่นจากแนวคิดคำนึงถึงความสะดวกของนักท่องเที่ยวในการพกพากลับ และง่ายเมื่อประกอบเอง โดยกว่าสินค้าดังกล่าวจะสำเร็จออกมา ต้องผ่านการพัฒนาปรับปรุงแบบ และทดลองตลาดกว่าครึ่งปีทีเดียว

โสภา คีรีวงค์ และวิโรจน์ สุวรกุล คือ เจ้าของไอเดียบ้านทรงไทยประกอบดังกล่าว โสภา เล่าว่า เหตุที่คิดจะทำสินค้าที่ระลึกเพราะเห็นว่า แม้ช่วงที่ประเทศไทย ประสบวิกฤตเศรษฐกิจ ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวก็ยังสามารถอยู่รอดได้ การเลือกลงทุนในธุรกิจกลุ่มนี้ เท่ากับเป็นการลดความเสี่ยง

“ความคิดแรก ต้องการทำสินค้าของที่ระลึกสำหรับขายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็เลยคิดว่า ควรเป็นอะไรที่สื่อถึงความเป็นไทย ในที่สุดก็มาลงตัวที่บ้านทรงไทยไม้ แต่ถ้าจะทำเป็นสำเร็จรูป ก็จะไม่มีจุดเด่น หรือความต่างจากที่มีอยู่ในท้องตลาดทุกวันนี้ เลยย้อนคิดถึงเวลาเราไปเที่ยวที่ต่างๆ เห็นของที่ระลึกบางอย่าง แล้วอยากได้มาก แต่สินค้าขนาดใหญ่ ไม่สะดวกในการพกพากลับมา ก็เกิดความคิดว่า ถ้าทำบ้านทรงไทยเป็นชุดต่อประกอบก็จะตัดปัญหานี้ไปได้ ซึ่งการออกแบบ นอกจากสวยงามแล้ว ต้องให้ประกอบได้ง่าย แม้แต่เด็กตัวเล็กๆ ก็เล่นได้ คอนเซ็ปท์ของเราก็ เลยวางไว้ว่า ต้องให้พกพาสะดวก และต่อง่าย” โสภา อธิบายถึงที่มาของแนวคิด

วิโรจน์ เสริมถึงขั้นตอนการออกแบบว่า ศึกษาด้วยตัวเอง จากหนังสือเกี่ยวกับบ้านทรงไทยต่างๆ โดยเลือกจะทำเป็นบ้านทรงไทยภาคกลาง เพราะคนทั่วไปคุ้นเคยดีอยู่แล้ว หลังจากนั้น เขียนแบบด้วยคอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป ก่อนนำเข้าเครื่องจักร ทำตัวต้นแบบ แต่ก่อนที่จะวางขายจริงจัง ได้ทดลองตลาดด้วยการ ฝากวางโชว์ตามร้านสินค้าที่ระลึก และออกบูทตามงานแฟร์โอทอปต่างๆ ซึ่งเสียงสะท้อนที่ได้กลับมา จะนำมาพัฒนาดัดแปลงสินค้า ซึ่งกว่าจะมาถึงแบบที่ลงตัวใช้เวลาพัฒนาประมาณครึ่งปี ใช้งานลงทุนไปแล้วกว่า 5 แสนบาท ทั้งนี้ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงานสินค้าโอทอปเขตคันนายาว ที่สวนจตุจักร เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมานี่เอง

โสภา อธิบายว่า บ้านทรงไทยประกอบ ทำจากไม้สักร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นแบบบ้านเรือนเดี่ยว ภาคกลาง มี 2 ขนาด เล็กราคา 390 บาท และใหญ่ราคา 490 บาท การต่อประกอบใช้วิธีเข้าล็อกคล้ายต่อภาพจิกซอว์ ภายในของทุกกล่อง จะมีแผ่นพับคำอธิบายแนบไว้ด้วย นอกจากนั้น ถ้าซื้อมากกว่า 1 หลัง สามารถประยุกต์นำมาต่อประกอบให้เป็นเรือนหมู่ได้อีกด้วย

ส่วนแผนการตลาดนั้น เธอ กล่าวว่า กำลังจะสร้างแบรนด์ของตัวเองเร็วๆ นี้ แต่ยังหาชื่อที่ลงตัวไม่ได้ นอกจากนั้น ได้จดทะเบียนเป็นสินค้าโอทอปของเขตคันนายาวแล้ว ภายใต้ชื่อกลุ่ม “บ้านไผ่คันนายาว” และยังได้ส่งเข้าประกวดสุดยอดผลิตภัณฑ์โอทอปประจำปีนี้อีกด้วย เชื่อว่าถ้าได้รับการพิจารณา จะเป็นส่วนเสริมด้านการตลาดอีกทางหนึ่ง

“ปัญหาของเราตอนนี้ คือ ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่ คิดว่าต่อยาก เพราะดูภายนอกงานจะดูละเอียดมาก ทั้งที่ความเป็นจริง ชุดต่อเป็นแบบกึ่งสำเร็จรูปอยู่แล้ว แม้แต่เด็กเล็กๆ ดูรูปตามแผ่นพับยังสามารถทำได้เลย แต่ผู้ใหญ่กลัว เวลาไปออกบูท ต้องใช้เวลาอธิบายนานมาก”

สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก นอกเหนือกลุ่มนักท่องเที่ยวแล้ว โสภา ยังพยายามเปิดตลาดเข้าถึงกลุ่มนักศึกษา เพราะเชื่อว่า คนรุ่นใหม่มีทัศนคติเปิดรับสินค้าแปลกใหม่มีดีไซน์ได้มากกว่า อีกทั้ง ทุกวันนี้ เด็กวัยรุ่น สนใจและทุ่มเทกับการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ และการเที่ยวเตร่ แต่ถ้าให้เขาหันมาสนใจเล่นต่อบ้านทรงไทย ก็จะมีส่วนเสริมให้คนรุ่นใหม่ย้อนกลับมาสนใจวัฒนธรรมไทย รวมทั้งช่วยเพิ่มสมาธิ และให้เขามีกิจกรรมเพลิดเพลินขณะอยู่ที่ได้บ้านได้ด้วย

ทุกวันนี้ บ้านทรงไทยประกอบ ยังไม่มีขายหน้าร้านแต่อย่างใด ผู้สนใจต้องสั่งซื้อโดยตรง หรือจะหาซื้อได้ตามงานแฟร์ที่ไปร่วมเท่านั้น ดังนั้น จึงอยากหาตัวแทนจำหน่ายเพื่อกระจายสินค้าในวงกว้าง ซึ่งก็ได้มีการเข้าไปพูดคุยกับร้านค้าสินค้าที่ระลึกบ้างแล้ว

… นี่เป็นอีกหนึ่งผลงานจากสมองคนไทย ที่พยายามคิดนอกกรอบให้เกิดความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมพื้นฐานความเป็นไทยของตัวเอง จึงควรนับถือในความตั้งใจจริงเป็นอย่างยิ่ง

* * * * สนใจสินค้าติดต่อได้ โทร. 02-510-9863 ,01 -803-7641 และ01-251-6452 * * * *