ขนมเปี๊ยะแม่เอยเตรียมออกแบบแพคเกจใหม่ในรูปแบบ 3 มิติครั้งแรกในไทย วาดฝันตั้งร้านขายขนมตามทุกหัวมุมถนนของโลกเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ขนมไทยในตลาดสากล แย้มมีแผนจะขายแฟรนไชส์ในเร็วๆนี้ พร้อมทั้งคาดภายใน 3 ปีจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายดิศรณ์ มาริษชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ขนมแม่เอย – เปี๊ยะ แอนด์พาย (2003) จำกัดและขนมแม่เอย กล่าวถึงโครงการปีนี้ว่า มีแผนที่จะออกแบบแพคเกจใหม่ในรูปแบบ 3 มิติ โดยราคาขนมอาจจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำหรับค่าแว่น โดยพยายามให้ผู้บริโภคได้เล็งเห็นสิ่งที่ตั้งใจทำให้ เช่น กล่องขนมแม่เอยสามารถนำมารีไซเคิลมาทำเป็นงานศิลปะขายได้หลายร้อยบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการจะโกอินเตอร์ด้วยการขายแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเริ่มประกาศขายแฟรนไชส์ในเร็วๆนี้ อย่างน้อยประมาณ 1 ปีหลังจากนี้ไป
“ขนมแม่เอยไปเปิดตลาดที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยได้มีการนำเสนอความเป็นวัฒนธรรมไทย ,ความเป็นขนมแม่เอย และรสชาติของขนม ซึ่งคนญี่ปุ่นที่ได้ชิมแล้วส่วนใหญ่จะซื้อกลับไป”
จุดเด่นของขนมแม่เอย คือ รสชาติความอร่อยที่ผู้บริโภคสามารถเลือกได้มากมาย ตั้งแต่เด็กจนถึงรุ่นผู้ใหญ่ โดยเด็กอายุ 3ขวบ -10 ขวบ จะชอบรสช็อคโกแล็ต ในขณะที่เด็กอายุ 10 ขวบขึ้นไปจะชอบรสชาเขียว หลังจากนั้นก็จะเป็นกลุ่มๆ ไป บางกลุ่มจะชอบไส้งาดำ,เผือก เป็นต้น โดยสินค้าที่ขายดีที่สุด คือ ถั่วไข่อบควันเทียน เป็นรสดั้งเดิม ซึ่งเวลาดมจะไม่ได้กลิ่นหอม แต่ถ้าทานเข้าไปแล้วจะได้กลิ่นหอม
“เราเป็นผู้นำมินิบีนเค้ก ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบรนด์ คือ ขนมแม่เอยและเปี๊ยะ แอนด์พาย เราพยายามทำแม่เอยให้เป็นคิงออฟบีนหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องไส้ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วเขียวดำ ถั่วแดง โดยการทำงานของเราต้องบ่งบอกถึงความเป็นจริง โดยไม่ใส่สารกันบูด ไม่เจือสี หรือแต่งกลิ่น เราใส่อยู่อย่างเดียว คือ สารติดใจ ซึ่งสิ่งที่ลูกค้าติดใจในขนมแม่เอย คือ ความหอมหวานพอประมาณ ,ความอร่อย และเข้ากับยุคสมัยของเขา ตรงที่วาไรตี้ของขนมแม่เอยที่มีหลากหลาย”
ขนมแม่เอยมี 2 แบรนด์ คือ ขนมแม่เอยและเปี๊ยะ แอนด์พาย โดยคอนเซ็ปต์คือขนมแม่เอยจะเน้นไปทางไส้ถั่ว ส่วนเปี๊ยะ แอนด์พาย จะเป็นไส้ผลไม้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น ลำไย ลิ้นจี่ ทุเรียน กล้วย ขนุน สตอร์เบอรี่ แคนตาลูฟ โดยจะทำผลไม้ตามฤดูกาล สินค้าตัวที่ขายดีมี 2 รส คือ ขนมไส้ลำไยและขนุน
สำหรับที่มาของธุรกิจขนมเปี๊ยะแม่เอย เจ้าของขนมกล่าวว่า เริ่มทำเพราะความหิวด้วยงบประมาณที่มีอยู่ 7 บ. เริ่มแรกแพคขนมใส่ถุง 5 ลูก 20 บาท โดยขายหน้าปากซอยก่อน จากนั้นวางขายในร้านขายของฝากหรือที่มีวางขายขนม หรือเบเกอรี่ก็ดี พอทำได้สักพักหนึ่งเริ่มรู้สึกมีปัญหา คือ อยากจะมีชื่อเสียง แต่ทางร้านที่ไปวางขายก็กันไม่ให้เกิด โดยห้ามใส่ชื่อและเบอร์ติดต่อของร้าน เขาเกรงว่าเมื่อขายดีแล้วจะเอาไปทำเอง จึงต้องทำแบรนด์ของตัวเองออกสู่ตลาด หลังจากที่ทำออกมาประสบความสำเร็จ เพราะรสชาติและมีลูกค้าติดตา และได้ลูกค้าจากประเทศฝรั่งเศส
นอกจากนี้ขนมแม่เอยจะคัดสรรสิ่งที่ดีมาทำขนมและคัดสรรราคาที่ไม่แพงจนเกินไป อาทิ ขายในประเทศกับต่างประเทศราคาย่อมแตกต่างกัน เช่น ขายที่ญี่ปุ่น 400-500บ. เมืองไทยขายที่ 95 บ. โดยทุกอย่างที่เราทำมาราคาสำหรับคนไทยเฉพาะ เพราะต้องการให้คนไทยได้รับสิ่งที่ดีๆ มากหรือเสมอภาคกับคนต่างชาติ
วาดฝันเปิดร้านทุกหัวมุมถนนโลก- ตั้งเป้า3ปีเข้าตลาด
เจ้าของร้าน กล่าวว่า ต้องการให้ร้านแม่เอยเปิดบริการในพื้นที่เล็กๆ โดยมีคอนเซ็ปต์ไว้ว่าจะวางขายอยู่ตามหัวมุมถนนของโลก ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ขอแค่พื้นที่เล็กๆ หรือคีออสเล็กๆ ถ้ามันไปตามกระบวนการของมันโดยไม่มีอะไรไปปิดกั้น แม้ในประเทศเชื่อว่าขนมแม่เอยไปไกลได้ นอกจากนี้มองว่าสักวันน่าจะอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในไม่ช้า
“เราอยากจะโต ผมเองคงไม่เก่งพอแต่ถ้ามีผู้บริหารที่เก่งทางด้านการตลาดและสนใจอยากมาร่วมทุนลองเสนอมา คิดว่าไม่น่าเกิน 3 ปีจากนี้ ขณะนี้มีผู้สนใจติดต่อมาแล้วกำลังคุยรายละเอียดกันอยู่”
ส่วนตลาดต่างจังหวัดขนมแม่เอยได้มีการไปทดลองตลาดบริเวณแถวอีสาน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ปัจจุบันกำลังหาดีลเล่อร์อยู่ เพื่อที่จะสามารถกระจายสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีกำลังผลิตวันละเป็น 10,000 ลูก โดยการโตจากปีละ คิดเป็นประมาณ 100% อัตราการผลิตขนมเปี๊ยะขั้นต่ำวันละ 20,000 ลูก หรือประมาณ 2,000 กล่องต่อวัน 1 กล่องมี 10 ชิ้น
ปัจจุบันขนมแม่เอยมีหลากหลายรสชาติให้เลือกทานประมาณ 20 รส ได้แก่ ไส้ถั่วเตย, ไส้เผือก, ไส้ทุเรียน, ไส้ชาเขียว, ไส้งา, ไส้ทูน่า ,ไส้ขนุน เป็นต้น โดยราคากล่องละ 95 บ. และกล่องเล็ก 20 บ. ปัจจุบันขนมแม่เอยมีประมาณ 10 ร้านในกรุงเทพฯ ได้แก่ เซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัล ลาดพร้าว,เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า , ดิโอลล์ สยาม และเดอะมอลล์ ทุกสาขาในลักษณะโปรโมชั่น
*****************************************
ที่มาของชื่อขนมแม่เอย
เจ้าของขนมชื่อดัง กล่าวว่า มีเพื่อนคิดเหมือนกันว่าอยากเป็นคู่แข่งกับขนมแม่เอย โดยจะใช้ชื่อว่า "แม่เจ้าโว๊ย" ซึ่งชื่อขนมแม่เอยเป็นคำไทยที่มีความไพเราะ "แม่" เป็นคำไทย ส่วน"เอย" ก็เป็นคำกลอนและไพเราะ ทำให้เลือกชื่อนี้ในการจดทะเบียน ส่วนอีกแบรนด์ คือ เปี๊ยะ แอนด์พายเปี๊ยะเป็นคำจีนที่คนทั่วโลกรู้จัก ส่วน พาย เป็นคำสากลที่ทั่วโลกรู้จัก โดยให้รู้จักว่า “เปี๊ยะแอนด์พาย” เป็นสินค้าตัวเดียวกันกับแม่เอย
* สนใจขนมไทยๆ "ขนมแม่เอย" ติดต่อได้ที่ 0-2622-0588-9