วันนี้ (25 พ.ย. 68) เวลา 13.30 นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “ยุติความรุนแรงทางดิจิทัล เพื่อสตรีและเด็กผู้หญิง” โดยมีนางจตุพร โรจนพาณิช อธิบดีกรมกิจการ สตรีและสถาบันครอบครัว กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนายกันตพงศ์ รังสีสว่าง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปพม.) คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ศิลปิน ดารา ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ องค์กร พัฒนาเอกชน และสื่อมวลชน รวมจำนวนกว่า 300 คน เข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 2 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรุงเทพฯ ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทั้ง 76 จังหวัด เขาร่วมงานผ่านระบบ Zoom Meeting
นายอัครา กล่าวว่าสืบเนื่องจากองค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล และสำหรับประเทศไทย คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 กำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็น “เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี” ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคล ในครอบครัวอย่างต่อเนื่อง โดย พม. เป็นหน่วยงานหลักในการประสานการดำเนินงาน และขับเคลื่อนงานดังกล่าว และในปีนี้ พม. กำหนดจัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “ยุติความรุนแรงทางดิจิทัล เพื่อสตรีและเด็กผู้หญิง” ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญของ UN Women (องค์การเพื่อสตรี แห่งสหประชาชาติ) ในปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกคนในสังคมตระหนักรู้ถึงสาเหตุ ปัจจัย และแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาความรุนแรงทางดิจิทัลที่เกิดขึ้นกับเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ซึ่งนับเป็นความรุนแรงรูปแบบใหม่ที่สังคมกำลังเผชิญอยู่ จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความล้ำสมัยทางดิจิทัลมีทั้งผลดีอย่างมหาศาลและผลเสียอย่างร้ายแรง เพื่อร่วมสร้างเจตคติ ปลูกฝังมายาคติที่ถูกต้องและเหมาะสม ส่งเสริมบทบาทในการเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบและเป็นพลังในการยุติความรุนแรง ต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวให้ลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ
นายอัครา กล่าวต่อไปว่า พม. ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาความรุนแรงทางดิจิทัลที่เกิดขึ้นกับเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว เพราะปัจจุบันคนทุกช่วงวัยสามารถเข้าถึงข้อมูลทางดิจิทัลได้อย่างอิสระ การเสพข้อมูลและการ สื่อสาร มักขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางสังคม ลักษณะนิสัยส่วนบุคคล การศึกษา รวมถึงวุฒิภาวะของบุคคลด้วย และข้อเสียของความล้ำสมัยทางเทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่ไม่ให้เกียรติและไม่เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ซึ่งกันและกัน โดยความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกรูปแบบไม่เพียงแต่สร้างความกดดันหรือความเครียดแก่ผู้ถูกกระทำเท่านั้น ยังส่งผลกระทบต่อการสร้างรายได้และการเพิ่มขึ้นของหนี้สินของครอบครัว รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสังคมอย่างมีนัยสำคัญ พม. จึงมีนโยบาย “พม. ใกล้คุณ” ซึ่งเป็นนโยบายที่นำไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้เห็นผลอย่างเป็น รูปธรรม โดยมีเป้าหมายหลักคือ “ลดรายจ่าย สร้างรายได้ รีสตาร์ทชีวิต” ด้วยการให้คำปรึกษาและให้การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางหรือผู้ประสบปัญหาทางสังคมผ่าน “ศูนย์ พม. Restart” ให้สามารถลดรายจ่าย สร้างรายได้จัดการหนี้และตั้งหลักได้จริง
นายอัครา กล่าวเพิ่มเติมว่าการจัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงฯ ในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งความพยายาม ในการรณรงค์ ให้สังคมปราศจากความรุนแรงอย่างถึงที่สุด ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่ามีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ตลอดจนให้การส่งเสริม และสนับสนุนอย่างแพร่หลาย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม แสดงให้เห็นว่าประชาชนและทุกภาคส่วน ได้ให้ความสำคัญ อย่างมากกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว กิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน ประกอบด้วย
การติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาว ให้แก่นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้ดำเนินกิจกรรมแล้วเสร็จ ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
การรับชมคลิปคำปราศรัยนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันรณรงค์ยุติความรุนแรงฯ
การเสวนา เรื่อง “Family First: ครอบครัวไทยมีรัก ไร้ความรุนแรง Safe Zone for All” โดย..
1) นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม.
2) ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์รณชัย คงสกนธ์ รองประธานกรรมการคนที่สองในคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ครอบครัวแห่งชาติ (กยค.)
3) คุณกิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย
4) พลตำรวจตรีหญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ
- พิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติสำหรับบุคลากร/หน่วยงานที่สนับสนุนและส่งเสริมการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว
- การจัดแสดงบูธหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. และหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง/NGO เช่น โรงพยาบาลตำรวจ,องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women),สำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNFPA),สมาคมซอนต้า ประเทศไทย (Zonta International)
นอกจากนี้ พม. โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ยังจัดให้มีสื่อประชาสัมพันธ์เชิงให้ความรู้ด้าน ครอบครัว รวมถึงการรณรงค์ยุติความรุนแรงตลอดทั้งปี ผ่านบุคคลที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งถือเป็นตัวแทนของภาคประชาชนด้วย
นายอัครา กล่าวตอนท้ายว่า ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคล ในครอบครัว ประจำปี 2568 ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด และจับมือไปด้วยกัน อย่างแน่วแน่ ร่วมสร้างความตระหนักรู้ กระตุ้นจิตสำนึก เปลี่ยนแปลงความคิด และลงมือทำในทันที โดยการไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวทุกรูปแบบ และหากมีผู้ใดพบเห็นหรือถูกกระทำ ด้วยความรุนแรงในครอบครัว สามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วน พม. 1300 โทรฟรีตลอด 24 ชม. เพื่อให้สังคมไทยของเรา เป็นพื้นที่แห่งความปลอดภัย สงบสุข และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ซึ่งกันและกันตลอดไป


