กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยให้ระมัดระวังอันตรายด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในช่วงน้ำท่วม ทั้งการจมน้ำ รวมถึงอันตรายจากไฟฟ้ารั่วหรือไฟฟ้าช็อต ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้อย่างฉับพลัน พร้อมแนะมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
วันนี้ (24 พฤศจิกายน 2568) นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั้งภาคกลางและภาคใต้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟดูดจากไฟฟ้าที่รั่วในพื้นที่น้ำท่วมขัง โดยพบว่าหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นในบริเวณบ้านของผู้บาดเจ็บเอง จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
สำหรับแนวทางป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าในช่วงน้ำท่วม ขอให้ประชาชนปฏิบัติ ดังนี้
1.ตัดกระแสไฟฟ้าและงดใช้อุปกรณ์ทุกชนิดกรณีน้ำท่วมภายในบ้าน เพราะอาจเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้
2.หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำเข้าใกล้ปลั๊กไฟ สายไฟ อุปกรณ์ที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า หรือเสาไฟฟ้า เนื่องจากเมื่อเกิดไฟฟ้ารั่วจะมีกระแสไฟฟ้ากระจายเป็นวงกว้างไม่ต่ำกว่า 3 เมตรขึ้นไป
3.ห้ามแตะสวิตช์ไฟ ปลั๊กไฟ สายไฟ หลอดไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียบปลั๊กอยู่ ในขณะที่ร่างกายเปียกชื้น หรือกำลังยืนอยู่บนพื้นเปียกหรือพื้นที่มีน้ำขัง
4.หากพื้นที่อยู่อาศัยมีน้ำท่วมขัง ควรอพยพไปอยู่ที่ศูนย์อพยพตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
นายแพทย์มณเฑียร กล่าวเพิ่มเติมว่า การป้องกันล่วงหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยขอแนะนำให้ประชาชนย้ายปลั๊กไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นที่สูงให้อยู่เหนือบริเวณที่มีโอกาสน้ำท่วมถึง ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอยู่เป็นประจำ หากพบว่าชำรุดควรส่งซ่อมหรือเลิกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้น และห้ามใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่โดนน้ำท่วมแล้ว หรือหากจะนำกลับมาใช้ต้องตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้งาน
ทั้งนี้ หากพบผู้ถูกไฟฟ้าดูด ให้ตัดกระแสไฟในที่เกิดเหตุทันที ห้ามสัมผัสตัวผู้ถูกไฟดูดด้วยมือเปล่าเด็ดขาด ควรใช้วัสดุที่ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เช่น ถุงมือยาง ผ้าแห้ง พลาสติกแห้ง เขี่ย ผลัก หรือฉุดกระชากอย่างรวดเร็ว เมื่อแน่ใจว่าปลอดภัยแล้วให้ตรวจสอบการหายใจและชีพจร หากผู้บาดเจ็บไม่รู้สึกตัวให้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ทันที และโทรแจ้งสายด่วน 1669 เพื่อประสานทีมแพทย์ฉุกเฉิน
กรมควบคุมโรคขอส่งความห่วงใยไปยังประชาชนทุกคนในพื้นที่ประสบอุทกภัย และขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอันตรายด้านสุขภาพอย่างเคร่งครัด พร้อมหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422


