มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมของไทย ด้วยการคว้ารางวัลอันทรงเกียรติระดับนานาชาติ “IET Engineers in Society Awards 2025” ด้าน Sustainability and Climate Change จาก The Institution of Engineering and Technology (IET) สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นสถาบันวิศวกรรมชั้นนำของโลกที่มีประวัติยาวนานกว่า 150 ปี และได้รับพระราชทานกฎบัตร (Royal Charter) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1921 รางวัลนี้สะท้อนถึงความสำเร็จของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการขับเคลื่อนพันธกิจสู่การเป็น Carbon Neutrality University อย่างแท้จริง และยืนยันบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย
โครงการ “Building Beyond Roads” ได้รับการคัดเลือกให้คว้ารางวัลสูงสุดในปีนี้จากผลงานที่เปลี่ยน “ขยะพลาสติกและเศษหินฝุ่น” ให้กลายเป็นวัสดุก่อสร้างมูลค่าสูง ซึ่งสามารถนำไปใช้สร้างถนนที่แข็งแรง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีคาร์บอนสุทธิเป็นลบ หรือ “Negative Carbon Road” ภายในพื้นที่ถนนมหาวิทยาลัย โดยไม่กระทบต่อรากไม้ใหญ่ แสดงถึงความใส่ใจทั้งทางเทคนิคและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
ต่อยอดจากความสำเร็จด้านถนนสีเขียว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสิ่งแวดล้อมอีกขั้น ด้วยการเปิดตัว ลานจอดรถรักษ์โลกแห่งแรกของประเทศไทย “U-Parking” หรือ Negative Carbon Parking บนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ณ ลานจอดรถหน้าสำนักบริการวิชาการ (UNISERV) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายใต้การออกแบบและดำเนินงานของคณะวิศวกรรมศาสตร์ “U-Parking” เป็นลานจอดรถต้นแบบที่มี ผิวพรุนและซึมน้ำ ผลิตจากขยะพลาสติกและถ่านชีวมวล ซึ่งช่วยลดขยะและลดการเผาในพื้นที่เกษตร ทั้งยังช่วยให้น้ำฝนซึมผ่านพื้นผิวได้ดี ไม่เกิดน้ำขังบนถนน และสามารถนำน้ำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง ผลงานนี้ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้เทียบเท่าการปลูกป่ากว่า 57 ไร่ต่อปี อีกทั้งยังเป็นต้นแบบของการก่อสร้างถนนที่อนุรักษ์ต้นยางนาอายุ 150 ปี ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
โครงการ “U-Parking” อยู่ภายใต้ทีมวิจัย นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.พีรพงศ์ จิตเสงี่ยม ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ หัวหน้าโครงการ Negative Carbon Parking & Road โดยมุ่งพัฒนาเทคนิคการก่อสร้างคอนกรีตผสมวัสดุ Carbon Removal Materials (Biochar) จากเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อเป็นองค์ประกอบของคอนกรีตที่มีความรักษ์โลกในรูปแบบใหม่ และต่อยอดด้วยเทคโนโลยีการสร้างพื้นผิวทางซึมน้ำ (Permeable Pavement) เพื่อการใช้น้ำอย่างยั่งยืน ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในทุกขั้นตอนของการก่อสร้าง และเป็นก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
ความสำเร็จของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครั้งนี้เกิดจากความร่วมมืออันแข็งแกร่งกับพันธมิตรระดับโลก โดยมี National University of Singapore (NUS) ร่วมตรวจประเมินผลความยั่งยืนด้วยกระบวนการ Life Cycle Assessment (LCA) เพื่อยืนยันคุณภาพทางวิทยาศาสตร์ และ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG เป็นผู้สนับสนุนหลักในการต่อยอดนวัตกรรมจากห้องปฏิบัติการสู่การผลิตจริงกว่า 600 ตัน โดยโครงการดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา CPAC Extra Base Layer สูตร Carbon Storage นวัตกรรมทดแทนวัสดุชั้นพื้นทางและชั้นรองพื้นทางที่ CPAC กำลังขยายตลาดอยู่ในปัจจุบัน ความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมของคนไทยที่มีศักยภาพในระดับโลก และเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบาย Inclusive Green Growth ในภาพใหญ่ของ SCG และความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนถึงพลังของการบูรณาการความรู้ระหว่างภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม ที่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยสามารถยืนหยัดในเวทีโลกในฐานะผู้นำด้านวิศวกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างสง่างาม
การได้รับรางวัล IET Engineers in Society Awards 2025 ในครั้งนี้ไม่เพียงตอกย้ำถึงความสำเร็จของ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้านนวัตกรรมการก่อสร้างถนนยุคใหม่ แต่ยังสะท้อนถึงพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการสร้างงานวิจัยเพื่อสังคม (Socially Responsible Research) ที่ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และแสดงให้เห็นว่าการจัดการขยะไม่ใช่ภาระของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่คือภารกิจร่วมกันของทุกคนในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้โลกใบนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างนวัตกรรมเพื่อโลกที่ดีกว่า สร้างคุณค่าคืนสู่สังคม ทั้งในระดับประเทศและระดับโลกอย่างต่อเนื่อง


