โรงเรียนนานาชาติในไทยปัจจุบันมักมีจุดเด่นและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน แต่หนึ่งในจุดเด่นที่เป็นหัวใจสำคัญของแต่ละโรงเรียน นั่นคือ “หลักสูตร” ที่โรงเรียนเลือกใช้ในระบบการเรียนการสอน ซึ่งหลักสูตรที่กำลังมาแรงในปัจจุบันและอยู่ในความสนใจอย่างมากในขณะนี้ คือ ระบบ International Baccalaureate (IB) ที่ไม่ใช่แค่เน้นเรื่องการเรียนเนื้อหา แต่ ยังเน้นปลูกฝังให้เด็กเป็นนักเรียนที่ใฝ่รู้ รู้จักคิดตั้งคำถาม คิดเป็นระบบ และ สามารถเชื่อมโยงความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงได้
ดร.เย่าล่าง จาง (Dr.Chang Yao-Lang) ประธานกรรมการโรงเรียนนานาชาติเวลล์ส กล่าวว่า
โรงเรียนนานาชาติ Wells ออกแบบหลักสูตรโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อปูทางสู่ความสำเร็จของนักเรียน โดยการ ผสมผสานมาตรฐานที่เข้มงวด การพัฒนาแบบองค์รวม และรู้จักเชื่อมโยงเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง หลักสูตรของเราอิงตามทักษะ มุ่งเน้นการค้นคว้า และพัฒนาขึ้นตามแนวคิดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ตามมาตรฐาน U.S. Common Core และแนวทางของหลักสูตร International Baccalaureate (IB) หลักสูตรนี้ไม่เพียงมุ่งเน้นด้านความเชี่ยวชาญทางวิชาการเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้าน สติปัญญา อารมณ์ สังคม และพฤติกรรมของนักเรียนแต่ละคนด้วย และในกระบวนการพัฒนาหลักสูตร ยังมีหลายปัจจัยสำคัญที่ถูกนำมาพิจารณา ได้แก่
● การสอดคล้องกับมาตรฐานและแนวปฏิบัติสากล เพื่อรับประกันความสามารถในการแข่งขันระดับโลก
● ความต้องการในการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละช่วงวัย
● การบูรณาการทักษะสำคัญ เช่น การคิดเชิงวิพากษ์ การแก้ปัญหาและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
● การผสานองค์ประกอบทางวัฒนธรรม เช่น ภาษาไทยและประเพณี เพื่อปลูกฝังความเป็นพลเมืองโลก ที่มีความรับผิดชอบ
● การใช้กลยุทธ์การสอนและการประเมินผลที่หลากหลาย เพื่อรองรับการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน
● การให้ความสำคัญกับ “ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของโรงเรียน (Expected Schoolwide Learning Results: ESLRs)” ซึ่งส่งเสริมทัศนคติและพฤติกรรมของการเรียนรู้ตลอดชีวิต เช่น การคิดอย่าง มีวิจารณญาณ การเป็นพลเมืองโลกที่รับผิดชอบ และการชื่นชมวัฒนธรรมไทย
“โดยรวมแล้ว โรงเรียนนานาชาติ Wells มุ่งสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าสนใจและมีความหมาย เพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับความสำเร็จทั้งในด้านการศึกษาและอาชีพในอนาคต” ดร.จาง เน้นย้ำ
สำหรับหลักสูตรที่โดดเด่นของโรงเรียนนานาชาติ Wells ในแต่ระดับชั้นนั้น ดร.จาง ระบุต่อว่า ในระดับ อนุบาล เราใช้หลักสูตรอิงตามระบบอเมริกัน เน้นการวางรากฐานทักษะ การอ่านเขียน คณิตศาสตร์ การพัฒนาทางอารมณ์ สังคมและความคิดสร้างสรรค์ สภาพแวดล้อม การเรียนรู้ ได้รับการดูแลอย่างอบอุ่น ส่งเสริมความอยากรู้อยากเห็นและนิสัยการเรียนรู้ตั้งแต่ในวัยเยาว์ ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตทางวิชาการในอนาคต ระดับประถมศึกษา เน้นหลักสูตรมุ่งเน้น ทักษะและการตั้งคำถามตามมาตรฐาน U.S. Common Core ส่งเสริมการพัฒนาแบบองค์รวม ทั้งด้าน สติปัญญา อารมณ์ สังคม และพฤติกรรม มีการเรียนการสอนแบบบูรณาการในวิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา คณิตศาสตร์ การอ่านเขียน ภาษาไทย และวัฒนธรรมไทย นอกจากนี้ยังมีวิชาศิลปะ พลศึกษา เทคโนโลยี และภาษาต่างประเทศ เพื่อเตรียม ความพร้อมสู่ระดับมัธยมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนใช้หลักสูตร เตรียมเข้ามหาวิทยาลัยที่เข้มข้น เช่น Advanced Placement (AP), AP Capstone, และ IB Diploma Programme (IB DP) รวมถึงโอกาสเรียนหลักสูตรระดับมหาวิทยาลัยผ่าน Arizona State University (ASU) นักเรียนยังได้เข้าร่วมกิจกรรมฝึกงาน การพัฒนาภาวะผู้นำผ่านสภานักเรียน ชมรมการประชุม และโครงการบริการชุมชน ในทุกระดับชั้นของ Wells บูรณาการเทคโนโลยี กิจกรรมนอกห้องเรียน เรียนรู้จากประสบการณ์จริง เพื่อพัฒนานักเรียนให้เป็นนักคิด นักสื่อสาร และนักเรียนรู้ตลอดชีวิต
“สำหรับกิจกรรมนอกห้องเรียน โรงเรียนนานาชาติ Wells ได้จัดโปรแกรมเสริมและกิจกรรมมากมาย เช่น ชมรมวิชาการ การโต้วาที Model United Nations, โปรแกรม STEM, ชมรมอาสาสมัคร, ทีมกีฬา, และศิลปะการแสดง (ดนตรี, ละคร, ทัศนศิลป์) จุดเด่นที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ โครงการ Summer Science Program ร่วมกับมหาวิทยาลัยฮาวาย นักเรียนจะใช้เวลา 6 สัปดาห์ร่วมทำงานกับนักวิจัยระดับปริญญาโท และเอก ในห้องแล็บ ได้เรียนรู้การทำงานจริงในสภาพแวดล้อมมหาวิทยาลัย พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมและ ธรรมชาติของฮาวาย อีกโครงการสำคัญคือ Creativity, Activity, and Service (CAS) เป็นหัวใจหลักของ การพัฒนานักเรียนระดับมัธยม โปรแกรมนี้ส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมกับชุมชน ผ่านกิจกรรมบริการสังคม โครงการ สิ่งแวดล้อม และการเป็นผู้นำ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสฝึกงานกับองค์กรท้องถิ่น เพื่อเชื่อมโยงความรู้ ทางวิชาการกับโลกการทำงานจริง” ประธานกรรมการโรงเรียนนานาชาติเวลล์ส กล่าว
นอกจากนี้ โรงเรียนนานาชาติ Wells ยังสนับสนุนให้นักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันในด้านต่างๆ ทั้งด้านวิชาการ ศิลปะ และกีฬา ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและเป็นการลองเวทีก่อนลงแข่งขันสอบจริง เช่น Model United Nations, World Scholar’s Cup, การโต้วาที, การแข่งขันหุ่นยนต์, การแข่งขันกีฬา ฯลฯ ที่ผ่านมาถือว่า นักเรียนของเราประสบความสำเร็จและได้รับรางวัลมากมาย เช่น แชมป์โต้ วาทีระดับประเทศ, รางวัลคณิตศาสตร์และการสะกดคำ ฯลฯ ซึ่งการคัดเลือกนักเรียนขึ้นอยู่กับ ผลการเรียน ความสามารถ และคำแนะนำจากครู โดยโรงเรียนจะมีการฝึกฝน และการให้คำปรึกษา เพื่อพัฒนา ทักษะการ พูด การคิด และการทำงานเป็นทีม
นายธีโอ แอน รุสโซ นักเรียนชั้นเกรด 12 ได้คะแนน SAT รวม 1560 เคยได้รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งในระดับภูมิภาค ในการแข่งขันเขียนเรียงความประวัติศาสตร์เกี่ยวกับประเด็นการเนรเทศในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่โรงเรียนภาษาฝรั่งเศส เมื่อตอนเรียนอยู่เกรด 9 กล่าวว่า ตนชอบเรียนวิชาชีววิทยามากที่สุด เพราะสามารถทำวิจัยด้วยตัวเองในหัวข้อที่ตนเลือกและสนใจ ซึ่งมันสนุกมากและตั้งใจจะศึกษาต่อด้านนี้ในอนาคต เพราะอยากจะทำงานในสายงานวิจัยโดยเฉพาะ ซึ่งหลังจากได้เข้าร่วมค่ายฤดูร้อน ที่ฮาวาย ผมได้สัมผัสกับ ประสบการณ์การทำงานในห้องแล็บ วิจัยพืชจริงๆ และรู้สึกชอบมากที่ทุกคน ในห้องแล็บต่างทำงานของ ตนเองอย่างอิสระ แต่ก็ยังร่วมมือกันเพื่อเป้าหมายเดียวกัน
“ผมคิดว่ากิจกรรมนอกหลักสูตรมีความสำคัญ เพราะมันช่วยเสริมการเรียนรู้ของคุณ แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องทำอย่างมีความสุข เพื่อการเรียนรู้ของตัวเราเอง ซึ่งที่โรงเรียนผมได้เข้าร่วม Wells Hawaii Summer Science Program ที่มหาวิทยาลัยฮาวาย ตอนนั้นผมได้เรียนรู้จริงๆว่า การทำงานในห้องแล็บเป็นอย่างไร นับเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่ามากๆ เพราะยิ่งทำให้ผมรู้แน่ชัดว่านี่คือสิ่งที่ผมอยากทำในอนาคต และเร็วๆนี้ ผมยังเตรียมไปร่วมกิจกรรม Taipei International Youth Science Forum ที่ไต้หวันซึ่งผมจะได้มีโอกาส ทำวิจัยอีกครั้ง สนุกแน่นอนครับ”
นายธีโอ แอน รุสโซ ยังให้เคล็ดลับการเรียนดีควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมด้วยว่า ถ้ามีการสอบตนจะอ่านหนังสือก่อนล่วงหน้า รวมทั้งในช่วงสุดสัปดาห์ก่อนสอบ แต่สิ่งสำคัญมากคือ การตั้งใจฟังในห้องเรียน มีวิธีเรียนมากมาย เช่น การทบทวนเนื้อหาแบบเว้นช่วงเวลา (spaced repetition) หรือ เทคนิคบริหารเวลาช่วยเพิ่มสมาธิ (Pomodoro method) แต่สิ่งที่สำคัญคือคุณต้องอยู่ในชั้นเรียน ผมมักจะทบทวนบันทึกของ ตัวเอง ถ้าไม่เข้าใจในห้องเรียนหรือจำไม่ได้ ผมชอบไปนั่งร้านกาแฟ กับคอมพิวเตอร์โดยไม่มีโทรศัพท์ เพราะ สภาพแวดล้อมช่วยให้มีสมาธิ อย่าเครียดเกินไป คุณต้องหากิจกรรมลดความเครียด ผมเล่นเปียโนเพื่อคลาย เครียด มันเป็นการผ่อนคลาย
ด.ญ.สุณัฏฐกานต์ สิริวงศ์กุล (กานต์) นักเรียนชั้น เกรด 5 เป็นผู้ชนะการแข่งขันสะกดคำ, การแข่งขัน เรียงความ และการแข่งขันบทกวี กล่าวว่า สิ่งที่ตนชอบที่สุดในโรงเรียน คือ การเรียนแบบที่ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เพราะตนชอบตั้งคำถาม และค้นหาคำตอบด้วยตนเอง ชอบค้นคว้าและค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รักการเขียนมาก เพราะการเขียนช่วยทำให้ตนได้แสดงออก แบ่งปันความคิด และอารมณ์ของตัวเอง และยังชอบวิชา ศิลปะด้วย ในอนาคตอยากเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เพราะเป็นคนที่รักสัตว์และธรรมชาติมาก
“เคล็ดลับการเรียนดีของกานต์ คือ ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยล้า เครียด หรือหมดแรง สิ่งสำคัญคือ คุณต้องรู้ว่าควรจะไปคุยกับใคร ซึ่งแหล่งพลังใจของฉัน คือ เพื่อนสนิทและคุณแม่ของฉัน ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้ ทุกคนมีใครสักคนที่สามารถปรึกษาได้ และเมื่อฉันเรียนหนังสือ ฉันจะหาวิธีทำให้มันสนุกขึ้น เช่น ตอนเรียน ภาษาจีน ฉันจะใช้ภาพช่วยจำตัวอักษรจีน อะไรก็ตามที่ช่วยให้คุณมีแรงบันดาลใจมากขึ้น ก็นับว่ามีประโยชน์ ทั้งนั้น” น้องกานต์แนะนำ


