รพ.กรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล ประสบความสำเร็จผ่าตัดข้อเข่าเทียมด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดรุ่นใหม่ มากกว่า 180 เข่า ตอกย้ำผู้นำการรักษาโรคข้อเข่าในสังคมผู้สูงอายุ
ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์” มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ขณะเดียวกัน โรคข้อเข่าเสื่อมยังคงเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยมีคนไทยป่วยกว่า 6 ล้านคน
โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะ “โรงพยาบาลเพื่อกระดูกและสมอง” เผยความสำเร็จในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมด้วยนวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (VELYS™ Robot-Assisted Solutions) ไปแล้วมากกว่า 180 เข่า (สถิติตั้งแต่ ตุลาคม 2024 – กันยายน 2025) สะท้อนถึงมาตรฐานการรักษาระดับสากลที่ผสานเทคโนโลยีกับความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ
คุณรัฐพงษ์ อำพันวงษ์ ผู้ช่วยประธานคณะผู้บริหาร โรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่ม 1 และผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “ความสำเร็จครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของโรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล ที่พร้อมรับมือสังคมผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคกระดูกด้วยการนำนวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม มาผสานกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยและสร้างมาตรฐานในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมในประเทศไทย”
นพ.พนธกร พานิชกุล ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านข้อเข่าและข้อสะโพก ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้นวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม กล่าวว่า นวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมที่อยู่ภายใต้การควบคุมสั่งการของศัลยแพทย์ข้อเข่า ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ ทำให้ผู้ป่วยบาดเจ็บบริเวณแผลผ่าตัดน้อย ช่วยให้ฟื้นตัวไว และกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ใกล้เคียงปกติในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งสถิติหลังการรักษาด้วยนวัตกรรมนี้ของโรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล อัตราการติดเชื้อหลังการผ่าตัด รวมทั้งการผ่าตัดซ้ำน้อย และสามารถลุกเดินได้ภายใน 6 ชั่วโมง หลังจากการผ่าตัด ซึ่งในระหว่างการผ่าตัด เครื่องสามารถช่วยวางแผนให้ศัลยแพทย์วางข้อเข่าเทียมได้อย่างถูกต้องตามระนาบที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งจะส่งผลให้อายุการใช้งานยาวนานกว่าเทคนิคเดิม
ประสบการณ์ตรงจากผู้ป่วยในช่วง “ตัวจริง เล่าเรื่องจริง รักษาด้วย VELYS™” คุณนพดล บุญเสนอ มาบอกเล่าประสบการณ์จริงจากการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมว่า “หลังจากได้ปรึกษาแพทย์ ส่วนตัวมีความมั่นใจในเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ชำนาญการ แล้วมีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพ วางแผนให้การผ่าตัดมีผลลัพธ์ที่ดี ไม่เจ็บหลังจากลองเดินหลังจากผ่าตัด 6 ชั่วโมง เจ็บน้อย พักฟื้นได้ไวในขณะรักษาตัว พร้อมกับการกายภาพฝึกเดิน ช่วยให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง”
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า รพ.กรุงเทพ เปิดเผยว่า เทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดสามารถลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อโดยรอบได้มาก ทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อยลงและฟื้นตัวเร็วขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด “จากเดิมที่ผู้ป่วยต้องใช้เวลาเดินได้หลังผ่าตัดถึง 20 ชั่วโมง ปัจจุบันสามารถลุกเดินได้ภายใน 6 ชั่วโมงเท่านั้น”
เขากล่าวต่อว่า หุ่นยนต์ช่วยให้การตัดกระดูกเป็นไปอย่างละเอียดและแม่นยำสูง สามารถปรับองศาได้ตามสรีระเฉพาะของแต่ละคน เช่น 89.5 หรือ 91 องศา ซึ่งการใช้มือเปล่าทำไม่ได้ ทำให้ตำแหน่งของข้อเทียมถูกต้องพอดีกับโครงสร้างร่างกาย ส่งผลให้ข้อเข่าทำงานได้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด
นอกจากนี้ การใช้หุ่นยนต์ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของข้อเข่าเทียมให้ยาวนานขึ้น ลดความจำเป็นในการผ่าตัดซ้ำ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญของการรักษาในระยะยาว แม้ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าการผ่าตัดทั่วไปเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และผลลัพธ์ในระยะยาว ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก
สำหรับสาเหตุที่ผู้ป่วยเลือกเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เนื่องจากเป็น โรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดข้อเข่า โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางกว่า 7 คน ซึ่งผ่านการฝึกอบรมและถ่ายทอดความรู้ระดับนานาชาติ ปัจจุบันโรงพยาบาลกรุงเทพได้ทำการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ไปแล้วกว่า 188 ราย มากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก
แพทย์ระบุว่า โรงพยาบาลกรุงเทพยังทำหน้าที่เป็นศูนย์ฝึกอบรมให้กับแพทย์จากต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ผ่าตัดข้อเข่า ทั้งนี้ โรงพยาบาลยังมีทีมสหสาขาวิชาชีพครบวงจร ตั้งแต่แพทย์โรคหัวใจ แพทย์อายุรกรรมวิกฤต กายภาพบำบัด ไปจนถึงพยาบาลเฉพาะทาง เพื่อดูแลผู้ป่วยสูงอายุให้ปลอดภัยและฟื้นตัวได้เร็วที่สุด
สำหรับทิศทางในอนาคต โรงพยาบาลกรุงเทพตั้งเป้าพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ให้มีความละเอียดและใกล้เคียงธรรมชาติมากขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยหลังผ่าตัดรู้สึกได้ถึง “ข้อเข่าใหม่ที่เหมือนข้อเข่าจริง” ทั้งในด้านการเคลื่อนไหวและความสบายขณะใช้งาน
“เรามุ่งพัฒนาให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงคนไข้ได้มากขึ้น และทำให้ผลลัพธ์ของการรักษาไม่เพียงแค่หายปวด แต่กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ สุขภาพดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม” แพทย์กล่าวทิ้งท้าย
โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนลยังคงเดินหน้าพัฒนาศูนย์เฉพาะทางด้านข้อเข่าและข้อสะโพกอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการรักษาโรคข้อระดับนานาชาติ รวมถึงการเป็นศูนย์กลางของการรักษาด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดระดับเอเซียในอนาคต เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างชาติ